วันศุกร์, พฤษภาคม 22, 2563

ฟ้อง ฟ้อง ฟ้อง ฟ้องแก้เกี้ยว ฟ้องปักชนัก ฟ้องแม่งงั้น ฟ้องประจาน และฟ้องเอามัน

ฟ้อง ฟ้อง ฟ้อง ยุคสุนัขจิ้งจอกแฝงร่างป้าแก่มุ่งหมายเขมือบหนูน้อยเสื้อแดงนี่มีหลายรูป ฟ้องแก้เกี้ยว ฟ้องปักชนัก ฟ้องแม่งงั้น ฟ้องประจาน และฟ้องเอามัน ต้นตำรับมาจาก บุรินทร์ ทองประไพ ณ คสช. ตอนนี้ธรรมนัส ณ แป้งมัน เอามั่ง

เพจพรรคก้าวไกลแจ้งว่า วันนี้ (ยี่เอ็ด พ.ค.) มีเอกสารหมายเรียกจากสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ส่งถึง ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรค และธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ให้ทนายไปแจ้งความว่า ส.ส.ทั้งสองได้อภิปรายไม่ไว้วางใจตนเมื่อ ๒๗ ก.พ. ว่าขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยธีรัจชัยอภิปรายตอนหนึ่งว่าธรรมนัส “ไม่มีความซื่อสัตย์ ไร้จริยธรรม”

ส่วนณัฐชาลงละเอียดไปกว่านั้น บอกว่าธรรมนัสมี “พฤติกรรมมาเฟีย มีส่วนเกี่ยวข้องคดีขนยา ฆาตกรรม ฯลฯ” ซึ่งกรณีหลังนี่ช่วงนั้นเป็นข่าวครึกโครมเรื่องธรรมนัสเคยติดคุกออสเตรเลียสี่ปี ในความผิดฐานค้ายาเสพติด มีหลักฐานเปิดเผยสาธารณะ

เพียงแต่ว่าหลักฐานเหล่านั้นเป็นรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ซิดนี่ย์มอร์นิ่งโพสต์ แต่ก็มีเอกสารคดีที่คัดมาจากศาลนิวเซ้าท์เวลส์แสดงประกอบ ทว่าทางการไทยทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้เจ้าตัวปฏิเสธดื้อๆ ด้านๆ ว่าไม่ได้ติดคุก แค่ไปเช่าบ้านอยู่

ธรรมนัสอ้างต่างๆ นานา แท้จริงตนพยายามช่วยตำรวจออสเตรเลียให้เบาะแสกระบวนการส่งออกยาเสพติดไทย (นัยว่าได้รับการกันตัวไว้เป็นพยาน) และเหตุการณ์ที่เกิด ตนบังเอิญไปอยู่ตรงนั้นพอดี ขณะที่ตำรวจจู่โจมเข้าจับกุม

แถว่าเขาจับพลัดจับผลู “was at a wrong time, in a wrong place” มิหนำซ้ำต่อมายังมีข้อแก้ตัวใหม่ชนิดคล้าสสิกอีกว่า ของกลางเฮโรอินที่ตำรวจออสซี่ใช้ประกอบสำนวนพิพากษา ที่แท้เป็น แป้งมัน ธรรมดานั่นเอง

แน่ละ ตอนนั้นธรรมนัสได้กลับเมืองไทยก่อนกำหนดโทษจำคุก เพราะทางการตำรวจไทยขอตัวกลับไปดำเนินคดีเองในประเทศ ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ครั้นถึงไทยธรรมนัสหลุดคดี มีการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลกลายเป็นคนใหม่


ธรรมนัสถึงจะเส้นใหญ่ขนาดลาซันญา หลุดคดีในไทยง่ายๆ แล้วยังได้เป็นรัฐมนตรีก็อย่างหนึ่ง แต่ธรรมนัสรัฐมนตรีนี่สามารถฟ้องหมิ่นประมาท ส.ส.ที่อภิปรายในสภาได้ไหม หรือแค่ไหน กฎหมายไทยยุคนี้มีไว้ให้ตีความหลากหลายเลยเหรอ

ทว่ายุคนี้ที่แม้จะเป็นยุค เผด็จการแค่ครึ่งใบแทนที่จะใช้ปืนคอยกดขี่ แต่ใช้กฎหมายที่เขียนเองไว้บังคับ และกองทัพประกาศก้องต้องทำสงครามไซเบอร์กับประชาชน บางทีการฟ้องร้องมันก็เดินย้อนทางได้เหมือนกัน จะสัมฤทธิ์ผลแค่ไหนยังไม่รู้

ฟ้องหนึ่งก็คือจ้าวพ่อการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็น เซเล็บ ของสื่อฝ่ายให้ท้ายคณะสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ค่าย นูวส์เน็ตเวิร์คที่กวาดซื้อเอากลุ่มเนชั่นมาอยู่ภายใต้อุ้งเท้า แล้วให้ ที-นิวส์ บริหารจนกลายเป็นสำนักโฆษณาชวนเชื่อขณะนี้
 
เสี่ยโป้อภิรักษ์ ชัชอานนท์ อดีต กปปส.ระดับลิ่วล้อ เกิดร่ำรวยจากการเป็นเจ้ามือการพนันออนไลน์ แล้วพอมีโควิด-๑๙ก็ไปบริจาคก้อนโต เท่านั้นไม่พอท้าฟาก อนาคตใหม่ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบ ซึ่งหัวหน้าเป็นเศรษฐีหมื่นล้านมาแข่งกันบริจาค

เท่านั้นแหละ เขากลายเป็น ไอดอล ของค่าย เนชัวร์ไปในบัดดล แต่วันนี้มีคดีเกาะหลัง ที่พนักงานสอบสวน สน.บางเขน นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องเสี่ยกับพวกรวม ๖ คน “ในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์”

หากแต่อัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ๙ (ดอนเมือง) พิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้ใหญ่เกินอำนาจศาลแขวง จึงส่งสำนวนกลับไปให้ สน.ทำคำฟ้องใหม่ รวมเอาข้อหาฟอกเงินเข้าไปด้วย ก่อนที่จะส่งให้สำนักอัยการฟ้องใหม่เป็นคดีพิเศษ


อีกคดีดูเหมือนว่าอดีต กปปส. (ระดับแกน) ที่ได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีดิจิทัล กลับจะเป็น ปลาตายน้ำตื้นจากเมื่อปลายปีที่แล้วทำแกร่งอย่างกร่าง ปล่อย เฟคนิวส์ เสียเอง โพสต์เฟชบุ๊ค “ว่าตำรวจจับกุมคนที่เผยแพร่ภาพในการชุมนุมที่สกายวอล์ค”
 
เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมประชาธิปไตยจอมตื๊อก็เลยเอาไปแจ้งความฟ้อง ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ม.๑๑๔ “ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ” วันก่อนเขาเห็นว่าเนิ่นนานมาหลายเดือนคดีเงียบฉี่ ก็เลยไปทวงถามที่ บก.ปอท. จึงทราบว่า

“คดีนี้มีความเห็นสั่งฟ้อง (แล้ว) และได้เดินทางไปส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา” ในวันนั้นเอง (๑๙ พ.ค.) เอกชัยให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่คิดว่าคุณพุทธิพงษ์ (ปุณณกันต์) ท่านจะเป็นคนชั่วร้ายอะไร มองว่าคนเราบางทีอาจผิดพลาดกันได้”

อีกทั้งเขาเสริมเหมือนจะสอน “ไม่ใช่ไปไล่แจ้งความทุกอย่าง พอสุดท้ายตัวเองพลาดก็จะโดนเอง และเข้าใจเอง” ถ้าเป็นคนธรรมดาก็เรียกว่าปากพล่อยหาเสี้ยน แต่นี่เป็นถึง รมว. “ทำให้คนเขาเสียหายและคนแตกตื่น ก็ต้องโดนดำเนินคดีบ้าง”

(https://www.msn.com/th-th/news/national/1/ar-BB14i2km?ocid=st)