เอกชัย หงส์กังวาน เขียนเล่าละเอียดฟ้องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ถูกข่มขู่ คุกคามและทำร้าย (นอกเครื่องแบบไม่แสดงบัตรประจำตัว ไม่แจ้งข้อหา ฉุดกระชากลากตัวทำให้บาดเจ็บ เอาไปควบคุมในค่ายทหารและสถานีตำรวจ) รวม ๘ ครั้ง พร้อมทั้งระบุจะรายงานการละเมิดสิทธิของตนต่อสหประชาชาติต่อไป
530 ซ.ลาดพร้าว 109 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพ
11 กรกฎาคม 2560
เรียน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เรื่อง คสช. ละเมิดสิทธิมนุษยชนของข้าพเจ้า
หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ้างการรักษาความสงบของประเทศด้วยการใช้ทหาร-กฎหมายคุกคามประชาชนที่เห็นต่าง
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=388676544880486&id=100012144304366
530 ซ.ลาดพร้าว 109 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพ
11 กรกฎาคม 2560
เรียน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เรื่อง คสช. ละเมิดสิทธิมนุษยชนของข้าพเจ้า
หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ้างการรักษาความสงบของประเทศด้วยการใช้ทหาร-กฎหมายคุกคามประชาชนที่เห็นต่าง
ตลอดเวลากว่า
3 ปีของการยึดอำนาจ
คสช. เลือกปฏิบัติทางกฎหมายหลายกรณี แต่สิ่งที่สร้างความกังขาให้กับข้าพเจ้ามากที่สุดคือ
การเพิกเฉยต่อการแทนที่หมุดคณะราษฎรด้วยหมุดหน้าใสที่ไม่มีผู้แสดงความเป็นเจ้าของ
ข้าพเจ้าตัดสินใจที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลถอนหมุดหน้าใสไปเก็บไว้ที่อื่นเพื่อรอให้เจ้าของหมุดนี้มารับกลับคืน
แทนที่รัฐบาลจะรับฟังข้าพเจ้า รัฐบาลกลับละเมิดสิทธิของข้าพเจ้าหลายครั้ง เช่น
การส่งเจ้าหน้าที่รัฐมาคุกคามข้าพเจ้าถึงบ้านพัก, การจับกุมข้าพเจ้าไปคุมขังโดยปราศจากข้อหา
และการข่มขู่ในระหว่างการสอบสวน
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2560
ข้าพเจ้าโพสท์ถึงข้อเรียกร้องให้ถอนหมุดหน้าใสออกจากเขตพระราชฐานในเฟสบุ๊คของข้าพเจ้าตั้งแต่วันที่
22 เมษายน
2560 โดยข้าพเจ้าแจ้งถึงการยื่นหนังสือร้องเรียนนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่
25 เมษายน 2560 เวลา 10.00
น.
แต่เวลา
16.30 น.
ของวันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2560 ชาย
8 คนซึ่ง 2 ในนั้นสวมเครื่องแบบตำรวจเดินทางมาที่บ้านของข้าพเจ้า
โดยมีรถกระบะของ สน.ลาดพร้าว จอดอยู่ตรงข้ามหน้าบ้านของผม ชายกลุ่มนั้นพยายามจะเปิดประตูบ้านของข้าพเจ้า
พวกเขาอ้างตนเองเป็นตำรวจ สน.ลาดพร้าว โดยไม่แสดงบัตรตำรวจ หรือหมายค้นแต่อย่างใด
1 ในชายกลุ่มนั้นขอให้ข้าพเจ้าเปิดประตูบ้านเพื่อสนทนา ข้าพเจ้าจึงถามจุดประสงค์ของพวกเขา
เขาอ้างต้องการเชิญข้าพเจ้าไปสนทนาเรื่องการยื่นหนังสือร้องเรียนนี้ที่
สน.ลาดพร้าว
อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าปฏิเสธการเปิดประตู
เขาจึงร้องขอให้ข้าพเจ้าไม่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนนี้ในวันพรุ่งนี้
แต่ข้าพเจ้ายืนกรานที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลตามกำหนด
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560
ข้าพเจ้าเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลเวลา 9.15 น. เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ถอนหมุดหน้าใสออกจากเขตพระราชฐาน ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเดินเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ชายกว่า 10 คนปิดล้อมข้าพเจ้าไม่ให้ยื่นหนังสือร้องเรียนนี้
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560
ข้าพเจ้าเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลเวลา 9.15 น. เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ถอนหมุดหน้าใสออกจากเขตพระราชฐาน ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเดินเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ชายกว่า 10 คนปิดล้อมข้าพเจ้าไม่ให้ยื่นหนังสือร้องเรียนนี้
ชายกลุ่มนี้ฉุดข้าพเจ้าขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนจนข้าพเจ้าได้รับบาดเจ็บที่มือ-ศีรษะ
พวกเขาพาข้าพเจ้าไปที่ มทบ.11
โดยไม่มีการแจ้งข้อหา
ข้าพเจ้าอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ทหารอ้าง ม.44 ในการจับกุมตัวข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับบุคคลภายนอก-ทนายความ
ข้าพเจ้าถูกกักตัวอยู่ภายในห้องขนาดเล็ก ทหาร-ตำรวจสอบสวนข้าพเจ้าราวกับอาชญากร
โดยบางคนใช้ถ้อยคำข่มขู่ข้าพเจ้า
ทหารยึดหนังสือเรียกร้องของข้าพเจ้า
และอ้างจะรับหนังสือเรียกร้องนี้แทนรัฐบาล แต่พวกเขาไม่ได้มอบเอกสารยืนยันให้กับข้าพเจ้าแต่อย่างใด
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560
อีเมล์ zelly6420@gmail.com ของข้าพเจ้าถูกแฮก เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีเมล์หลักของข้าพเจ้าแจ้งเตือนถึงการถูกแฮกอีเมล์นี้
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560
อีเมล์ zelly6420@gmail.com ของข้าพเจ้าถูกแฮก เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีเมล์หลักของข้าพเจ้าแจ้งเตือนถึงการถูกแฮกอีเมล์นี้
หลายวันต่อมาแอคเคาท์
Pinterest ของข้าพเจ้าแจ้งเตือนถึงการถูกแฮกเช่นเดียวกัน ทั้งอีเมล์ และ Pinterest
ผมเลิกใช้มาหลายเดือนแล้ว
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นการแฮกเหล่านี้เป็นผลงานของ คสช.
ครั้งที่
4 เมื่อวันที่
24 มิถุนายน 2560
2 เดือนต่อมาข้าพเจ้ายังคงไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลในกรณีการถอนหมุดหน้าใส
แม้ข้าพเจ้าเคยทวงถามคำตอบจาก มทบ.11 แต่พวกเขากลับบ่ายเบี่ยง
ข้าพเจ้าไม่พอใจต่อการเพิกเฉยของรัฐบาล
เวลา
8.30 น.
ของวันที่ 24 มิถุนายน 2560 ข้าพเจ้าเดินทางไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า
ข้าพเจ้านำปูนซีเมนต์เพื่อนำหมุดคณะราษฎรเลียนแบบติดตั้งทับหมุดหน้าใส
ตำรวจกลุ่มหนึ่งจับกุมข้าพเจ้าก่อนการติดตั้งหมุดคณะราษฎรเลียนแบบนี้
ข้าพเจ้าถูกส่งตัวเข้าไปใน มทบ.11
อีกครั้ง ข้าพเจ้าอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยไม่สามารถติดต่อบุคคลภายนอก-ทนายความ
ระหว่างการสอบสวน
ตำรวจบางคนใช้ถ้อยคำข่มขู่ข้าพเจ้า
นอกจากนี้ตำรวจยังยึดหมุดคณะราษฎรเลียนแบบของข้าพเจ้าโดยปราศจากข้อหา
ครั้งที่
5 เมื่อวันที่
3 กรกฎาคม 2560
ข้าพเจ้าจัดให้มีการรณรงค์ให้มีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันชาติตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2560 ข้าพเจ้าโพสท์ในเฟสบุ๊คของข้าพเจ้าถึงกำหนดการยื่นหนังสือรณรงค์นี้ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00 น.
ข้าพเจ้าจัดให้มีการรณรงค์ให้มีการกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันชาติตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2560 ข้าพเจ้าโพสท์ในเฟสบุ๊คของข้าพเจ้าถึงกำหนดการยื่นหนังสือรณรงค์นี้ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เวลา 10.00 น.
เวลา
15.15 น.
ของวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ชาย 5
คนซึ่ง 1 ในนั้นสวมเครื่องแบบทหารเดินทางมาที่บ้านของข้าพเจ้า
โดยมีรถตู้ของสำนักงานเขตบางกะปิจอดอยู่ตรงข้ามหน้าบ้านของผม
พวกเขาอ้างต้องการรับหนังสือรณรงค์จากข้าพเจ้าเพื่อไปยื่นให้กับทำเนียบรัฐบาล
แต่ข้าพเจ้าปฏิเสธ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ไว้ใจพวกเขา
ข้าพเจ้าต้องการไปยื่นหนังสือรณรงค์นี้ด้วยตนเอง
ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560
ตำรวจจาก สน.ลาดพร้าว จอดรถดักรอที่ฝั่งตรงข้ามบ้านของข้าพเจ้าตั้งแต่เวลา 4.00 น. เมื่อข้าพเจ้าเดินออกจากบ้านของข้าพเจ้าเวลา 5.00 น. พวกเขาจับกุมข้าพเจ้าโดยไม่มีการแสดงตัวเป็นตำรวจ หรือแจ้งข้อหา
ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560
ตำรวจจาก สน.ลาดพร้าว จอดรถดักรอที่ฝั่งตรงข้ามบ้านของข้าพเจ้าตั้งแต่เวลา 4.00 น. เมื่อข้าพเจ้าเดินออกจากบ้านของข้าพเจ้าเวลา 5.00 น. พวกเขาจับกุมข้าพเจ้าโดยไม่มีการแสดงตัวเป็นตำรวจ หรือแจ้งข้อหา
พวกเขานำตัวข้าพเจ้าไปยัง
สน.ลาดพร้าว ก่อนที่จะพาตัวข้าพเจ้าไปยังสำนักงานเขตบางกะปิเวลา 6.00 น. พวกเขาไม่อนุญาตให้ข้าพเจ้าโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ใด
ทหารเดินทางมาพบกับข้าพเจ้าเวลา
8.00 น.
เขาพยายามโน้มน้าวข้าพเจ้าให้ยื่นหนังสือรณรงค์นี้ที่สำนักงานเขตบางกะปิแทน
แต่ข้าพเจ้าไม่ไว้เขา ข้าพเจ้าร้องขอการติดต่อทนายความ แต่เขาไม่อนุญาต
อย่างไรก็ตามทนายความของข้าพเจ้าทราบข่าวของข้าพเจ้าจึงเดินทางมาพบข้าพเจ้าที่สำนักงานเขตบางกะปิ
ข้าพเจ้าจึงได้ปรีกษากับทนายความ
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะตัดสินใจยื่นหนังสือรณรงค์นี้ที่สำนักงานเขตบางกะปิ
ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560
ข้าพเจ้าเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้สหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันคณะราษฎรที่สหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN)
ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560
ข้าพเจ้าเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้สหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 24 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันคณะราษฎรที่สหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN)
เวลา
10.00 น.
ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงประตูทางเข้า UN ตำรวจนอกเครื่องแบบ 10
คนยืนรอข้าพเจ้าที่ด้านหน้าประตูทางเข้านี้
การกระทำของพวกเขาทำให้ผมรู้สึกถึงการถูกคุกคาม
หลังจากที่ข้าพเจ้าเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องนี้ภายใน
UN ตำรวจเหล่านี้ยังคงยืนรอข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจึงรีบเดินทางกลับบ้านของข้าพเจ้าทันที
ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560
รถกระบะสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌฮ 6003 จอดอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามบ้านของข้าพเจ้าตั้งแต่เวลา 6.00 น. พวกเขาพยายามสอดแนมข้าพเจ้า
ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560
รถกระบะสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ฌฮ 6003 จอดอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามบ้านของข้าพเจ้าตั้งแต่เวลา 6.00 น. พวกเขาพยายามสอดแนมข้าพเจ้า
เวลา
9.00 น.
ข้าพเจ้าแจ้งถึงการทราบการสอดแนมของ คสช. ทางเฟสบุ๊คของข้าพเจ้า
แต่พวกเขายังคงเพิกเฉยต่อการถอนตัวออกจากการสอดแนม
ข้าพเจ้าจึงเดินเข้าไปทักทายพวกเขา พวกเขาจึงยอมถอนตัวในเวลา 11.00 น.
การกระทำทั้ง
8 ครั้งนี้เป็นการละเมิดสิทธิของข้าพเจ้า
การกระทำของข้าพเจ้าไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใด แต่พวกเขายังคงอ้าง ม.44 เพื่อคุกคาม, จับกุม
และสอมแนมข้าพเจ้าหลายครั้งโดยปราศจากข้อหา
ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้า
นาย เอกชัย หงส์กังวาน มีความประสงค์ขอร้องเรียนเรื่องการละเมิดสิทธิของ คสช.
ต่อข้าพเจ้าเพื่อให้
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดำเนินการระงับการคุกคามดังกล่าว
และรายงานการละเมิดสิทธินี้ไปยังสหประชาชาติต่อไป