‘ศาสตร์พระราชา’ ตอนใหม่ของลุงตูบ พูดถึง “สัจจธรรมข้อหนึ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ
สิ่งที่เกิดในวันนี้ เป็นผลมาจากการกระทำในอดีต ถ้าทำมาดีแล้ววันนี้ก็คงไม่ต้องลำบากหรือตามแก้ปัญหาเช่นเดิม
ส่วนสิ่งที่รัฐบาลนี้กำลังทำอยู่ในทุกวันนี้
ย่อมส่งผลในวันข้างหน้าอย่างเป็นมรรคเป็นผล อย่างไรก็ตาม
แม้จะไม่ส่งผลทางเศรษฐกิจในทันที
แต่อาจจะส่งผลทางด้านทางจิตวิทยาและความเชื่อมั่นในเบื้องต้น”
อันนั้นอธิบายได้เลยด้วยเหตุการณ์ปัจจุบันดู ก็คือ
สิ่งที่เกิดวันนี้เป็นผลมาจากเมื่อสามปีที่แล้ว ถ้าพวกทหารไม่ยึดอำนาจเพราะพวกสลิ่มกวักมือเรียกละก็
ราคายางคงไม่ลงไปถึง กิโลละ ๕๐ บาท (เคยต่ำสุด ๘๐ เมื่อปี ๕๗) ราคาข้าว
(เปลือกเจ้า ๑๐๐%) คงไม่เหลือแค่ ๘ พัน/ตัน (ปี ๕๗ เคยอยู่ที่
๑๕,๐๐๐ บาทต่อตัน)
สิ่งที่รัฐบาลนี้กำลังทำอยู่ ส่งผลทางจิตวิทยาทันที ประชาชน ‘จะบ้าตาย’
กันไปหมด ดังตัวอย่าง
“คสช. นี่มันบ้ากันหรือป่าว การโพสตที่ไม่ใช่เจตนาทางการค้า
เค้าไม่เรียกโฆษณา...”
“บิ๊ก ตร. เตือนชาวบ้าน
รีบลบโพสต์รูปคู่เหล้าเบียร์หากยังเฉยเจอปรับ 2 แสน
จะบ้ากันไปถึงไหน เอาสมองส่วนไหนคิดไอ้ปัญญาอ่อน
ตูเล่น FB มา 8 ปี คูณด้วย 365 วันต่อปี เท่ากับ 2,920 วัน ตูจะต้องกลับไปหาดูทั้งหมดเลยไหม
ว่าตูโพสต์ไปงานเลี้ยงมีเหล้าเบียร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเปล่า ใครจะจำได้ เล่นออกกฎหมายเอาผิดย้อนหลังมาใช้บังคับ
ประชาชนที่โพสต์ไม่มีเจตนาทางการค้า
วันๆ จะหาเรื่องตั้งกฎมาเอาเงินจากประชาชนทุกทาง
หหหห สสสสส.”
(รายนี้โพสต์กับไวน์ในแก้ว
๔ รูป)
ที่มาของเรื่องเกิดจากที่ปรึกษาสัญญาบัติ ๑๐ เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรนนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนักแสดง
๖ คน “หลังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ร้องเรียนว่ากลุ่มนักแสดงดังกล่าวมีการกระทำที่ถือมีความผิดตามมาตรา ๓๒” พ.ร.บ.เครื่องดื่มและแอลกอฮอล์
พ.ศ.๒๕๕๑ ความผิดในฐาน
"ร่วมกันโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โฆษณาสรรพคุณของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์"
มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี ปรับไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“แต่ในการกระทำความผิดครั้งแรกจะถือมีโทษปรับไม่ต่ำกว่า ๕๐,๐๐๐ บาท
และการกระทำความผิดครั้งที่ ๒ มีโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ตามแต่เจตนา” พล.ต.อ.ดร.วิระชัย
ทรงเมตตา ย้ำ
แต่ ดร.ทรงเมตตาไม่ได้พูดแค่นั้น ทั่นเลยไปถึง “การนำรูปไปลงในโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือศิลปินดารา
ก็ถือว่ามีความผิดเหมือนกัน”
แถมท้ายด้วยทีเด็ด “หากประชาชนคนใดพบเจอการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทุกสถานีตำรวจ
นอกจากนี้ผู้ที่แจ้งความดำเนินคดียังจะได้รับรางวัลนำจับเป็นเงิน ๑ ใน ๔ ของค่าปรับ”
นั่นละ จึงเข้าทางแก๊งทนายหัวไว หมายเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาศ
เริ่มด้วย ‘ทนายอู๊ด’ นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บอก
“เดี๋ยวจะล่อดาราอย่างทนายอานนท์ พี่เหน่งและบารยู มากินเหล้าแล้วถ่ายรูปโพสคู่กับเหล้า
ส่งไปให้เขามาจับ ล่าเงินรางวัลหนึ่งในสี่ของค่าปรับก่่อนนะ”
คุณลุง เลี้ยงไก่ ถาม “นั่งก๊งกันห้าหกคนถือเป็นกรรมเดียวหรือแยกฟ้องครับป๋า
ถ้าแยกฟ้องเป็นหกกรรมล่ะบานฉ่ำเลยนะนั่น งานเดียวสามแสน
ไม่รวยงานนี้จะรวยเมื่อไหร่”
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา ทนายอู๊ด ตอบ “แยกฟ้อง กรรมใครกรรมมันครับ ๓ คนก็คนละคดี
ผมจะได้เงินรางวัลหนึ่งในสี่คูณสาม คูณค่าปรับ รวยแน่ทนายอู๊ด”
ฝ่ายทนายน้อยๆ ขานรับทันที ก่อนออกคลิปเฟชบุ๊คไล้ฟ์กับโบว์
ณัฏฐา มหัทธนา ริน ‘ไฮนิเก้น’ หน้าจอไปสี่กระป๋อง
ส่วน ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นั่นก็โพสต์กับคู่ขวัญ ‘สัปโปโร’ แฝดสองขวด ล้วนหวังผลทางจิตวิทยา สร้าง “ความเชื่อมั่นในเบื้องต้น”
กันทั้งนั้น
ที่นี่เลยเอามั่ง เดี๋ยวเขียนเสร็จจะฟาด Mango IPA กับ Cucumber Pale (Ale) ให้ฉ่ำคอกะเขาบ้าง