วันอาทิตย์, พฤษภาคม 24, 2563

ทั้ง ‘ฟันหัวคิว’ ค่าโรงแรมกักตัวโควิด กับ ‘ล้มบนฟูก’ ปรับลดพนักงานการบินไทย นี่ภาพลักษณ์ 'ไอทู้บ' ทั้งนั้น


ฟันหัวคิวหรือที่โรงแรมใหญ่ภาคตะวันออกโวยวายว่าถูกเรียก ค่าดำเนินการ๔๐% จากราคาเหมาจ่ายค่าที่พักโรงแรมสำหรับกักตัวคนไทยกลับจากต่างแดน ๑๔ วัน ไม่ได้ นิวนอร์มอล อะไร ยุค คสช.ก็มี แต่ไม่มีขาใหญ่ที่ไหนกล้าพูด

คราวนี้เห็นพวก ทั่นๆ ทำตัว มือสะอาดเป็นคนของประชาชนกัน ระดับประธานสภาอุตสาหกรรมเอย นายกสมาคมท่องเที่ยวงี้ ทั้งที่ปรึกษาสมาคมโรงแรม ก็เลยออกมาประสานเสียงเรื่องโดน “คนบางกลุ่มที่อ้างว่าเป็นตัวแทนจากหน่วยงานรัฐ” ขอตบทรัพย์

อันเนื่องมาแต่โครงการ ‘State Quarantine’ ของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดเช่าโรงแรมขนาด ๒๐๐ ห้องขึ้นไป ที่ได้เสป็ก “พื้นไม่ปูพรม มีแอร์แยกแต่ละห้องพัก” สำหรับกักตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศราว ๗-๘ หมื่นคน

วึ่งคาดว่างานนี้ “เงินสะพัดนับร้อยล้าน” เพราะกำหนดค่าตอบแทน ๑ พันบาทต่อคนต่อวัน จึงมี “กลุ่มบุคคลซึ่งไม่ทราบว่ามาจากหน่วยงานใด” (ซึ่งที่จริงน่าจะทราบนะ แต่บอกออกสื่อไม่ได้) อ้างเป็นผู้ประสานในการคัดเลือกจะเอาโรงแรมไหนไปติดต่อ

พวกเจ้าของโรงแรมเขาก็คิดสิ “แลกกับอาหาร ๓ มื้อ ค่าพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ การดูแลเรื่องของความสะอาด และอื่นๆ ตลอด ๒๔ ชั่วโมงทั้ง ๑๔ วัน” อันนี้ นอกจากค่าอาหารมันอยู่ในสนนราคาที่ตั้งไว้อยู่แล้วละ เพียงแต่เจอหักหัวคิวไป ๔๐๐ สดๆ ก็หนัก
 
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี จากสภาอุตสาหกรรม บอกเหลือค่าตอบแทนเพียง “๖๐๐ บาท/คน/วัน ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ และไม่คุ้มค่าใช้จ่าย จึงได้ตอบปฏิเสธไป แต่ก็ยังมีความพยายามเข้ามาติดต่อกันอยู่อย่างต่อเนื่อง” อย่างนี้ถือว่าซ้ำเติมผู้ประกอบการ

อันนี้ วาสนา @WassanaNanuam แจงทันทีว่ากลาโหมกับ ศบค. เต้นและจี้ ผบ.ตร. จัดการ แถมว่า “ตู่เดือดจัด...สั่งเด็ดขาดไม่ปล่อยไว้” แล้วได้ผลดังใจนึก ฝ่ายทหารตรวจสอบเอง “พบแล้ว” คนอ้างอิงเป็น “พลเรือนชื่อ พ.” คุยว่ามาจากสาธารณสุข

เอ้า มือตบ ตีนตบให้เขาหน่อย ฝ่ายทหารเนี่ยเก่งจริง เผื่อจะลงไปตรวจสอบกรณีที่ วีระ สมความคิด โวยบ้างว่า “คดีปารีณา (ไกรคุปต์) ตำรวจยังไม่ยื่นฟ้องต่ออัยการ ถูกสั่งให้เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด” ถึงแม้จะฟ้องแล้วลงเอยอย่างคดีพุทธิพงษ์ก็เถอะ

คดีนั้น เอกชัย หงส์กังวาน เป็นคนฟ้องว่า พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลแพร่เฟคนิวส์ด้วยการโพสต์ภาพและข้อความ ว่าตำรวจจับกุมคนแพร่ภาพการชุมนุมที่สกายว้อล์ค ปรากฏว่าเรื่องไปถึงอัยการ แต่ตำรวจกองบังคับการปราบอาชญากรรมเทคโนโลยี่ “สั่งไม่ฟ้อง”

เป็นที่รู้กันว่าตำรวจกับ กปปส.นี่ เขาเหยียบหัว_แม่เท้า กันอยู่ พุทธิพงษ์น่ะ กปปส.เก่า ตัวเอ้ ตำรวจที่ไหนจะกล้าแตะ ยิ่งเป็น กปปส.สายหญิง อย่าง ตั๊นจัตภัสร์ (ภิรมณ์ภักดี) กฤดาการ ที่เดี๋ยวนี้เป็น ส.ส.บัญชีพลังประชารัฐ เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการตำรวจหมาดๆ

เธอไปตรวจงาน สน.บางนา เห็นรูปแล้ว ‘goose bumps’ ขนลุกซ่าส์ ตำรวจตั้งแถวตะเบ๊ะกันตัวแข็งเชียว ไม่รู้เพราะเห็น รปภ.ของทั่นกรรมาฯ ยืนจังก้าน่าสยิวหรือเปล่านะ ตั๊นนางนี้สมัยที่ปิดกรุงเทพฯ ปลดป้าย สตช.นั่นก็ทำตำรวจหงอไปหนหนึ่งแล้ว
 
นางยังเป็น เซเล็บ คนโปรดของพนักงานการบินไทย ตอนนี้น่าจะหาโอกาสไปตรวจงานที่นั่นสักหน่อย ให้กำลังใจเล็กน้อย เห็นข่าวว่าแผนฟื้นฟูผ่านศาลล้มละลาย จะให้ปรับลดพนักงานลง ๔๐-๕๐ เปอร์เซ็นต์ หรือเชิญออกอย่างน้อยๆ ๑ หมื่นคน

โดยเฉพาะนักบินที่ตลอดเวลาที่ผ่านมามีมาก เกินพอดีไม่ได้เดินตามปรัชญาของพ่อเอาเสียเลย ขณะที่แอร์โฮสเตสมี ๗-๘ พันคน ต้องคัดออกสัก ๒ พันคน ไม่งั้น “คงไม่เพียงพอที่จะหยุดเลือดไม่ให้ไหลต่อ” แต่กระนั้นพวกนางฟ้าสีม่วงนี่คงไม่ค่อยสลดเท่าไร

ในเมื่อแผนฟื้นฟูบอกว่า “การปรับโครงสร้างพนักงานต้องทำอย่างมีเหตุมีผล จ่ายไม่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งตามธรรมเนียมควรเป็นไปตามมาตรฐานธุรกิจการบิน อย่างน้อยต้องมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ๒ เท่า” แถมเค้าเตรียมเงินที่จะจ่ายไว้แล้วด้วย

ถ้างั้นถ้าตั๊นไปสังสรรค์กับพนักงานการบินไทยเที่ยวนี้ คงได้สรวลเสเฮฮากันอีก เพราะไม่เกี่ยวกับที่พวกเจ้าหนี้อ้อนวอนนายกฯ ขออย่าเอาทหารไปนั่งเป็นบอร์ดกันอีก อ้างว่าเห็นแก่ชาติ (และเห็นกับกระเป๋าพวกเขาด้วยแหละ แหะ แหะ)

เอาเป็นว่าขอให้แม่คุณตั๊นไปร่วมฉลองกับนางฟ้าสีม่วง ในฐานที่ครั้งนี้ได้ ล้มบนฟูก ทั้งแน่นและนุ่ม นะนะ