‘โหนเจ้า’ แนวใหม่ในรูปแบบคลื่นทีวีและดิจิทัล
ดูจะเป๋เมื่อ ‘เครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันกษัตริย์’
แจ้งความดำเนินคดีกับสมาชิกกลุ่ม ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส’ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ข้อหา “นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ” เรื่องเจ้า
เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ (คนที่ Atukkit Sawangsuk แนะว่าควรเปลี่ยนชื่อเล่นเป็น
‘est’ เสียที เพราะบริษัทเสริมสุขไม่ได้ขาย ‘เป๊ปซี่’ อีกแล้ว) เป็นพิธีกร ‘Newtv18’ มาตั้งนาน เพิ่งจะได้รับการใส่ใจ ‘recognized’ ในวงกว้างนอกเครือข่าย
เมื่อเล่นข่าว ‘ล่าแม่มด’ กับเพจที่ “อธิบายตนเองว่าเป็น
‘ตลาดคนรักราชวงศ์’
โดยมักจะพบเนื้อหาที่ตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์” ซึ่ง ‘ประชาไท’ ระบุว่ามี ‘Pavin
Chachavalpongpun’ นักวิชาการและผู้ลี้ภัยทางการเมืองเป็นผู้ดูแล
การนี้ทำให้เชื่อได้ว่าจะมีคนไปเข้าเป็นสมาชิกเพจกันมากขึ้นอีกแน่
แม้ว่าเพิ่งเปิดเมื่อ ๑๖ เมษานี้เอง เวลานี้สมาชิกกว่าสี่แสน กระทั่ง
บก.ฟ้าเดียวกัน Thanapol Eawsakul ยังบอกว่า
“เป็นสมาชิกกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส วันนี้ก็เพราะข่าวนี้นี่แหละ”
ว่าที่จริงตลอดยุค คสช.ที่สืบเนื่องมา ๕-๖
ปี พวกสื่อและพิธีกรสาย ‘โหนเจ้า’
เหล่านี้ ไม่ว่า ทีนิวส์ แนวหน้า กนกเนชัวร์ หรือ เปลวไทยโพสต์
ล้วนแต่ช่วยให้เกิด ‘reverse effects’ แรงสะท้อนถีบกลับ
ทำให้มีพสกนิกรตาสว่างเพิ่มขึ้นมเหาฬาร
จึงเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ สนธิญาน
ชื่นฤทัยในธรรม ลาออกจากกรรมการบริหารเครือเนชั่นเสียแล้ว
ทั้งในส่วนมัลติมีเดียและบรอดแค้สติ้ง แถมเจ้าของเนชั่น
นิวส์เน็ตเวิร์คยังขายยี่ห้อ ‘คมชัดลึก’
กลับไปเนชั่น อ้างว่าขาดทุน ขาด ‘ตัวเร่งให้ล้ม’ ไปหนึ่งราย
เดาเอาว่านี่เป็นการปรับภาพลักษณ์ หรือ ‘rebranding’
หลังจากที่ทั้งยี่ห้อเนชั่นและคมชัดลึกตกต่ำต่อเนื่อง ภายใต้น้ำมือสนธิญาน
ลงไปสถุลเกือบเท่า ‘ทีนิวส์’ การปรับองค์กรครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองยี่ห้อประคองตัวอยู่ได้ไหม
คอยดูกัน
ข้อสำคัญถ้าเลิกงี่เง่า ก็อาจจะลด ‘ทัวร์’ พวกล่าสลิ่มลงไปบ้าง
แต่คงไม่ทำให้กระแสตาสว่างชะลอลงได้ เพราะคนทั่วไปเวลานี้ปักใจด้วย ‘perception’
ที่ว่าเป็นผังล้มเจ้า ‘เฟคนิวส์’ โฆษณาชวนเชื่อด้วยการมุสา ‘ปั้นน้ำเป็นตัว’
ดูแต่กรณีที่พสกนิกรสายโหนรายหนึ่ง ซึ่งไปทำมาหากินเป็นผู้ช่วยพ่อครัวในร้านอาหารที่ออสเตรเลียพยายามจะแสดงการชื่นชมรัชกาลที่
๙ ว่าทรงมีพระปรีชาเลิศล้ำด้วยคุณวุฒิทางการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยโลซาน
หรือกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยออสเตรเลียที่เมลเบิร์น
ก็โดนฝ่ายตาสว่างเอาหลักฐานเข้าไปยันกันเยอะแยะ
จะแจ้งว่าไม่ใช่ คนที่อยู่ในประเทศตะวันตกเวลานี้ โดยเฉพาะที่เยอรมนีและยุโรป
ได้เห็นข่าวเกี่ยวกับ ‘Thai-Konig’ กันไม่เว้นแต่ละวัน
ยังไม่เห็นสื่อโหนเจ้าแห่งไหนเล่นเรื่องนั้นบ้าง
เมื่อวันก่อน จอม เพชรประดับ กับจรรยา
ยิ้มประเสริฐ สัมภาษณ์สดเจ้าหน้าที่มูลนิธิ PixelHELPER ที่รณรงค์ประท้วงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
๑๐ ในเยอรมนี เห็นมีคนในเมืองไทยพูดถึงกันตรึม โดยเฉพาะประเด็นนายโอลิเวอร์เจ้าหน้าที่คนนั้นย้ำ
ชักชวนคนใกล้ชิดรั้ววัง
รู้เห็นอะไรที่ทำให้อึดอัดขัดข้อง หรือว่าเป็นผู้ถูกกระทำเจ็บช้ำ ให้แจ้งไปที่เขา
จะรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการทางศาลสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าในศาลเยอรมนีหรือยุโรป
โดยแนะให้ส่งสัญญานบอกไปก่อน แล้วทางเขาจะแจ้งช่องทางติดต่อที่ปลอดภัยกลับไป
นั่นละมังสื่อโหนคงเกรงว่าจะกลายเป็นการ
‘เรียกแขก’
ไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการ แต่ก็ยังมีบางรายตั้งใจทำเนียนหมายประจาน
แต่กลับกลายเป็นประชาสัมพันธ์ไปเสียฉิบ ดังบทความโดยค่ายไทยโพสต์ของเฮีย โรจน์
งามแม้น พาดหัว
“จรัล...ตะโกนก้องฝรั่งเศศจงเจริญ
สาธารณรัฐจงเจริญ” เจาะจงถึง จรัล ดิษฐาอภิชัย
อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน
ลี้ภัยอยู่ในกรุงปารีสมาแล้ว ๖ ปี ปัจจุบันได้รับสัญชาติฝรั่งเศส
เล่าละเอียดจากโพสต์ของจรัลเมื่อวันก่อน
นึกว่าได้ประจานสะใจ ที่ไหนได้ สุรพศ ทวีศักดิ์
ว่า “น่ายินดีที่ไทยโพสต์ทำหน้าที่เป็น ‘กระบอกเสียง’ ให้ฝ่ายประชาธิปไตย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความหวัง” Suda Rangkupan ชมบ้าง
“ขอบคุณ #ไทยโพสต์ ที่ช่วยเผยแพร่อุดมการณ์ #สาธารณรัฐ” ดังที่จรัลเขียนไว้ “หลักการและคุณค่าสำคัญของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ถือประชาชนเป็นใหญ่
เป็นรัฐของประชาชน เป็นประชาธิปไตย มิใช่เป็นราชอาณาจักรของกษัตริย์”
อย่างนี้ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่า
ไทยโพสต์เนียนทางไหนกันแน่