ดราม่าซะอีก “เหนื่อยนะเนี่ย” จากที่ ‘วาสนา’ (นาน่วม) เล่าว่านายกฯ บิ๊กตู๊บของเธอว์บ่นหลังจากประชุม
ครม.เครียดเกี่ยวกับ ‘โดนด่า’ อย่าง ‘หะมาไม่แดรก’ เรื่องจัดการ #ไวรัสโคโรน่า
กับ #ฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ แต่ก็ “รีบพูดออกมาเองว่า ไม่ลาออก”
เนื่องจากเคยโดนโซเชียลไสส่ง “เหนื่อยนักก็ออกไปซะ”
พวกครองบ้านครองเมืองนี้ชอบดราม่ากันจริง ข้างโปรเฟสเซ่อโฆษก ที่ Sa-nguan
Khumrungroj เรียกว่า #เจ๊คิ้วสัก บอก “สื่อจีนเผย
ประเทศไทยเป็นมิตรที่ดีที่สุดในอาเซียน” นั่นเชียว
ที่ไหนได้เจ๊ “ไปเรียนภาษาจีนจากที่ไหน พาดหัวเขาคือ
สำนักนายกรัฐมนตรี : 4 กุมภาพันธ์ รัฐบาลเตรียมไปรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น”
ประมาณเดียวกับแนว ‘สลิ่ม’ @M_Mmom1 5h Replying to @sansani23 เรื่องหมอไทยรักษาโคโรน่าได้แห่งแรกในโลก
“คนจิตใจดีจะชื่นชมยินดี
ทั้งจีนและไทยต่างช่วยเหลือกัน จีนก็ถือว่าเราเป็นมิตรที่ดีที่ยามยาก
แต่มีเพียงบางส่วนที่พยายามดิสเครดิตเสียงชื่นชมไทย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง”
ประโยชน์การเมืองคงไม่ได้เท่าไร แต่ความเสียหายเรื่อง ‘ขี้ตู่’ จะมากกว่านั้น
เมื่อ “รายงานของ #จีน
ตีพิมพ์ใน #TheLancet 24 ม.ค.ครับ https://bit.ly/2RRHeNt” @pipob69
แจงให้เห็นว่า “ไม่น่าจริงนะครับ” ที่ “#หมอไทย อ้างไม่ได้ลอกสูตร #ยาไวรัสโคโรนา จาก #จีน
โดยบอกว่าเริ่มให้ยาสูตรนี้กับคนไข้ 29 ม.ค.” คือหลังจากนั้นสี่วัน
นั่นละดราม่า แบบที่ @StopCredulity เขาว่า “เห็นท่าที #รัฐบาลเฮงซวย
เอาอกเอาใจจีนจนเกินเหตุขนาดนี้ หน่วยงานราชการก็ทำคลิปเอาใจจีน (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยขนพนักงานอออกมายืนร้องเพลงให้กำลังใจประเทศจีน)”
ยังกับ ‘งิ้วกลางแปลง’ “และนักศึกษาไทยติดอยู่ในอู่ฮั่น วันนี้ก็ยังไม่ได้กลับไทย (อ้อนี่เขากำหนดเครื่องออกวันนี้
มีเข้าแถวถ่ายรูปออกสื่อ แล้วทั่นผู้นั้มพ์แจกพระเครื่องป้องกันติดเชื้อให้พวกเจ้าหน้าที่ด้วย)
ทำให้คิดถึงภาพนี้” #ไก่ต่อขา
แล้วที่ดราม่ายิ่งกว่า ก็ ‘เอ๋’ ปารีณา “นั่งยกมือไหว้ขอร้อง” เสี่ยเจ้าของโรงงานที่เอ๋ด่าเขาไว้
“ถอยไปปากเหม็น รอบหน้าไม่ต้องมาเลือก” จากเรื่องเก่าเมื่อเอ๋ขนชาวบ้านเข้าไปคัดค้านการก่อสร้างโรงงานของบริษัท
สตาร์ฟู้ด
จนทำให้ “นายกิตติทัต มณีพรรณ์ อายุ ๔๖ ปี
เจ้าของโรงงานอาหารสัตว์ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เขาดิน จ.ราชบุรี
ให้ดำเนินคดีข้อหาบุกรุก” ตั้งแต่คราวนั้น จนเมื่อ ๓๑ มกรา ๖๓ นายกิตติทัต
และนายสุทธิรักษ์ สุกใส ทนายความนำหลักฐานเพิ่มเติมไปมอบตำรวจ
เป็นคลิปเหตุการณ์วันที่เอ๋พาชาวบ้านบุกรุกเข้าไปในไร่ของเขา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการรังวัด “เพื่อดูระยะห่างจากพื้นที่สาธารณะ และสถานที่อื่นๆ
เช่นโรงเรียน วัดแล้ว” พบว่า “เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด” แต่นางยังพยายามจะให้เจ้าหน้าที่รังวัดใหม่
จนถึงกับ “ได้นั่งลงแล้วยกมือไหว้ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยรังวัดใหม่
และเจ้าหน้าที่ก็ตอบว่า จะต่อต้านกันอย่างไรผมไม่รู้ ก็ว่ากันไป แต่ผมมาทำตามหน้าที่”
นี่แหละทำให้เอ๋โดนฟ้องทั้งข้อหาบุกรุกและ “ดูหมิ่นซึ่งหน้า” พร้อมผู้ต้องหารวม ๑๗
คน
แล้วก็คดีนี้มีความคืบหน้าแค่ที่นายกิตติทัตบอกว่า
“ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำตนเพียงคนเดียว และจะเรียกพยานฝ่ายตนมาสอบสวนเพิ่ม
ส่วนฝั่งของ น.ส.ปารีณา ยังไม่มีการเรียกใครมาสอบปากคำ
และทราบว่ายังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา”
นี่แสดงว่าเจ้าพนักงานกำลังหาทางช่วยกันให้รอดหรือไม่
ดูจากคดีที่ปารีณาโดนข้อหาบุกรุกป่าสงวน ยึดครองพื้นที่ป่าเอาไปทำฟาร์มเลี้ยงไก่
ที่ทางกรมป่าไม้พบว่าเกือบ ๗๐๐ ไร่อยู่ในที่ป่าและเขต สปก.ที่ผู้ครอบครองไม่มีคุณสมบัติทำไร่
แต่กรมป่าไม้ก็ต้องรอกฤษฎีกาชี้กลับว่าผิดหรือไม่
ระหว่างรอนี่ก็เกิดเหตุ ‘ย้าย’ ขนานใหญ่ในกรมป่าไม้ ธวัชชัย ลัดกรูด ตำแหน่งผู้ตรวจการฯ ภารกิจประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดินของ
ปารีณา ไกรคุปต์ ถูกเด้งไปเป็น ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑ (อุดรธานี)
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอ้างว่า
“อธิบดีกรมป่าไม้ขอมา” ซึ่งนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีฯ “ถือว่าได้ตำแหน่งที่ดีขึ้น
ได้คุมกำลังหลัก มีงบประมาณ มีลูกน้อง”
แต่ผู้สันทัดกรณีเรื่องตำแหน่งแห่งหนในราชการกลับเห็นว่า
การเป็นผู้ตรวจฯ ย่อมดีกว่า เพราะมีขอบข่ายอำนาจวินิจฉัยกว้างกว่า ในระดับรองอธิบดีฯ
งานนี้จึงเป็นที่ตระหนักว่า ปารีณานั้นเส้นใหญ่มากพอควรทีเดียว
ทว่า ‘กรรมซัดวิบัติเป็น’
ของเธอว์ยังเต้นเร่า เมื่อคดีเก่า ‘ค้าอาวุธสงคราม’
ช่วงพฤษภาถึงกรกฎา ๕๗ พุพอง อัยการยื่นฟ้องเมื่อ ๒๗ มกรา
นัดเริ่มเปิดคดีวันที่ ๙ มีนา ๖๓ “อันเป็นความผิดที่เหตุพิเศษเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
และความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เรื่องให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน
หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม”
(https://www.thairath.co.th/news/politic/1757156,
https://www.pptvhd36.com/news/118824 และ https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3501099)
อันเป็นเรื่องซึ่งต้องตาม
แม้จะดราม่าแค่ไหน จะได้รู้กันไปว่ากลโกงพวกสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ‘มาร’ ขนาดไหน
เก็บเป็นฐานข้อมูลไว้คราวหน้า ไม่นานเกินรอ คราเมื่อลมหวนกลับ