วิจารณ์หนัก วิพากษ์เน้น ยิ่งลักษณ์ ‘คุกไม่คุก’
หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
จะปิดหีบคดีจำนำข้าว ปลายเดือนสิงหาคมนี้
แม้นว่า สมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) จะเปิดช่องไว้ให้
“ไม่ว่าผลคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร
ยังมีสิทธิอุทธรณ์คดีต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้”
อดีต ส.ส. อีสาน คนนี้ที่ออกมาก่อไฟว่า “พบสัญญานก่อจลาจล
วันพิพากษายิ่งลักษณ์” ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยอ้างว่าตนมีข้อมูลเรื่อง “การเคลื่อนไหวระดมมวลชนในพื้นที่ต่างจังหวัดภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และจังหวัดในเขตปริมณฑล ผ่านทางอดีตส.ส., แกนนำกลุ่มการเมืองในพื้นที่,
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.), และ
สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.)
ให้นำประชาชนเดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ จำนวน ๒ รอบ คือ
รอบวันที่ ๑ สิงหาคม ซึ่งศาลฎีกาฯ
นัดการแถลงปิดคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และรอบวันพิพากษาคดี วันที่ ๒๕ สิงหาคม
โดยในรอบสองนั้นมีข่าวระบุว่าจะระดมประชาชนให้เข้ากรุงเทพเพื่อชุมนุมบริเวณหน้าศาลในจำนวนหลักหมื่นคน”
สมชายยังกล่าวหา (โดยอ้างข้อมูลของหน่วยข่าวความมั่นคง)
ด้วยว่า “กรณีการระดมมวลชนมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคมที่ผ่านมา
ว่าเข้าข่ายการเกณฑ์ประชาชนให้ไปชุมนุม มีค่าตอบแทนเป็นเงินคนละ ๑,๕๐๐ บาท
มีจ้างรถโดยสารเพื่อใช้เดินทาง เบื้องต้นพบหลักฐานเป็นรายชื่อประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์,
รายชื่อแกนนำ
และรถโดยสารไม่ประจำทางที่ว่าจ้างมาจากจังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดอำนาจเจริญ”
เสียดายที่สมชายมิได้นำ ‘ข้อมูล’ ที่เป็นหลักฐานทางกายภาพในข้อกล่าวหาของตนมาแสดงพร้อมกันไปด้วย
เพิ่มความหนักแน่นให้เชื่อได้ ไม่เฉพาะแต่คำพูดออกจากปากนายสมชาย สนช.ที่
คสช.แต่งตั้ง อีกทั้งเขาเป็นแกนนำ กปปส. คู่กัดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์และเครือข่ายชินวัตร
หากไม่มีหลักฐานยืนยันแจ่มชัด ก็ง่ายที่จะโต้ว่าเป็นเพียงวาทกรรมปั้นแต่ง
กระนั้นก็ดี มีรายงานข่าวของ นสพ.บางกอกโพสต์ช่วยชี้ด้วยว่า
“ แหล่งข่าวจาก คสช. คาดหมายจะมีประชาชนจำนวนมาก (ออกมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์)
ในวันที่ ๒๕ สิงหา” จึงได้มีการเตรียมพร้อมกำลังทหารไว้รับมือ
มณฑลทหารบกทั้งสี่ภาคได้รับคำสั่งให้ลงไปพบกับบรรดาผู้นำท้องถิ่น
(กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) แจ้งให้บอกกับลูกบ้าน อย่าได้ออกมาชุมนุมกัน
นอกนั้นก็มีข้อคิดของ เอกชัย หงส์กังวาน บนหน้าเฟชบุ๊คเป็นข้อสังเกตุที่มีคนรับฟังกันอย่างกว้างขวางว่า
การจำคุกจตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อไม่กี่วันมานี้ “เป็นการปรามแกนนำคนอื่นว่า
อย่าคิดหือ” เหตุผลของเขาก็คือ “คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ต้องมีคนนำ
พอไม่มีคนนำก็ทำอะไรไม่เป็น”
ข้อวิจารณ์ที่น่าสนใจกว่านั้นของเขาอยู่ที่
ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาคดียิ่งลักษณ์พร้อมกับคดีของ บุญทรง เตริยาภิรมย์ และ ภูมิ
สาระผล “๒ คดีในวันเดียวกันเพื่อถ่วงเวลา...
ช่วงบ่ายจึงจะอ่านคำพิพากษาคดีของยิ่งลักษณ์ซึ่งต้องยาวนานเกินเวลา
๑๖.๐๐ น. แน่นอน...ศาลฎีกาจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลรีบกลับบ้านหลังเวลา ๑๖.๐๐ น. และปิดประตูห้องทำงานอย่างแน่นหนา”
เพื่อรับมือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง
“ปกติเจ้าหน้าที่เรือนจำจะได้รับแจ้งให้เตรียมห้องขังรอนักโทษสำคัญ
ดังนั้นวันพฤหัสบดีทัณฑสถานหญิงกลางน่าจะได้รับคำสั่งนี้”
นั่นหมายความว่า
มีการคาดการณ์ว่ายิ่งลักษณ์จะถูกพิพากษาให้มีความผิด
และถูกนำตัวไปทัณฑสถานหญิงทันทีในวันนั้น
อันพ้องกับแนวคิดของฝ่ายตรงข้ามยิ่งลักษณ์
โดยเฉพาะทีมผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งไปพูดไว้ที่โรงแรมมณเฑียร
เมื่อ ๒๒ สิงหาคม ว่า
การตัดสินในวันนั้น
“คงไม่กระทบต่อการสร้างความปรองดอง และไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงขึ้น”
และเรื่อยไปถึงเรื่องรากฐานของกระบวนการประชาธิปไตยว่ามีกระบวนการยุติธรรม ‘พยุง’
“จะเป็นเงื่อนไขที่นำมาต่อรองในการสร้างความปรองดองหรือไม่
คิดว่าคงไม่เกี่ยวกัน” นายอภิสิทธิ์ พูดด้วยข้อมูลที่บีบีซีไทยรวบรวมไว้หรือเปล่าไม่รู้
คดีของแกนนำ
นปช. ๕ คดี จำคุกไปแล้ว ๓ รอนัดสืบพยานอีก ๒ ส่วนของ กปปส. ๒ คดี อยู่ระหว่างนัดสืบพยานกับอุทธรณ์
แต่คดีของพันธมิตรฯ ๗ คดี อยู่ระหว่างรอพิจารณาบ้าง สืบพยานบ้าง อุทธรณ์บ้าง
รอฎีกาบ้าง เข้าไปแล้ว ๕ คดี เหลืออีกสองมีการตัดสินยกฟ้องหนึ่ง อีกคดี ‘ดาวกระจาย’ ยกฟ้อง
ศาลอ้างว่าเพราะฟ้องซ้ำ พวกที่ไม่ซ้ำถึงจะผิดก็ให้รอลงอาญา ดังนี้เป็นต้น
ทั้งที่ Thanapol
Eawsakul เตือนไว้ “อยากจะบอกพรรคประชาธิปัตย์ว่า ยิ่งลักษณ์ติดคุกก็ไม่ได้ทำให้คนเลือกประชาธิปัตย์มากขึ้น”
ก็เถอะ
แต่ก็รวมความว่ายิ่งลักษณ์ ‘โดนแน่’ จะให้ศาลยกฟ้องเหมือนคดีของฟากตรงข้ามอย่าหวัง
เพราะยิ่งลักษณ์อยู่ในฝั่งของพวกทุจริต ขณะที่อีกฝั่งถึงจะผิดบ้าง ถือว่าพลั้งเผลอ
ควรแก่การให้อภัยกัน กระบวนยุติธรรมไทยที่อภิสิทธิ์บอกว่าพยุงประชาธิปไตย
(อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) มี ‘จั่วหัว’ หรือ premises กันไว้อย่างนี้ ทำไงได้
แต่ว่าเธอจะติดคุกเลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อแม้ที่สมชาย
แสวงการ แนะไว้ข้างต้น จึงได้ทำ ‘ติ่งยิ่งลักษณ์’ (โน
โน ไม่ใช่ติ่ง มอลลี่-กา) ออกอาการอัดอั้นเป็นอย่างยิ่ง
จากโพสต์ของหม่อม Taona
Sonakul จวกพี่ชาย “ในขณะที่น้องสาวท่านที่ต้องลงการเมืองมาเพื่อช่วยเอาตัวท่านกลับประเทศไทย..น้องสาวท่านที่ต้องถูกรุมยำรุมกระทืบมาตลอดหกปีตั้งแต่วันที่ลงเลือกตั้ง
น้องสาวท่านที่ต้องเป็นคนรับตีนทุกตีนเมื่อท่านออกตัวเต็มที่ให้นิรโทษกรรมเหมาเข่ง..
และตอนนี้มีคุกสิบห้าปีมั้งจ่ออยู่ที่หัวกระบาลนายกปู...นายกทักษิณอาจจะเป็นคนที่ฉลาดเรื่องธุรกิจที่สุดในโลก
แต่ท่านเป็นคนที่ไร้วุฒิภาวะที่สุดที่เราเคยเห็นมาในชีวิตคะ”
ในยามอัดอั้น
อะไรมันก็ระเบิดออกมาได้ ทางที่ดีลองมาฟัง Pavin Chachavalpongpun วิจารณ์สักนิด “ขอคอนเฟริม์ว่า
ในจุดหนึ่ง ทางฝ่ายยิ่งลักษณ์เตรียมใจเรื่องติดคุกแล้ว คือติดก็ติด และพี่ชายก็ทำใจส่วนหนึ่งว่าถ้าต้องติด
ก็ปล่อยให้ติด (คือจริงๆ ถ้าไม่ปล่อยให้ติด ก็ทำอะไรไม่ได้ไปกว่านี้)
...ทางเลือกที่สองคือหนี
บอกเลยครับว่ายิ่งลักษณ์ไม่หนี เพราะคำนวณแล้ว หนีต้องหนีตลอดไปเหมือนพี่ชาย
ไม่มีโอกาสกลับ ไม่มีโอกาสต่อสู้แบบตรงๆ ธุรกิจและผลประโยชน์ในไทยยังมีอยู่มาก
คือถ้าติดคุกยังเรียกคะแนนทางการเมืองต่อได้ ยังเป็นพลังกัดกร่อน คสช. ต่อไป
...คสช ต้องการแบบไหน?
จริงๆ แล้ว คสช. อยากให้ยิ่งลักษณ์หนี จะได้ลงเอยเหมือนพี่ชาย
แต่มาจนบัดนี้คงรู้แล้วว่านั่นไม่ใช่ทางเลือกของยิ่งลักษณ์ เกมที่ต้องเดินต่อไปคือตัดสินอย่างไร
ถ้าไม่ติดคุก ไอ้ความชอบธรรมการทำรัฐประหารล้มรัฐบาลโกงก็หมดไป วาทกรรมนักการเมืองเลวก็อาจใช้ลำบากต่อไป
ดังนั้นการตัดสินจำคุกอาจเป็นทางเลือกที่ คสช. เห็นว่าเป็นประโยชน์
...ยิ่งลักษณ์ติดคุกแล้วจะเกิดอะไร?
ไม่มีเสื้อแดงออกมาประท้วงหรอกครับ อาจส่งเสียงบ้าง ส่วนใหญ่ก็ด่า
คสช. ผ่าน FB สักพักเรื่องก็เงียบหายไป
แม้ยิ่งลักษณ์ยังมีพลังอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่ใช่อองซานซูจี (ซูจีสมัยก่อนนะ
ไม่ใช่สมัยนี้) และมีเสื้อแดงหลายคนก้าวข้ามชินวัตรไปแล้ว”
อาจเป็นการวิเคราะห์ที่ไม่ได้บรรจงให้สละสลวยมากนัก
(เธอรีบจะไปคั่วข้าวโพดมั้ง) แต่ก็น่าจะตรงกับทางที่จะเป็นจริงมากที่สุด
สิ่งที่คนรักทักษิณ-ยิ่งลักษณ์จะทำได้ คงต้องรอตอนเธอติดคุกแล้ว
ถ้าการอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่เป็นผล (ตอนนั้นชีพ จุลมนต์
จะเป็นประธานเสียด้วย)
ตอนนี้เหลือแต่รอปาฏิหาริย์
สวรรค์ประทานเสด็จลงมาเป็นพยานให้การแก่จำเลย อย่างที่แว่วว่าหลายคนเริ่มสวดมนต์ภาวนากันแล้ว
พูดเป็นเล่นไป การเมืองไทยอะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ แม้แต่การปาฏิหาริย์