ฮือฮากันยิ่งนักกับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งนายนุรักษ์ มาประณีต อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ดำรงตำแหน่งนั้นยาวนานถึง
๑๓ ปี เป็นองคมนตรี เนื่องเพราะเคยวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองหลายหน ทั้งสิ้น ๔ พรรค
นุรักษ์เคยตัดสิน ‘ไม่ยุบ’ เหมือนกัน เมื่อพรรคนั้นคือ ‘ประชาธิปัตย์’ พรรคอนุรักษ์นิยมราชาธิปไตยที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเชิดชูสถาบันกษัตริย์ในห้วงเวลาที่คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ๆ
ให้กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ส่วนพรรคที่นุรักษ์มักยุบล้วนเป็นเครือข่ายของอดีตนายกฯ
ทักษิณ ชินวัตร นับแต่ไทยรักไทย ในปี ๒๕๕๐ พลังประชาชน ในปี ๒๕๕๑ และไทยรักษาชาติ
ในปี ๒๕๖๒ ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ที่นุรักษ์ช่วยยุบเมื่อ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
เป็นพรรคที่ประกาศนโยบายไม่สืบทอดอำนาจคณะรัฐประหารตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
นุรักษ์ยังเป็นตุลาการที่วินิจฉัยความผิดให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองระดับสูงที่เป็นพลพรรคหรือว่านเครือของทักษิณ
ทุกครั้งทุกคน เช่นวินิจฉัยให้ สมัคร สุนทรเวช พ้นจากนายกรัฐมนตรี วินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรี
และวินิจฉัยให้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากสมาชิกสภาผู้แทนฯ นี่แม้จะไม่ใช่เครือข่ายทักษิณ
แต่ก็เป็นฝ่ายตรงข้ามในทางการเมืองกับคณะทหารอย่างมุ่งมั่น อีกทั้งนุรักษ์ในฐานะประธานศาลรัฐธรรมนูญยังตัดสินให้เป็นคุณแก่คณะยึดอำนาจ
คสช.อย่างโจ่งแจ้ง
ในคดีที่ภาคประชาชนร้องว่าการออก
พรบ.ประชามติของ คสช.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะ “จำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนเกินความจำเป็น”
นุรักษ์นำทีมตัดสินเอกฉันท์ว่า “ไม่ขัดหรือแย้ง” รธน.
ยังมีคดีเกี่ยวกับรัฐมนตรีในรัฐบาลชุด
คสช.๑ ถือหุ้นสัมปทานรัฐ อันขัดต่อรัฐธรรมนูญรัฐมนตรีคนนั้นต้องออกจากสภาพแห่งตำแหน่ง
พอคดีถึงมือนุรักษ์กลับตัดสินว่าให้เป็นรัฐมนตรีต่อไปได้
แต่กรณีธนาธรให้พรรคของตนกู้เงิน ๑๙๑ ล้านบาทเพื่อใช้จ่ายในการหาเสียง เมื่อ
กกต.ห้ามขายของชำร่วยหาเงินเข้าพรรค
นุรักษ์กลับตัดสินว่าเป็นความผิด
ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคตลอดไป
(ไม่ระบุระยะเวลาแห่งการเสียสิทธินั้น) นุรักษ์จึงเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญผู้รักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของคณะยึดอำนาจอย่างแท้จริง
ย้อนไปในสมัยที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี
มีการเสนอกฎหมายเพื่อการกู้เงิน ๒ ล้านล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการเมกกาโปรเจ็ค
เช่น รถไฟความเร็วสูง ซึ่งบุญส่ง กุลบุปผา บอกว่าต้องรอให้ถนนลูกรังหมดเสียก่อน
นุรักษ์เป็นหนึ่งในตุลาการที่ ‘ตีตก’ ตามกระแสต่อต้านของ พธม.และ กปปส.
แต่ในรัฐบาลของประยุทธ์ จันทร์โอชา (รอบสอง)
เมื่อเร็วๆ นี้ ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-๑๙ และประกาศใช้อำนาจพิเศษภาวะฉุกเฉิน
ประยุทธ์ฉวยโอกาสระหว่างปิดสภาออก พรก.กู้เงิน ๑.๙ ล้านล้าน
ถ้านุรักษ์ไม่ไปเป็นองคมนตรีเสียก่อน หากเรื่องนี้ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ
คงเดาได้ตรงเผงว่าผลจะออกมาอย่างไร
ก่อนหน้านี้ ในคดีที่พรรคร่วมรัฐบาลทำการเสียบบัตรออกเสียงแทนกัน
เพื่อให้ร่างงบประมาณของรัฐบาลผ่านมติอนุมัติง่ายดาย
มีการร้องว่าตามแบบอย่างที่ศาลรัฐธรรมนูญครั้งก่อนๆ เคยวินิจฉัยว่า
พรบ.นั้นเป็นโมฆะ แต่นุรักษ์ก็ให้กรณีนี้ไม่โมฆะ
‘วีรเวร’ ของนุรักษ์ยังไม่หมด
ในส่วนที่หักล้างหลักการประชาธิปไตย ในปี ๒๕๕๗ เมื่อการก่อกวนของ พธม.และ กปปส.
หนักหน่วงจนรัฐบาลยิ่งลักษณ์จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์
แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ต่อต้าน
เรื่องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ
นุรักษ์เป็นตัวเอกวินิจฉัยให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ การได้รับแต่งตั้งเป็นองคมนตรีของนุรักษ์
จึงพกเอา ‘ผลกรรม’ แห่งการต่อต้านประชาธิปไตยและเกื้อหนุนคณะรัฐประหาร
ติดตัวไปด้วยอย่างเต็มพิกัด
(https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10163714994175551/?type=3&__tn__=-y.g
และ https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/photos/a.2260389780911559/2694308264186373/?type=3&__tn__=-R)
เนื่องในวันฉัตรมงคลอันเงียบหงอย
ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ทรงเสด็จกลับประเทศไทยเพื่อประกอบพระราชพิธี
ซ้ำยังอยู่ในช่วงล็อคดาวน์ของสถานการณ์โควิด-๑๙ การเข้าเป็นองคมนตรีของนุรักษ์กลับร้อนเร่าด้วยภาพลักษณ์ที่ติดลบ
หนำซ้ำซุ้มเฉลิมพระเกียรตินักขัตย์ครบรอบครองราชย์เมื่อวันก่อน
กลับอันตรธานหายไปจากถนนราชดำเนินเกือบเกลี้ยง
ท่ามกลางอาการฉงนสนเท่ห์ของบรรดาแฟนคลับเว็บไซ้ท์เกี่ยวกับราชวงศ์ไทย บ้างวิจารณ์ว่าเสียดายติดตั้งได้วันเดียว
เป็นธรรมดาในขณะนี้ที่พสกนิกรจำนวนมากแร้นแค้นกับภาวะเศรษฐกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด
จนฆ่าตัวตายกันไปแล้วมากหลาย จึงย่อมจับจ้องการจับจ่ายงบประมาณของรัฐ ไม่ว่าจะซื้อกระสุนปืนยิงจรวดไร้แรงสะท้อน
ที่มูลค่าขณะนี้ขึ้นไป ๒๗๔ ล้านบาท
จึงพากันนึกถึงสนนราคาค่าทำซุ้มเหล่านั้นที่ได้ใช้วันเดียว
ผู้ติดตามเพจของ Andrew MacGregor Marshall
รายหนึ่งบอกว่ามีเพื่อนทำธุรกิจติดตั้งซุ้ม ชนิดที่มี ๓ ยอดนั่นตกซุ้มละ ๙
หมื่นถึงแสนสอง เฉพาะภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ตกภาพละ ๔ หมื่นถึง ๖ หมื่น
และอันที่ติดตั้งสูงยอดตึกคร่อมข้ามทั้งถนนนั้นซุ้มละแสนสี่ถึงแสนแปด
ตลอดถนนไม่รู้กี่ซุ้มจำนวนมากเอาการอยู่ ไม่นับบางรายไม่ซึมซับกับศิลปะไทยๆ
ที่ใช้ออกแบบซุ้ม วิจารณ์ว่าตัวเลข ‘๑๐’ นั่นดูแปลกๆ เลข ๑ วิลิดสมาหรา เลข ๐ มีหาง