วันเสาร์, พฤษภาคม 23, 2563

๒๕๖๓ ทหารยังครองเมือง ๖ ปีแล้วนะไอสัส


ครบรอบ ๖ ปี ของการยึดอำนาจรัฐโดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า คสช. ก็มีประชาชนและนักศึกษาออกมาทำกิจกรรมแจงความจริงและประจาน ไอสัส สนองคำทำนายของ ผบ.ทบ. แล้วก็พากันถูกจับไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีจนได้

“โฆษกศูนย์​โควิด-๑๙ ย้ำมาสองสามวันแล้วว่า​ พรก.ฉุกเฉิน​ฯ​ ไม่เกี่ยวกับการใช้ทางการเมือง​ วันนี้ชัดแล้วว่ามีการใช้ริดรอน​เสรีภาพทางการเมือง” Pravit Rojanaphruk ย้ำข้อวิพากษ์การยืดเวลา พรก.ไปอีก ๑ เดือน ว่าเป็นดังคาด

จากหน้าหอศิลป์ฯ เมื่อเย็นวานนี้ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้ช่วยเลขาฯ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ (aka. ฟอร์ด เส้นทางสีแดง) นักกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร ถูกควบคุมตัวไป สน.ปทุมวันพร้อมกัน

นพ.ทศพรนั้นไปตั้งแสดงภาพวาดของตนที่แสดงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุท์ จันทร์โอชา รวมทั้งภาพของ ปลายฝนหญิงนักเขียนรูปขายซึ่งวาดภาพประยุทธ์ยังไม่เสร็จดีแล้วก็ฆ่าตัวตาย

ด้านอนุรักษ์เดินทางไปสมทบ นพ.ทศพรเพื่อจัดแสดงดนตรีวันครบรอบรัฐประหาร แต่ทั้งสองและผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่งถูกตำรวจซึ่งไปเฝ้าดูกิจกรรมและถ่ายคลิปวิดีโอตั้งแต่ต้น นำตัวขึ้นท้ายรถปิ๊คอัพไปยังสถานี อ้างว่าฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ

ส่วน พริษฐ์ ชีวารักษ์นักศึกษา มธ. กับคณะสมาชิกสหภาพนักเรียนนักศึกษา ซึ่งทำกิจกรรมแห่ป้ายภาพใบหน้าประยุทธ์ประกอบข้อความ “๕ ปีแล้วนะ ไอสัส” ขนาดใหญ่ติดข้างกระบะรถ ขับไปทั่ว ทั้งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำเนียบรัฐบาล และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
 
คณะของ เพ็นกวิน ไปถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา นำไปยัง สน.สำราญราษฎร์ ตั้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และกระทำการอันจะก่อให้เกิดความไม่สงบระหว่างมีประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน

กลุ่มนักศึกษา สนท.อีกจำนวนหนึ่ง ไปยกป้าย “2563 เผด็จการครองเมือง” ก็ถูกนำตัวไปควบคุมเพื่อดำเนินคดีเช่นกัน ต่อมาในตอนค่ำของวันนั้น อานนท์ นำภา แจ้งผ่านเฟชบุ๊คว่า นักศึกษาได้รับการปล่อยตัวกันออกมาแล้ว

ทั้งหมดทำให้เกิดความเคลื่อนไหวยกใหญ่จากฝ่ายทหาร ดังประกาศจาก Wassana Nanuam นักข่าวบางกอกโพสต์ซึ่งมักรายงานกิจการของกองทัพควบกันไป ว่ามีการวางกำลังรอบทำเนียบฯ เพื่อ สกัด การ “ยิงเลเซอร์ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์”

กำลังเหล่านั้นเป็น “ชุดปฏิบัติการเสือดำ Black Tiger สันติบาล และ สตช.” ที่ได้รับการฝึกมาอย่างเข้มข้นสามเดือนครึ่ง “ใช้ปืน MP 5 เป็นปืนประจำกาย” ทั้งนี้วาสนาระบุว่า “หลังจากมีกลุ่มนักศึกษามาเคลื่อนไหว ที่หน้า บก.ทบ. และทำเนียบรัฐบาล”


อะไรมันจะปานนั้น ต้องมีกั้นลวดหนาม ติดป้ายเขตกระสุนจริง ‘Live ammunitions’ อีกไหมนี่ ระหว่างบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ว่าเป็น “มาตรการตามกฎหมาย...เพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจมีการกลับมาแพร่ระบาด” ของโควิด-๑๙

มันเข้ากับบทสรุปวิเคราะห์ 'ครบรอบ ๖ ปี รัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗' โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผงเลยเชียว ที่ว่า “นับเป็นยุคที่อำนาจรัฐละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนกว้างขวางที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การรัฐประหารของไทย”

ความหมายก็คือ แม้ประเทศไทยโดนทหารยึดอำนาจบ่อยที่สุดในโลกแล้ว ยุค คสช.นี่เหี้ย (ม) ที่สุด เอาแค่กรณี “การปิดกั้นกิจกรรมสาธารณะ และการใช้ข้อหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ...ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันยังใช้อำนาจสืบต่อเนื่องมาจากช่วงยุค คสช.”

ตั้งแต่ คสช.ใช้ วุฒิสภา ตู่ตั้ง กับ ส.ส. ลิงกินกล้วยตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งมาปีกว่า “พบว่ามีการชุมนุมสาธารณะอย่างน้อย ๔๒ ครั้ง ถูกเจ้าหน้าที่รัฐปิดกั้นแทรกแซง ในจำนวนนี้แยกเป็นการชุมนุมที่ไม่สามารถจัดขึ้นได้ ต้องยกเลิกกิจกรรมจำนวน ๑๔ กิจกรรม...

นอกจากนี้ในหลายกิจกรรมการชุมนุม แม้ผู้จัดการชุมนุมจะแจ้งจัดการชุมนุมฯ กับเจ้าพนักงานล่วงหน้าแล้ว แต่พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับนำข้อกล่าวหาอื่นๆ มาดำเนินคดี เช่น การใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต, การกีดขวางการจราจร”


จากกรณีหมอทศพร ฟอร์ด สนท. มาถึงเพ็นกวิน คนเหล่านี้เพียงใช้สิทธิในการแสดงความเห็นว่าไม่พอใจการปกครองประเทศของคณะสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ไม่ต้องการวิธีบริหารห่วยแตกของคนเหล่านั้น กลับถูก กลั่นแกล้งและกดขี่

ในประเทศที่ยึดถือหลักการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ในสังคมประชาธิปไตย ไม่มีใครยอมรับวิธีการ ‘Harassment and oppress’ เพราะเห็นเป็นความป่าเถื่อนเยี่ยงสัตว์เดียรัจฉาน สังคมโลกมนุษย์ผ่านพ้นสันดานเช่นนั้นมาแล้วนับพันปี