เหมืองโปแตชบำเหน็จณรงค์จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อชี้แจงโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ที่เดิมเป็นเชื้อเพลิงถ่านหิน
แต่จะเปลี่ยนเป็นกะลาปาล์มหรือเชื้อเพลิงชีวมวลชนิดอื่น
ในวันที่
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐
เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.
ณ หอประชุมโรงเรียนบางอำพันธ์วิทยาคม ต.บ้านตาล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.
ณ หอประชุมโรงเรียนบางอำพันธ์วิทยาคม ต.บ้านตาล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
นอกจากจะเรียนเชิญสื่อมวลชนมาทำข่าวแล้ว
คงจะเรียนเชิญให้เป็นสักขีพยานด้วย
เนื่องจากล่าสุดได้รับรายงานว่าเหมืองโปแตชขอกำลังทหาร ๓ กองร้อย ตำรวจ ๔ กองร้อย
รวมทั้งชุดผสมพลเรือนและอาสาสมัครอีกเพียบ มาคุ้มกันเวทีนี้
จึงต้องขอเรียนเชิญสื่อมวลชนและสาธารณชนมาเป็นสักขีพยานว่า
การเอากำลังทหาร ตำรวจและ อส. เข้ามาจำนวนมากมายเช่นนี้
เอามาเพื่อจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นหรือจัดกำลังรบกับประชาชน ?
นี่ขนาดเวทียังไม่เกิดขึ้น
แต่ในหมู่บ้านก็วุ่นวายปั่นป่วนจากการที่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ในเขต ๓
ตำบลรัศมีรอบเหมือง คือ ตำบลหัวทะเล บ้านตาลและบ้านเพ็ชร เรียกประชุมลูกบ้านอย่างเปิดเผยเพื่อบอกกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวความผิดต่อกฎหมายใด
ๆ ว่า
“เวทีนี้มีเบี้ยประชุมสามร้อยบาทให้กับชาวบ้านทุกคน
แต่ให้ลงชื่อและลายเซ็นต์เอาไว้ก่อนประชุมตั้งแต่วันนี้ และขอให้นั่งจนหมดเวลาประมาณเที่ยงถึงจะได้เงิน”
ผู้นำบางหมู่บ้านก็ไม่กล้าทำอย่างเปิดเผย
แต่ใช้วิธีย่องเงียบเดินเข้าหาตามหลังคาเรือน
เพื่อขอรายชื่อและลายเซ็นต์ลูกบ้านเพื่อจะเอาไปอ้างสนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลสอดไส้ถ่านหิน
ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่คัดค้านโครงการนี้ต้องการความชัดเจนเพียงแค่คำตอบเดียวว่า
จะมีหลักประกันอะไรว่าเมื่อเปลี่ยนเป็นกะลาปาล์มแล้วจะไม่นำถ่านหินกลับมาใช้เป็นเชื้อเพลิงอีกต่อไป
?
ถ้าตอบได้
สามารถนำหลักประกันที่ไม่โกหกหลอกลวงมาชี้แจงแสดงให้เห็นต่อหน้าสาธารณชน
พี่น้องประชาชนก็จะเดินทางกลับบ้านด้วยความสงบเรียบร้อย
ขอแค่นี้ทำได้หรือเปล่า
?