🍕🇹🇭 ข่าวเฉพาะกิจ—เรื่องเล่าของนักสืบ—ทำไมกษัตริย์วชิราลงกรณ์ถึงเอาเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไทย มูลค่า 100 ล้านบาท มาจอดกลางกรุงเทพฯ?
(scroll down for 🇬🇧)
สองสามวันก่อน สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้โพสต์ภาพจากกูเกิ้ลเอิร์ธ ให้เห็นเครื่องบินลำใหญ่ ทาสีของสายการบินไทย มาจอดที่สนามหญ้าหน้าวังสวนอัมพรในกรุงเทพฯ
ต่อมาก็มีปรากฏภาพเครื่องบินลำนั้นที่ถ่ายจากพื้นสนาม รวมไปทั้งภาพเมื่อมันถูกนำมาถึงพระที่นั่งอัมพรสถานทางถนน
ภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่า มันเป็นเครื่องบิน โบอิ้ง 737-400 จดทะเบียนเป็นชื่อ HS-TDK
แต่ทำไมเขาถึงให้เอาเครื่องบินมาจอดบนสนามหญ้าหน้าวังสวนอัมพร? ผมเลยไปสืบเสาะค้นหาคำตอบ
สิ่งที่ผมพบเป็นประการแรกคือ ในขณะที่ภาพถ่ายแสดงว่าเป็นเครื่อง 737-400 ทาสีของสายการบินไทย มันไม่ใช่ เครื่องเดียวกันกับ เครื่อง HS-TDK [https://www.airfleets.net/ficheapp/plane-b737-28701.htm]
HS-TDK ที่มีชื่อว่า “ศรีสุราษฎร์” เดิมเป็นเครื่องบินโดยสารของสายการบินไทย แต่ถูกขายจำหน่ายออกแก่บริษัทการบินขนส่งสินค้าของสหราชอาณาจักร ชื่อ เวสต์ แอตแลนติค และจดทะเบียนใหม่หมายเลข G-JMCK มีการปรับปรุงใหม่ เอาหน้าต่างผู้โดยสารบนตัวเครื่องออกหมด
G-JMCK ยังคงบินอยู่ในสหราชอาณาจักร และที่จริงแล้วกำลังปฏิบัติการบินอยู่ในวันนี้ ดูตารางกำหนดการการบินได้ที่นี่
[https://www.flightradar24.com/data/aircraft/g-jmck]
แล้วเครื่องที่วังสวนอัมพรฯคืออะไรล่ะ? จากการสืบค้นต่อไป ผมได้พบว่า มันต้องเป็นเครื่องโบอิ้งรุ่น 737-400 อีกเครื่องของการบินไทยที่จดทะเบียนไว้ในชื่อ HS-TDG, เรียกว่า “กาฬสินธุ์” ซึ่งมีอายุใช้งานมา 28 ปีกับสายการบิน
จากบันทึกการบินแสดงว่า สายการบินไทย แจ้งว่า เครื่องบินลำนี้ ได้ถูกปลดประจำการจากสายการบินอย่างเป็นทางการ และถูกเก็บไว้ในโรงจอด แต่ตามความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้จอดอยู่ในโรงเก็บเครื่องบิน แต่กลายมาเป็นเครื่องประดับอยู่ที่วังสวนอัมพรของวชิราลงกรณ์
หากจะซื้อเครื่องบินใช้แล้วของโบอิ้ง 737-400 อายุ 28 ปี จะต้องจ่ายเงินถึง 100 ล้านบาท [อ้างจากที่นี่ https://www.controller.com/…/manufac…/boeing/model-group/737]
ผมกำลังสอบถามไปที่ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ของสายการบินไทย ว่า ทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงได้มาจอดเป็นเครื่องประดับสวนของพระราชา แล้วทางการบินไทยได้รับค่าตอบแทนอะไรหรือเปล่า ด้วยในขณะนี้ สายการบินกำลังตกอยู่ในภาวะล้มละลาย ผู้ร่วมลงทุน และผู้เสียภาษีชาวไทย มีสิทธิที่จะได้รับทราบคำตอบที่แน่ชัด ของคำถามเหล่านี้
แต่ทำไม วชิราลงกรณ์ ถึงได้ไปลากเครื่องบินลำเบ้อเร่อเอามาประดับสวนในวังของเขา และยังทาสีกลบเบอร์ทะเบียนเสียใหม่ให้เป็นของเครื่องลำอื่น เป็นที่รู้กันว่า ราชาคนนี้บ้าเครื่องบิน แถมยังมีเครื่องบินโบราณ จอดประดับสวนอยู่ที่ วังสุโขทัย และ วังทวีวัฒนา แต่ทำไมเขาถึงต้องใช้เบอร์ทะเบียนปลอมกับเครื่องที่วังสวนอัมพรเล่า?
หากจะหาคำตอบต่อคำถามนี้ เราต้องย้อนกลับไปดูเมื่องวันที่ 5 มกราคม พศ 2550
ในวันนั้น วชิราลงกรณ์ ขึ้นบินเป็นนักบิน ในเที่ยวบินการกุศล ที่ขึ้นจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ โดยมีผู้โดยสาร 118 คน ที่ได้จ่ายเงินค่าตั๋วจำนวนมากเพื่อที่จะได้มีโอการไปนั่งเครื่องบินที่มี สมเด็จพระบรมฯ มาขับให้ เพื่อหาเงินในการกุศลช่วยผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม
หนึ่งในพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในวันนั้น เป็นหญิงวัย 28 ปี มีชื่อว่า สุทิดา “นุ้ย” ติดใจ หลังจากที่ได้พบวชิราลงกรณ์ในวันนั้นไม่นาน นางก็ได้กลายมาเป็นสนมคนโปรด และเขาก็ได้เอานางไปอยู่ด้วยที่ประเทศเยอรมนี
จากภาพถ่ายในวันนั้น แสดงให้เห็นวชิราลงกรณ์ในห้องนักบิน โดยปรากฏเลขทะเบียนเครื่องบินที่แผงบังคับว่า เป็น HS-TDK
ดังนั้น หากจะหาคำอธิบายที่พอจะเข้าเค้า ให้เรื่องพิกลนี้ก็เป็นได้ว่า ตัวกษัตริย์ ต้องการเก็บเครื่องบินที่ทำให้เขาได้พบ สุทิดา เป็นครั้งแรก เป็นอนุสรน์ ประดับไว้ในสวนที่ พระที่นั่งอัมพรสถาน แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เขาเอาเครื่องบินนี้มาเก็บไว้เป็นของส่วนตัว เพราะมันถูกขายหลุดออกไปจากมือการบินไทยแล้ว เขาเลยเอาเครื่องบินรุ่นเดียวกัน มาทาสีใหม่ลอกเลขทะเบียนเก่า ให้เหมือนเครื่องเดิม หรือไม่เขาก็ต้องการจะแหกตา สุทิดา ว่ามันเป็นเครื่องเดียวกันกันลำที่แรกพบประสบรักกับนาง
นางอาจจะลดความซาบซึ้งใจลงไปหน่อย หากได้ทราบว่า มันเป็นคนละเครื่องคนละลำกัน และผู้เสียภาษีอากรชาวไทย รวมไปทั้งผู้ร่วมลงทุนของสายการบิน ที่ได้สูญเงินมหาศาลกับการสลายตัวของการบินไทย คงไม่สู้จะซาบซึ้งใจในตำนานรักของเจ้าฟ้า หากต้องมาเป็นคนควักกระเป๋าจ่ายให้ กับความโรแมนติคแสนพิกลของพระราชา
อัพเดต—ผู้อ่านท่านหนึ่งได้เสนอความเห็นที่น่าเป็นไปได้คือ ตัววชิราลงกรณ์เอง อาจไปสั่งให้การบินไทยเอาเครื่องบิน ศรีสุราษฎร์ มาให้เป็นสมบัติของเขา เอาไว้ประดับสวน แล้วฝ่ายทางการบินไทยกลัวหัวหดเกินกว่าจะกล้าแจ้งไปว่า เครื่องนั้นถูกขายไปแล้ว เลยเอา เครื่อง 737-400 อีกลำมาทาสีให้ใส่เบอร์เดียวกัน เป็นการพรางตาปิดบังจะได้ไม่ขัดใจเขา หากนี่เป็นเรื่องจริงแล้ว เขาจะพิโรธโกรธกริ้วอย่างสาหัส หากได้รู้ความจริงเข้า
พากษ์อิงลิชที่ลิงค์นี้
......
ภาพจาก เพจ KhonthaiUk
