วันอังคาร, กรกฎาคม 03, 2561

ช่วยเหลือน้องๆ ออกจากถ้ำได้แล้ว “ต้องช่วยเหลือคนไทย 66 ล้าน ออกจากถ้ำเผด็จการต่อไป” และหยุดลงโทษสื่อ !!!


...




ประเทศนี้มันมืดจริงๆ ใครเคยดูทั้งสองรายการก็จะรู้ว่ามีการวิเคราะห์ที่เป็นไปด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ท่ามกลางสื่อฝ่ายเชียร์รัฐบาลที่ยุยงสร้างความเกลียดชังและบิดเบือนความจริงมากมายที่กสทช.ไม่เคยแตะ วอยซ์กลับถูกลงโทษครั้งที่ 20 สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของยุคนี้คือการกลั่นแกล้งรังแกโดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ โดยมีผู้คนที่พร้อมใจใช้อคติปฏิเสธความจริง

#ช่วยกันแชร์ไปเป็นสักขีพยาน

——————

2 กรกฎาคม 2561 กสทช. มีคำสั่งระงับการออกอากาศรายการ The Daily Dose และ Wake Up News เป็นเวลา 3 วัน โดยเนื้อหาที่เป็นข้อถกเถียงคือ เนื้อหาในรายการ The Daily Dose ออกอากาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่นำเสนอบทวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองของไทย โดยเปรียบเทียบกรณีการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กับภาพยนตร์เรื่อง “No Country For Old Men” ว่า ผู้ครองอำนาจเดิมแทรกแซง ข่มขู่ บุคคลที่จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่เพื่อให้สามารถจัดตั้งพรรคได้ อันเป็นการกีดกันไม่ให้คนยุคใหม่ได้เข้ามาบริหารปกครองประเทศในลักษณะ “No Country For Young Men” และนำเสนอบทสัมภาษณ์ของแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ทั้งในภาพรวมผู้ดำเนินรายการยังแสดงความคิดเห็นที่ไม่เป็นกลางก่อให้เกิดการแบ่งแยกในสังคม
.
นอกจากนี้ผู้ดำเนินรายการยังเสนอข้อมูลว่า จะมีการเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความหรือเลื่อนระยะเวลาการเลือกตั้งจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เป็นเดือนเมษายน 2562
.
และเนื้อหาในรายการ Wake Up News ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ที่ผู้ดำเนินรายการได้มีการสรุปความเห็นของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวศ อดีตผบ.ตร. ในงานเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า การรัฐประหารมักจะถูกกระทำโดยทหารที่ถูกปลูกฝังให้อยากเป็นใหญ่แต่ไม่คิดจะทำตามระบบ ไม่คิดอยากเลือกตั้ง คิดแต่จะยึดอำนาจและเขียนกฎหมายเพื่อให้รองรับการสืบทอดอำนาจ

...


...


เรียน. ผู้ชมและผู้สนับสนุนวอยซ์ทีวีทุกท่านครับ

ผมขออนุญาตแจ้งข่าวร้ายสำหรับแฟนๆรายการ wake up news และ the daily dose ให้ทราบว่า. ทั้งสองรายการถูกกสทช.สั่งพักการออกอากาศเป็นเวลา 3 วัน.

ในส่วนของเวค อัพ นิวส์. มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(3 ก.ค.)ถึงวันที่ 5 ก.ค. โดยรายการที่จะมาแทนชั่วคราว คือ voice news

ส่วนเดอะ เดลี่โดส. มีผลคืนนี้(2 ก.ค.)ถึงวันพุธที่ 4 ก.ค. และรายการที่จะมาแทนชั่วคราว คือ overview

ความผิดของทั้งสองรายการ. ในมุมมองกสทช. เป็นเหตุผลเดิมๆ คือ กล่าวหาว่านำเสนอเนื้อหาที่ขัดต่อประกาศคสช.ฉบับที่ 97 และ 103 รวมทั้งเอ็มโอยูที่วอยซ์เคยทำไว้กับกสทช. สรุปโดยรวมๆ คือ กล่าวหาว่ามีเนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคง. อาจสร้างความแตกแยก. มีอคติ ไม่เป็นกลาง

แต่ในมุมมองของเรา. ยังเชื่อมั่นว่า. นี่เป็นเสรีภาพของการนำเสนอข้อเท็จจริงและความคิดเห็น. ตามกรอบที่รัฐธรรมนูญรับรอง. ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย.(หากข้อมูลและความเห็นนั้น. ไปละเมิดผู้ใด. ก็มีกฎหมายปกติเอาผิดได้อยู่แล้ว. รวมทั้งยังมีกระแสสังคมที่พร้อมจะลงโทษอีก. หากเขาไม่เห็นด้วย)

อย่างไรก็ตาม. เมื่อกสทช.มีคำสั่งมาแล้ว. เราคงต้องปฏิบัติตามไปก่อน คือ การพักรายการดังที่ผมชี้แจง. แต่เราก็สงวนสิทธิ์ที่จะเรียกร้องความยุติธรรมในชั้นศาลปกครองต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และระหว่างนี้โปรดติดตามรายการที่มาแทนชั่วคราว

ขอขอบพระคุณ
ประทีป คงสิบ
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายข่าวและเนื้อหารายการ
สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี


ที่มา FB


Tawan Ten

...



ที่มา
iLaw
14 hrs ·

ย้อนดูปัญหาการพิจารณาลงโทษสื่อ โดยกลไก กสทช. ก่อนฟังปากคำผู้ได้รับผลกระทบในรายการ "คืนวันพุธปลดอาวุธคสช." ตอนที่ 2

หลังการยึดอำนาจ ประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 และ 103/2557 และ คำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 41/2559 คือดาบปลายปืนที่คสช.ติดเพิ่มเติมให้กับกสทช. เพิ่มเติมจากมาตรา 37 ของพ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 (พ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ) ซึ่งเป็นกฎหมายที่กสทช.เคยใช้ควบคุมสื่ออยู่ก่อนหน้านี้

การออกประกาศคสช.และคำสั่งหัวหน้าคสช.ทั้งสามฉบับส่งผลให้ขอบเขตของเนื้อหาที่ต้องห้ามออกอากาศของสื่อกว้างขวางขึ้น สถานีโทรทัศน์ที่นำเสนอรายการที่มีเนื้อวิพากษ์วิจารณ์คสช.อย่างเผ็ดร้อนจึงมักตกเป็นเป้าที่จะถูกลงโทษโดยกสทช. ด้วยกลไกของกฎหมายดังที่กล่าวมาข้างต้น

องค์กรวิชาชีพสื่อได้แสดงความกังวลถึงการใช้อำนาจตามประกาศคสช.และคำสั่งหัวหน้าคสช.ผ่านทางแถลงการณ์ซึ่งระบุว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 41/2559 ที่มีเนื้อหาจำกัดความรับผิดของการใช้อำนาจของ กสทช. อาจทำให้เกิดการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชนต่อสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งการขยายอำนาจตามมาตรา 37 ของพ.ร.บ.ประกอบกิจการฯ ให้ครอบคลุมไปถึงประกาศ คสช. ที่ 97/2557 และ 103/2557 ยังเป็นการขยายอำนาจในการจำกัดเสรีภาพของสื่อจนเกินขอบเขต ซึ่งจะทำให้สื่อมวลชนทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารด้วยความหวาดกลัว และส่งผลให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ครบถ้วนรอบด้าน

รายการ "คืนวันพุธปลดอาวุธคสช." วันพุธที่ 4 กรกฎาคมนี้ ไอลอว์และประชาไทชวนผู้จัดรายการชื่อดังที่เคยได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจของกสทช.ตามกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้นมาร่วมพูดคุยถึงความรู้สึกที่ถูกจำกัดเสรีภาพในการทำงาน ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตัวรายการและตัวสถานีหลังตกเป็นเป้าของประกาศคำสั่งดังกล่าว รวมถึงราคาที่ประชาชนจะต้องจ่ายจากการที่สื่อถูกจำกัดเสรีภาพในการทำงานจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างตรงไปตรงมา สำหรับแขกรับเชิญในรายการ "คืนวันพุธปลดอาวุธคสช." ตอนที่สองจะเป็นใคร อดใจรอฟังเฉลยวันพรุ่งนี้ และติดตามชมรายการในคืนวันพุธนี้ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไปทางเฟซบุ๊กเพจ iLaw และ ประชาไท Prachatai.com

อ่าน ปัญหาของการพิจารณาลงโทษสื่อโดยกลไกกสทช. >>> https://freedom.ilaw.or.th/blog/NBTC-and-media-punishment

ย้อนดู "คืนวันพุธปลดอาวุธคสช." ตอนที่ 1 คุยกับมัทนา อัจจิมา ผู้ร่วมการชุมนุมกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและผู้ได้รับผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 >>> https://www.youtube.com/watch?v=xfg2ySxqwdo

ร่วมเป็นหนึ่งใน 10,000 รายชื่อของการ "ปลดอาวุธคสช." คืนเสรีภาพและประชาธิปไตยให้กับสังคมไทยได้ที่ >>> https://ilaw.or.th/10000sign

#disarmNCPO