เจ้าของ ‘กรรณิกาโพล’ นี่สมัยหน้าตอนบิ๊กตูบเป็นนายกฯ
คนนอก น่าจะได้เป็น รมว.ส สาธารณสุขนะ เลียซะเกลี้ยงสะอาดจริงๆ พอประยุทธ์
จันทร์โอชา สะดุดขาตัวเอง ก็รีบออกมายกหางทันที
“พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ ๗๘.๔ ระบุ
ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ”
(ซูเปอร์โพลของนพดล กรรณิกา รีบออกมาประกาศ
โดยมอบให้ปราโมทย์ พันธ์สะอาด
รองประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน ออกหน้า น. กรรณิกา เขาคงเขิน)
ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมอีสาน จนทำนบดินห้วยทรายขมิ้นแตก
น้ำล้านลูกบาศก์เมตรทะลักอ่วมสกลนคร แต่กรมชลฯ อ้ำอึ้งเพราะไม่ได้อัพเดทระบบเตือนภัยมาตั้งแต่ปี
๕๙ จำใจต้องยอมรับสามวันให้หลัง
อ้าง “น้ำมากทำให้น้ำล้นคันกั้นน้ำ
กัดเซาะคันดินกว้าง ๒๐
ม. ลึก ๔ ม. มีน้ำไหลออกจากอ่างเก็บน้ำ ราว ๑ ล้าน ลบ.ม.”
เมื่อวันก่อนเห็นเขาบ่นกันแซ่ดเว็บว่าถ้ารัฐบาลประยุทธ์ใส่ใจ
แจ้งข้อมูลแก่ประชาชนตามความเป็นจริง
อย่างน้อยจะมีเวลาราวครึ่งชั่วโมงนำรถและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นออกจากบ้านได้บ้าง
ไม่ต้องจมน้ำระนาวกันอยู่อย่างนี้
แต่ว่าความเสียหายของ
คสช. อยู่บนใบหน้า ที่รัฐบาลประยุทธ์จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล วันเฉลิมพระชนมพรรษา
ร.๑๐ ขณะที่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงเครื่องบินโบอิ้ง ๗๓๗-๘๐๐
ส่วนพระองค์บินอยู่บนน่านฟ้าเยอรมนี ระหว่างมูนิคกับซูริค
เรื่องเกิดเมื่อมีคนทัก
จุ๊ จุ๊ กันมากว่าอาจารย์น้อง จันทร์โอชา แต่งชุดไทยสีดำออกตักบาตรกับลุงตูบ
วันที่ ๒๘ ก.ค. ไม่เหมาะสม เพราะเห็นมีประกาศกรมประชาสัมพันธ์เผยแพร่ว่า
“วันที่ ๒๗
แต่งชุดดำล้วนทั้งหญิงชาย วันที่ ๒๘ ชายกางเกงดำ เสื้อขาวนวลติดโบว์ดำ
หญิงชุดสุภาพ สีขาวนวลติดโบว์ดำ...
การแต่งกายนี้เฉพาะ
ผู้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ในพิธีต่างๆ ที่รัฐบาลจัด ซึ่งไม่ได้หมายถึงประชาชนทั่วไป”
แต่โฆษกห่านอูออกมา
damage
control ว่า “การแต่งกายของภริยาของนายกฯ เป็นไปตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่กำหนดให้การแต่งกายของคณะรัฐมนตรี เป็นชุดปกติ ขาวไว้ทุกข์
ส่วนคู่สมรสที่เป็นหญิง
แต่งกายชุดไทยจิตรลดา หรือชุดไทยอมรินทร์สีดำ” นี่เวอร์ชั่นมติชนออนไลน์
ถ้าเวอร์ชั่น
วาสนา นาน่วม อย่างนี้ “เสธ.ไก่อูจะไม่ทน ประนามเพจแดงน่าอาย โจมตีคนไม่เกี่ยวข้อง
ตัดต่อภาพ บิดเบือน กล่าวหา (๓ กระทง) อ.น้อง-ภริยา ครม....ชี้ ยอมรับไม่ได้”
โยกไปเวอร์ชั่นมติชน
“ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบหาตัวผู้สร้างข่าวบิดเบือน
เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย”
แม้นว่าจะมีคน ‘ไม่เข้าข้างใคร’ เอาประกาศสำนักพระราชวังออกมาแจง
“ตามประกาศสำนักพระราชวังระบุเครื่องแต่งการปกติขาวไว้ทุกข์
ตามธรรมเนียมสตรีที่ไม่ได้รับราชการก็ต้องแต่ชุดไทยจิตลดาสีดำครับ” (Sithipon First Vacharakitivanich)
แต่วิสัย (ไม่ทัศน์) ของ คสช. “แก้ไขด้วยการแก้ตัว” หรือ ‘damage control’ ด้วยปาก ไม่เพียงให้วินธัย (สุวารี) และสรรเสริญ (แก้วกำเนิด) ช่วยกันบิดเบี้ยวว่าน้ำท่วมคราวนี้เป็นภัยธรรมชาติแท้ๆ
ต่างกับปี ๕๔ ที่ “สาเหตุเกิดจากบริหารจัดการที่ผิดพลาด
แม้รัฐบาลรู้ว่ามีปริมาณฝนตกมาก แต่ไม่เร่งระบายน้ำ
จนเกิดความเสียหายแก่ประเทศมหาศาล” จึงได้มีคนที่เขาไม่ยอม ‘อยู่ทน’
กับความตอแหล ออกมาแย้ง
“น้ำท่วมปี ๕๔ มาจาก ‘ลานิลญ่า’ แถมเจอพายุโซนร้อนติดๆ
กัน ๕ ลูก ไล่ตั้งแต่ ไหหม่า นกเตน ไห่ถาง เนสาด และนาลแก” (@Kalanistan @kalanistan)
จากนั้นเป็นรายการทวงบุญคุณ ผ่านทางผู้สื่อข่าวเพื่อทหาร Wassana Nanuam ยอยศ “นักรบสีน้ำเงิน หน่วยทหาพัฒนา บก.ทัพไทย นพค.๒๑ ๒๒ ๒๔ สนภ.๒ นทพ.บก.ทท.
กระจายกำลังช่วยชาวบ้านทั่วอิสาน...
เราเข้าช่วยทันที ไม่มีวันหยุด ไม่มีข้อแม้ จะกลางวัน
กลางคืน จะใกล้ไกล ด้วยเต็มใจ” เลยมีใครเขาหมั่นไส้
“มีข้อน่าคิดว่า
ปัจจุบันเป็นการช่วยหรือเป็น ‘หน้าที่’ อย่างหนึ่งไปแล้ว ไม่ใช่งานจิตอาสา
แต่กลายเป็นภารกิจที่มีการตั้งหน่วยงาน ตั้งอัตรากำลัง
ของบประมาณจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ไว้พร้อมสรรพ”
ดังที่ Atukkit Sawangsuk คอมเม้นต์ไว้ว่า
“ใน ทบ. มีหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ในกองบัญชาการกองทัพไทย กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานความมั่นคงภายในและขยายโครงสร้างกองทัพเป็นรัฐในรัฐ...
เป็นเสมือนเป็นกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีกกรมหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในรั้วสีเขียว
เผลอๆ จะมีกำลังมีอุปกรณ์และใช้จ่ายงบประมาณได้สะดวกกว่า”
นั่นจะว่า
คสช.สะดุดขาตัวเองก็ได้ ความเสียหายบนใบหน้าเกิดจากกรมชลฯ
ไม่ได้แจ้งชาวบ้านตอนเขื่อนแตก แต่ คสช. ดันไม่แก้ไข
กลับไปพาลใส่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เสียอีก
ซึ่งถ้าดูตามจริงแล้วก็ตกที่นั่งเดียวกัน
สมัยปี ๕๔ ฝนตกมากเกินคาดจนเขื่อนต่างๆ เอาไม่อยู่ ต้องปล่อยน้ำเข้ากรุง
(โดยเลี่ยงวัง) พวกโรงงานชานกรุงเลยโดนกันกระอัก
(กลายเป็นข้อกล่าวหาในหมู่เสื้อแดงว่าเขื่อนกับกรมชลฯ ‘สมคบคิด’ ทำ conspiracy
ปล่อยน้ำทำลายยิ่งลักษณ์)
ปีนี้ก็มีทฤษฎีสมคบคิดเหมือนกันในหมู่
‘สลิ่ม’ จากโพสต์ของ พัชรียา รักในหลวงยิ่งชีพ (ดูเหมือนเธอว์จะเอาฮาเสียมากกว่า)
บอกว่า
“น้ำท่วมครั้งนี้สาเหตุน่าจะมาจากผลกรรม
ที่ ปชช. ประท้วง ที่ทำกับในหลวง ร.๙ รึเปล่า...มีมารกลุ่มหนึ่งพยายามล้มล้างราชวงศ์...หลายจังหวัดนะที่รวมกลุ่มกัน
ร่วมแรงร่วมใจกัน...
นี่ไงผลกรรมตามมาแล้ว
เมื่อไม่มีบารมีพระองค์คอยคุ้มครองแล้ว...เหลือชาวกรุงเทพนะที่จะโดนหนักหน่อย...ตอนนี้ที่น้ำไม่กรุงเทพฯ
เพราะยังมีพระบรมศพของพระองค์หรอกนะ”
จ้า.......