ครบรอบ ๖ ปี ของการยึดอำนาจรัฐโดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า
คสช. ก็มีประชาชนและนักศึกษาออกมาทำกิจกรรมแจงความจริงและประจาน ‘ไอสัส’ สนองคำทำนายของ ผบ.ทบ. แล้วก็พากันถูกจับไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีจนได้
“โฆษกศูนย์โควิด-๑๙
ย้ำมาสองสามวันแล้วว่า พรก.ฉุกเฉินฯ ไม่เกี่ยวกับการใช้ทางการเมือง
วันนี้ชัดแล้วว่ามีการใช้ริดรอนเสรีภาพทางการเมือง” Pravit Rojanaphruk ย้ำข้อวิพากษ์การยืดเวลา พรก.ไปอีก ๑ เดือน ว่าเป็นดังคาด
จากหน้าหอศิลป์ฯ เมื่อเย็นวานนี้ นพ.ทศพร
เสรีรักษ์ อดีตผู้ช่วยเลขาฯ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ (aka. ฟอร์ด เส้นทางสีแดง) นักกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร ถูกควบคุมตัวไป
สน.ปทุมวันพร้อมกัน
นพ.ทศพรนั้นไปตั้งแสดงภาพวาดของตนที่แสดงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการบริหารงานของรัฐบาล
พล.อ.ประยุท์ จันทร์โอชา รวมทั้งภาพของ ‘ปลายฝน’
หญิงนักเขียนรูปขายซึ่งวาดภาพประยุทธ์ยังไม่เสร็จดีแล้วก็ฆ่าตัวตาย
ด้านอนุรักษ์เดินทางไปสมทบ
นพ.ทศพรเพื่อจัดแสดงดนตรีวันครบรอบรัฐประหาร
แต่ทั้งสองและผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่งถูกตำรวจซึ่งไปเฝ้าดูกิจกรรมและถ่ายคลิปวิดีโอตั้งแต่ต้น
นำตัวขึ้นท้ายรถปิ๊คอัพไปยังสถานี อ้างว่าฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ
ส่วน พริษฐ์ ชีวารักษ์นักศึกษา มธ. กับคณะสมาชิกสหภาพนักเรียนนักศึกษา
ซึ่งทำกิจกรรมแห่ป้ายภาพใบหน้าประยุทธ์ประกอบข้อความ “๕ ปีแล้วนะ ไอสัส”
ขนาดใหญ่ติดข้างกระบะรถ ขับไปทั่ว ทั้งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำเนียบรัฐบาล
และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
คณะของ ‘เพ็นกวิน’ ไปถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา นำไปยัง
สน.สำราญราษฎร์ ตั้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และกระทำการอันจะก่อให้เกิดความไม่สงบระหว่างมีประกาศใช้
พรก.ฉุกเฉิน
กลุ่มนักศึกษา สนท.อีกจำนวนหนึ่ง ไปยกป้าย “2563
เผด็จการครองเมือง” ก็ถูกนำตัวไปควบคุมเพื่อดำเนินคดีเช่นกัน
ต่อมาในตอนค่ำของวันนั้น อานนท์ นำภา แจ้งผ่านเฟชบุ๊คว่า
นักศึกษาได้รับการปล่อยตัวกันออกมาแล้ว
ทั้งหมดทำให้เกิดความเคลื่อนไหวยกใหญ่จากฝ่ายทหาร
ดังประกาศจาก Wassana Nanuam นักข่าวบางกอกโพสต์ซึ่งมักรายงานกิจการของกองทัพควบกันไป
ว่ามีการวางกำลังรอบทำเนียบฯ เพื่อ ‘สกัด’ การ “ยิงเลเซอร์ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์”
กำลังเหล่านั้นเป็น “ชุดปฏิบัติการเสือดำ Black
Tiger สันติบาล และ สตช.” ที่ได้รับการฝึกมาอย่างเข้มข้นสามเดือนครึ่ง
“ใช้ปืน MP 5 เป็นปืนประจำกาย” ทั้งนี้วาสนาระบุว่า “หลังจากมีกลุ่มนักศึกษามาเคลื่อนไหว
ที่หน้า บก.ทบ. และทำเนียบรัฐบาล”
(https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/3081016331956804,
https://www.matichon.co.th/politics/news_2197887
และ https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10163825709325551=-R)
อะไรมันจะปานนั้น ต้องมีกั้นลวดหนาม
ติดป้ายเขตกระสุนจริง ‘Live ammunitions’ อีกไหมนี่
ระหว่างบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ว่าเป็น “มาตรการตามกฎหมาย...เพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจมีการกลับมาแพร่ระบาด”
ของโควิด-๑๙
มันเข้ากับบทสรุปวิเคราะห์ 'ครบรอบ ๖ ปี รัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗' โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
เผงเลยเชียว ที่ว่า “นับเป็นยุคที่อำนาจรัฐละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนกว้างขวางที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การรัฐประหารของไทย”
ความหมายก็คือ
แม้ประเทศไทยโดนทหารยึดอำนาจบ่อยที่สุดในโลกแล้ว ยุค คสช.นี่เหี้ย (ม) ที่สุด
เอาแค่กรณี “การปิดกั้นกิจกรรมสาธารณะ และการใช้ข้อหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ...ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันยังใช้อำนาจสืบต่อเนื่องมาจากช่วงยุค
คสช.”
ตั้งแต่ คสช.ใช้ วุฒิสภา ‘ตู่ตั้ง’ กับ ส.ส. ‘ลิงกินกล้วย’
ตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งมาปีกว่า “พบว่ามีการชุมนุมสาธารณะอย่างน้อย ๔๒ ครั้ง ถูกเจ้าหน้าที่รัฐปิดกั้นแทรกแซง ในจำนวนนี้แยกเป็นการชุมนุมที่ไม่สามารถจัดขึ้นได้
ต้องยกเลิกกิจกรรมจำนวน ๑๔ กิจกรรม...
นอกจากนี้ในหลายกิจกรรมการชุมนุม
แม้ผู้จัดการชุมนุมจะแจ้งจัดการชุมนุมฯ กับเจ้าพนักงานล่วงหน้าแล้ว
แต่พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับนำข้อกล่าวหาอื่นๆ มาดำเนินคดี เช่น
การใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต, การกีดขวางการจราจร”
จากกรณีหมอทศพร ฟอร์ด สนท. มาถึงเพ็นกวิน
คนเหล่านี้เพียงใช้สิทธิในการแสดงความเห็นว่าไม่พอใจการปกครองประเทศของคณะสืบทอดอำนาจรัฐประหาร
ไม่ต้องการวิธีบริหารห่วยแตกของคนเหล่านั้น กลับถูก ‘กลั่นแกล้งและกดขี่’
ในประเทศที่ยึดถือหลักการใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม
ในสังคมประชาธิปไตย ไม่มีใครยอมรับวิธีการ ‘Harassment and oppress’
เพราะเห็นเป็นความป่าเถื่อนเยี่ยงสัตว์เดียรัจฉาน
สังคมโลกมนุษย์ผ่านพ้นสันดานเช่นนั้นมาแล้วนับพันปี