วันศุกร์, กรกฎาคม 28, 2560

ศาลฎีกาฯ กับกรมบังคับคดีคนละกรณี แต่ก็ลงที่ ‘ข้อหา’ เดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน จะเอาตังค์เค้า

วันก่อนบอกแค่เตรียมการ วันนี้เปลี่ยนเป็นหลังtine ที่ยึดแล้วคนละเรื่องกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขยับปาก

การยึดทรัพย์โดยกรมบังคับคดีเป็นมาตรการทางปกครอง ต้องทำตามเวลาที่กำหนด ส่วนวันที่ ๒๕ ส.ค. เป็นเรื่องของศาลซึ่งเป็นคดีอาญา”

ใครเขาก็รู้ว่ามันคนละกรณี แต่ก็ลงที่ ข้อหาเดียวกัน เป้าหมายเดียวกัน จะเอาตังค์เค้า ในรูปคดีรอศาลตัดสินวันที่ ๒๕ สิงหา ถูก-ผิดไม่รู้ (แม้ว่าใครๆ ฟันธงจำเลยไม่รอด) ก็ต้องรอดูก่อนใช่ไหม ตรรกะธรรมดา ไอ้เณรพลทหารก็รู้

กับที่ คสช. ใช้ ม.๔๔ เอาอำนาจทางปกครองมาบังคับตบทรัพย์เสียเลย แสดงว่าตัดสินไปก่อนศาล ว่าอดีตนายกฯ ที่ตนแย่งอำนาจเธอมามีผิดแล้วเรียบร้อย อย่างนี้ต้องเรียกกว่า ชิงสุกก่อนห่า.(ม)

ดังที่นายนพดล หลาวทอง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวว่า “ธนาคารได้ดำเนินการอายัดและถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารทั้ง ๗ บัญชี เพื่อส่งมอบให้กับสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพฯ ๖ แล้ว ตามคำสั่งอายัด...

หากยังปล่อยให้หน่วยงานทางปกครองตั้งเรื่องเอง สั่งยึดอายัดทรัพย์เอง โดยไม่รอการพิจารณาของศาล หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร การพิจารณาของศาลยังจะมีความหมายอยู่อีกหรือไม่

กลายเป็นว่าหน่วยงานทางปกครองจะใหญ่กว่าศาลหรือ”


และที่พี่ตูบไขสือทำเป็น ขู่ฟ่ออย่าเอาสองเรื่องมาพันกัน อย่าเอามากลายเป็นประเด็นเพื่อปลุกระดม” ก็ไม่ได้มีใครเขาเอาสองเรื่องมาปนกัน แต่ว่าสองกรณีนี้มันต้องเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว

กับที่พวกพ้องของคนที่โดนกระทำเจียนกระอัก ร้องโวยวายขึ้นมานี่น่ะ “ปลุกระดม” เหรอ

เรื่องของเรื่องตอนใช้อำนาจนี้คุณพี่มักง่าย ตอนนั้นไม่รู้ศาลจะไปทางไหนเพราะจำเลยสู้สุดฤทธิ์ ก็เลยเอาอำนาจทางปกครองมาใช้ก่อน แค่นั้นแหละ วิธีบริหารแบบ ‘oral…’ สำเร็จ (ราชการ) ด้วยปากของ คสช.

หรือที่ทั่นรองฯ ฝ่ายกฎหมายว่า “ถูกฟรี้ซเอาไว้ไม่ให้จำหน่ายจ่ายโอน” แต่ทำไมต้องถอนออกมาก่อนด้วยล่ะ

ดร.วิษณุ เครืองาม อ้าง “เงินที่ถูกอายัดมี ๑๖ บัญชี โดย ๕ บัญชีรวมแล้วมีเงินเป็นหลักแสนบาท ถูกกรมบังคับคดีถอนออกมา เป็นอำนาจตามกฎหมาย แต่ยังไม่ได้ถูกส่งเข้าคลังทันที ทรัพย์ยังอยู่ที่กรมบังคับคดี”

จะหลักแสนหรือหลักร้อยก็เงินของเขาที่ลูกไล่ คสช.ใช้อำนาจวิเศษถอนออกมา ไหนว่าจะเป็นไตแลนเดีย ๔.๐ ไฮเท็ค วิธีการยับยั้งกระแสรายวันบัญชีสั่งฟรี้ซเลยไม่ได้ ต้องเบิกเอามาฟรี้ซในกระเป๋าตัวเองเหรอ บูล..น่ะ

 
ทนายจำเลยชี้ว่า “การอายัดดังกล่าวเข้าใจว่าทำก่อนที่ทีมทนายจะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองให้ทุเลาการบังคับทางปกครอง (ซึ่งศาลจะอ้างอีกไม่ได้ว่าความเสียหายยังไม่เกิด)

ขณะนี้ศาลได้รับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาแล้ว โดยเรียกให้หน่วยงานทางปกครอง ทั้งกระทรวงการคลังและกรมบังคับคดีเข้าชี้แจง (ภายใน ๑๕ วัน) ว่าได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง”

นี่ก็อีก ศาลปกครองได้รับเรื่องร้องตั้งนานแล้วไม่ยอมขยับ ประสาทช้าเพิ่งจะรู้สึกตัวตอนนี้ เมื่อเกิดสับสนอลเวง ความเสียหายเพิ่งเกิดเรอะ อ้างไปเรื่อยเปื่อย เลื้อยไปในโคลนยังกับปลาไหล นิสัยเดียวกับ คสช.

แบบวิธีการระบายข้าวของ คสช. นั่นก็มั่วนิ่ม ตัวอย่าง ข้าวในคลังแห่งหนึ่งที่อ่างทอง ค้างสต็อกจากโครงการจำนำ ๖,๖๐๐ ตัน ข้าวดีๆ ระบายเป็นข้าวเน่าเสียนี่ หลักฐานจะจะ เจ้าของโกดังเปิดโปง ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวในคลังใหม่ทั้งหมด เพราะมั่นใจว่าข้าวไม่ได้เสื่อมสภาพ

“หากได้ราคาเพิ่มมาอีกแค่กิโลละ ๕ บาท เฉพาะที่โกดังของเธอที่เดียวรัฐก็จะได้เงินเพิ่มมาแล้ว ๓๐ ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ แล้วถ้าอีก ๒๐๐ แห่งเป็นแบบเดียวกัน รัฐเสียหาย หรือ ประชาชนนั่นแหละเสียหายไปเท่าไหร่” เจ้าของเพจ Thuethan Prasobchoke เขาช่วยถาม

 
อิศราภรณ์ คงฉวี แห่งคลังข้าว วรโชติ โรงสีพรแม่ยิ่งเจริญ จ.อ่างทอง ซึ่งเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวเมื่อปี ๒๕๕๗ ปัจจุบันข้าวค้างคลัง ๖ หมื่นกว่ากระสอบ “เตรียมขนย้ายเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ หลังถูกตีตราว่ามีข้าวเสื่อมสภาพเกินร้อยละ ๒๐ ของข้าวทั้งหมด” ซึ่งเธอออกมาร้องเรียนว่าไม่เป็นความจริง

ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวในคลังใหม่ทั้งหมด เพราะมั่นใจว่าข้าวไม่ได้เสื่อมสภาพ” มิหนำซ้ำตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสภาพก็ไม่ยอมให้ใครเข้าไปดู

“พร้อมยืนยันว่าไม่เคยได้รับทราบผลตรวจโดยตรง แต่รับทราบผ่านเว็บไซต์ และจะต้องรับผิดชอบถูกยึดแบงค์การันตี รวมทั้งจ่ายค่าส่วนต่างเป็นเงินนับ ๑๐ ล้านบาท

แต่การเข้าไปด้านในโกดังกลับพบว่าทหาร-ตำรวจสั่งคนนอกห้ามเข้าเด็ดขาด โดยอ้างว่าเป็นไปตามระเบียบของเจ้าหน้าที่


อะไรกัน ทั้งตุลาการและเจ้าหน้าที่ คสช. มีทั้งลักลั่น เลินเล่อ และมั่วนิ่ม คล้องจองทำนองเดียวกันก่อความเดือดร้อนเสียเงินสูญทรัพย์ ตั้งแต่อดีตนายกฯ ลงไปถึงเจ้าของคลังข้าว

แล้วยังหัวหน้าใหญ่ทำเป็น donkey ฉลาด “ตนไม่ต้องการให้เกิดปัญหา แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา...ต้องดูที่เจตนาว่าต้องการให้รั่วหรือไม่...ต้องคิดดูว่าคลังข้าวมีเป็นพันๆ คลัง...ใครจะไปตรวจสอบข้าวทุกกระสอบ

แต่รายคลังข้าวอ่างทองนั่นแอบตรวจกันว่า เน่าพอเจ้าของตรวจเองให้สื่อดูต่อหน้า เจอข้าวดีทั้งนั้นล่ะ