การนี้ วิวาทะระหว่างสองศิลปินแห่งชาติต่างสี คนหนึ่งเหลือง
คนหนึ่งแดง ก็ออกมาสู่ที่แจ้งโลกจริง ไม่เพียงบนไซเบอร์
เมื่อ นวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ฉวยจังหวะเขียนตอบ สุชาติ
สวัสดิศรี เพื่อนแก่เก่า เป็นอักขระสุนทรียะ
ยืนย้ำนั่งยัน แม่นมั่น มุ่งหมาย ฉัน ‘อยู่เป็น’ แน่นอน ไม่เสื่อมคลาย “รู้ได้ในสันดาน...ได้รู้ล้มและรู้ลุก...ชีวิตคือติดคุก
ไม่รู้ตัวไม่รู้โต...กราบไหว้ได้ทั้งนั้น ถ้าอยู่เป็นและดูเป็นฯ”
อันเนื่องมาแต่บทกลอนสอนตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่
“ศิลปินแห่งชาติ
ได้กรุณาแต่งเพิ่มเติมมาให้” เป็นที่ฮือฮาว่า เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นั้น “เชียร์สุนทรตู่”
จนทำให้ สุชาติ สวัสดิศรี ร้อนอารมณ์ “ดังที่ทราบกัน ‘สุชาติ-เนาวรัตน์’ มีจุดยืนทางการเมืองต่างกัน สุชาตินั้นไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร
และคัดค้านแนวทางการต่อสู้แบบ กปปส. หรือพันธมิตรฯ
ตรงข้ามกับเนาวรัตน์
ที่เคยขึ้นเวทีการชุมนุมของคนเสื้อเหลือง และ กปปส. หลังรัฐประหาร ๒๕๕๗ เนาวรัตน์ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
(สปช.)” นั่นตามเบาะแสที่ ‘คมชัดลึก’ ให้ไว้
จึงปรากฏโพสต์ของสุชาติบนเฟชบุ๊ควันที่ ๑ กรกฎาว่า “ทำใจลำบาก”
เนื่องจาก “๑ ใน ๒๕๐ ของ ‘สว.ลากตั้ง’
ทางวัฒนธรรมจำพวก ‘เงาของเขา’
ในกระทรวงวัฒนธรรม และพวกพ้องที่เลือกแล้วเตรียมตัว ‘เลีย’ล่วงหน้าได้
ขณะนี้ก็เป็น
๑ ใน ๑๕ ของคณะกรรมการกลาง ‘วัฒนธรรมแห่งชาติ’ อยู่แล้ว” จึงมาสู่จั่วหัวข้อเขียนของสุชาติที่ว่า “ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น
ไม่เคยรู้ก็จะได้รู้”
และ “เอาตามที่เลือก
ที่สบายใจกันต่อไปตามที่นิยมยินดี เขาคือใคร ไม่ ‘สำนึกพลาด’ อย่างไรเขา ‘เลือก’ของเขา
‘เรา’ ก็เลือกของเรา และอย่าพบกันได้เป็นดี”
เขาคนนั้น ใครคนนี้ จึงมิรอช้า เขียนตอบทันทีเมื่อยังมีควัน
"อยู่เป็นต้องดูเป็นเห็น ด้านร้ายให้เป็นครู ด้านดีมีให้ดูเป็น ไม้วัดบรรทัดฐาน
หมาเห่าอย่าเห่าตอบ มันทดสอบสัญชาตญาณ รู้ได้ในสันดาน ว่าใครพาลและใครพระ
เด็กดื้อต้องมีดี มีความคิดเป็นอิสระ รู้แพ้และรู้ชนะ ได้รู้ล้มแล้วรู้ลุก
เด็กอ่อนก็ติดเอว กระเตงอุ้มอยู่จุมปุก ชีวิตคือติดคุก ไม่รู้ตัวไม่รู้โต
ดูเด่นให้เห็นด้อย และเห็นสร้อยให้เห็นโซ่ เห็นพาลอย่าพาโล ให้รู้เพ่งพินิจพลัน
ทุกสิ่งมาเป็นครู ให้ได้ดูได้รู้ทัน กราบไหว้ได้ทั้งนั้น ถ้า ‘อยู่เป็น’ และดูเป็นฯ"
ดูแล้วย่อมเห็นที รายการนี้ต้องมีต่อ ไม่มีใครยอมระย่อ
ทั้งสองหน่อ ‘ศิลปิน’