มาอีกก็ต้องถูกอิฐ (หรือไม่ก็ ‘อัด’
อย่างเคย) กรรมาธิการ สปท. คิดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตน
นอกจากทำตามนายสั่งให้ คสช. พอใจ แล้วยังพยายามคิดวิธีกำกับควบคุม เพิ่มแท็กทิค ‘กดขี่’ เบ็ดเสร็จเผด็จการเพื่อนายอยู่ในอำนาจนานๆ
เมื่อ ๒๙ มิถุนา
คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน ออกรายงานทีเด็ดเผ็ดมันสำหรับ
คสช. กำกับควบคุมสื่อสังคมออนไลน์ ดังที่ The
MATTER เล่าแจ้ง
“เค้าเป็นห่วงว่า คนไทยขาดความรู้และความเข้าใจในการใช้สิทธิเสรีภาพการสื่อสาร
บนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคม หรือขาดมาตรฐานจริยธรรมในการสื่อออนไลน์”
อ้างว่า “ทุกวันนี้มีปัญหาเต็มไปหมด
คนติดโซเชียลมีเดียกันงอมแงม จนกลายเป็นภาวะ ‘สังคมก้มหน้า’”
นี่จากรายงานของกลุ่ม “บุคคลอายุเฉลี่ย
๖๐ เศษ” ที่ “เป็นกรรมาธิการปฏิรูปเรื่องเทคโนโลยี
ทั้งโทรศัพท์มือถือ และ social
media” (@EricSirote)
ข้อแรกเสนอให้ “ใช้หมายเลขบัตรประชาชนยืนยันตัวตนในการใช้สื่อออนไลน์
สปท. เชื่อว่า จะช่วยสร้างผลทางจิตวิทยาทำให้ผู้ไม่หวังดี ไม่กล้าใช้สื่อออนไลน์
เช่น เฟซบุ๊กในการทำผิดกฎหมายได้”
ต่อไปแนะว่า “ต้องจัดระบบการเข้าถึงสื่อออนไลน์ผ่านมือถือ
เนื่องจากคนไทยมีผู้ใช้มือถือประมาณ ๙๐ ล้านเครื่องโดยมีมากกว่า ๕๐ ล้านเครื่องที่เล่นโซเชียลมีเดียได้
มาตรการที่ สปท.
แนะนำคือ ต้องจัดระเบียบการลงทะเบียนมือถือใหม่ โดยสนับสนุนให้ กสทช.
ใช้ลายนิ้วมือ ใบหน้า ควบคู่กับการลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน
ซึ่งโมเดลนี้เคยทดลองใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว
และ สปท.เห็นว่าควรนำมาใช้กับผู้ใช้มือถือและโซเชียลมีเดียทั้งประเทศ”
ย่อหน้าท้ายนี่ไอ้พวกหมดวัยทำงาน
๑๑ คนนี่เห็นโซเชียลมีเดียเป็นเขตก่อการร้ายเหมือนภาคใต้งั้นเรอะ
อีกอย่าง สร้างงานให้กันเอง
กลัวขาดรายได้ “สปท.มองว่า
ที่ผ่านมาข้อมูลของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีลักษณะที่ผู้ให้บริการต่างคนก็ต่างเก็บ
ไม่เคยมีศูนย์กลางที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน จึงเสนอให้ กสทช.
เป็นเจ้าภาพจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นมา”
‘ศูนย์กลางบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ’
นั่นละ แถมด้วย “เพิ่มประสิทธิภาพ ‘ศูนย์กลางเฝ้าระวัง’ ของ
ปอท.ที่มีอยู่แล้วควรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ควรมีเทคโนโลยีตรวจสอบใบหน้า ข้อความ รูปภาพ คลิปเสียงออนไลน์ทุกประเภท”
โอว นี่ลอกแบบ
๑๙๘๔ เดี๊ยะเลย Big brothers ‘พี่ใหญ่’ ใช่แล้ว
ยังไม่หมด “ในระยะยาว
สปท. เสนอว่า...ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดอบรม พระภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ให้เป็น
‘ต้นแบบ’ ในการช่วยเผยแพร่วิธีการใช้สื่อออนไลน์ในทางที่เหมาะสมและสร้างสรรค์”
ได้เลย
แนะนำให้ใช้สำนัก ‘พระธรรมกาย’
เป็นผู้ดำเนินการ
“อีกหนึ่งในข้อเสนอระยะยาวคือ
รัฐบาลควรส่งเสริมให้มีการผลิตซอฟต์แวร์ที่ใช้งานในสื่อโซเชียลมีเดียเป็นของตัวเอง
เพราะการพึ่งพาแต่โซเชียลมีเดียของต่างชาติ
มีแต่ทำให้เกิดความสูญเสียด้านการกำกับดูแลที่กฎหมายไทยไปไม่ถึง
ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีจำนวนมาก”
ลงท้ายนี่ไอเดียดีหาตังค์เพิ่ม แต่คงลืมอะไรไปหน่อยมั้ง
ในเมื่อ คสช. นายคุณน่ะรู้จักแต่จ่าย ไม่มีปัญญาหาเงินเองนะจ๊ะ