วันจันทร์, กรกฎาคม 27, 2563

มิติใหม่ไล่เผด็จการ สนุกสนานกับเยาวชน 'แฮมทาโร่' แต่ต้องระวัง 'วิชามาร' ทหารป้ายสี 'หมิ่นฯ'


อย่าว่าแต่นักวิชาการที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางจักรวาล (ของสลิ่ม) บอกว่า งงเราเองก็งงเหมือนกัน กับการ #วิ่งกันนะแฮมทาโร่ ของบรรดานักประชาธิปไตยตัวจริง เจ็นเนอเรชั่นซี (แซด) ก็ได้กระจ่างขึ้นมาบ้างจากโพสต์ของ Frank Thomya ว่า แฮมมาอย่างไร

(โปรดดูรายละเอียดที่ https://www.facebook.com/frank.thomya/posts/10158712055954808?CP-R)

และด้วยบริบททั้งหมดของการวิ่งรอบ สวนวนรถหน้าสตรีวิทย์(ของ คสช.) ทั้งพลังกระตือรือล้นและเพลง เวอร์ชั่นยุบสภานี่เป็นอะไรใหม่มากสำหรับการขับไล่เผด็จการทหารไทยในคราบ ลุงที่มีทั้งความครื้นเครงในอารมณ์และหนักแน่นในปณิธาน

ชนิดที่คำวิพากษ์กากๆ ประวัติศาสตร์ของหมอ ‘Porn drifts’ โรจนสุนันท์ และข้ออ้างมั่วซั่ว “พี่เคยเจอมาก่อนแล้ว” ของนักการเมืองผู้เวียนว่ายอยู่แต่กับ ปลอกคอ อย่าง แรมโบ้ อัตถาวงศ์ เป็นเพียงเสลดถ่มริมทางซึ่งนักประชาธิปไตยวัยมิลเล็นเนี่ยลเห็นแล้วขยะแขยง

วัยอย่างเราได้ยิน วิ่งแฮมทาโร่ ก้องงๆ” ขอนำเอาคอมเม้นต์ของ สุรพศ ทวีศักดิ์ (น่าจะรุ่นบูมเมอร์) มายืนยัน “พอไปสังเกตการณ์ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาครึกครื้นจริงๆ ไม่เครียด บรรยากาศผ่อนคลาย สบายๆ แต่ก็แสดงความรู้สึกต่อต้านเผด็จการอย่างจริงจัง”
 
แล้วอย่างนี้ กอ.รมน. และตำรวจนอกเครื่องแบบ ยังจะพยายามยัดเยียดข้อหา หมิ่นสถาบันฯให้กับพวกเขาอีกหรือ ดังที่ ทนายนิทัศน์ ระบุเป็น “เกมส์โหดเพื่อหาทางเล่นงานนศ กำลังเดินหน้าเต็มสูบ เมืองไทยนี้น่ากลัวจริงๆ”

เขาเอาภาพแชร์ชิ้นหนึ่งมายืนยัน มือถือผ่นกระดาษข้อความ “อยากมีประธานาธิบดี” โดยบอกว่า “คนนี้แอบเข้าไปในกลุ่ม นศ. ไปหลายคนแล้วแอบไปนั่งในมุมที่คนอื่นมองไม่เห็น​และให้พวกถ่ายรูปเอามาลง” เพื่อให้ร้ายว่า ล้มเจ้า

อีกราย ชายสวมหน้ากากอนามัยยกป้าย “ล้มล้างระบอบกษัตริย์ สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ” ภาพนี้ถูก ส.ส.พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ใช้เป็นหลักฐาน ประจานรัฐบาลให้หยุดใช้ วิชามารใส่ร้ายขบวนการนักเรียน-นักศึกษาได้แล้ว

ถึงแม้จะมีข้อความหมิ่นเหม่ให้สันดานสลิ่มและเผด็จการเอาไปตีความหาเรื่องได้ แต่เด็กเหล่านี้มีทั้งวุฒิภาวะเปี่ยมล้นของผู้ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง มีความรอบรู้ทางประวัติศาสตร์และวิชาการ มากกว่าพรทิพย์และสุพรอย่างแน่นอน

ข้อความบนแผ่นป้ายชนิดที่สาธิต ซาไก (อุ๊ย ขออภัย เซกัล) คาบไปฟ้อง ผบ.ทบ.นั้นบางอันเป็นจิตสำนึกอย่างคนรุ่นใหม่ซึ่งคนรุ่นสาธิต ไม่เข้าใจแต่จับเอาไปกระเดียด มันเป็นความลึกล้ำทางสติปัญญาที่พวกสืบทอดอำนาจรัฐประหารคิดไม่ถึง
 
ดังเช่นข้อความ “จงทุบมงกุฏให้แตกสลาย แล้วโปรยเศษซากแจกจ่ายแก่ประชาชน...” ก็มาจากถ้อยปรัชญาทางการเมืองของ ธอมัส เพน หรือ “เอวลอย ไปอยู่ที่ไหน เคยรู้บ้างไหม โปรดคิดคำนึงถึงเอวลอยยยยย” ก็เอาเนื้อเพลงของวง คาราบาวมาเล่น

เช่นกันกับเพลง แฮมทาโร่อันสนุกสนานก็ถูกดัดแปลงเนื้อร้องมาใช้เพื่อการประท้วงอย่างคล้องจอง “ได้เวลาวิ่ง กลิ้งนะกลิ้งนะแฮมทาโร่ สนุกจริงๆ ที่กลิ้งไปกับแฮมทาโร่ ของอร่อยที่สุดก็คือ ภาษีประชาชน (ยุบสภา!)” เนื้อร้องท่อนหนึ่ง

รายงานข่าวหลายแหล่งบอกว่าจำนวนผู้ไปร่วมวิ่งแฮมทาโร่ครั้งนี้นับพันคน “๑๗.๒๕ น. มวลชนเริ่มวิ่งบนทางเท้า โดยวนเป็นวงกลมอย่างสนุกสนาน จากฝั่ง ร.ร.สตรีวิทยา วนตามเข็มนาฬิกามุ่งหน้าไปทางแยกคอกวัว ก่อนจะวนกลับมาจุดเดิม” วิ่งไปร้องเพลงไป ๓ รอบ

ป้ายข้อความต่างๆ ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ขอความร่วมมือ (เตือน) ไม่ให้มีเนื้อถ้อยสุ่มเสี่ยง จึงเห็นแต่อย่างเบาะๆ เช่น “เบื่อเมล็ดทานตะวันอยากได้ประชาธิปไตย Their favorite dish is our TAX!! และ เป็นทหารทำไมต้องยุ่งการเมือง” เป็นอาทิ
 
“กิจกรรมเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาที ก่อนจะเสร็จสิ้นกิจกรรมในเวลาประมาณ ๑๘.๑๐ น.” อย่างนี้แล้วตำรวจยังจะตามรังควาญเหมือนที่ทำกับนักเรียน-นักศึกษาในที่ชุมนุมอื่นๆ เกือบจะรายวันทั่วประเทศ

คงต้องยกระดับจากมิติแห่งความสนุกสนานแบบ แฮมทาโร่ หรือ ตุ้งติ้ง ไม่มุ้งมิ้งของกลุ่มเพศสภาพก่อนหน้านี้ ให้เป็นประสบการณ์แบบที่ แรมโบ้เคยเจอเสียละมัง นั่นคือเวลานี้ยังเป็นพลังบริสุทธิ์ของนักเรียนนักศึกษา วันหน้าประชาชนทั่วไปกระโจนลงไปร่วม

จากโพสต์ของสหภาพนักเรียนนักศึกษา ที่ว่าตำรวจคุกคามถึงคอนโดที่พัก อ้างว่าตามหาคนถือป้าย หมิ่นฯนั่น ถ้าข้อความ หมิ่นฯ ชัดเจนก็ของ กอ.รมน.และฝ่ายความมั่นคง แต่ถ้า ‘sophisticated’ เฉลียวฉลาดเสียจนพอร์นดริ๊ฟกับแรมโบ้ตามไม่ทันละก็

ถือว่าเหมาะสมดีแล้วตามครรลองประชาธิปไตย