ที่มา พันทิป
พอดีพี่ได้อ่านข้อความของน้องเจ จากนี่ครับ
ทำให้พี่รับรู้ได้เลยว่า น้องเจเข้าใจพวกพี่ๆผิดไปมากเลยนะครับน้องเจ นั่นแสดงให้เห็นว่า ที่น้องเจแสดงความขัดแย้งที่ผ่านมา น้องเจไม่เคยรู้อะไรเลยใช่ไหมครับ นอกจากมองจากมุมมองตัวเองที่ตัวเองมีนาย ก็เลยคิดว่า พวกพี่ต่อสู้อยู่นี่ก็เพื่อนายเหมือนกับน้องเจ
น้องเจครับ พวกพี่ไม่รู้หรอกครับว่า นายของน้องเจคือใคร แล้วจะไม่เอานายของน้องเจได้อย่างไรกันครับ ส่วนพวกพี่ไม่ต้องการมีนายครับ ที่ต้องการคือความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันต่างหากครับน้อง ดังนั้นสิ่งที่พวกพี่ต้องการชนะ จึงไม่ใช่พวกน้องเจ หรือ นายของน้องเจหรอกนะครับ
และที่พวกพี่ต่อสู้มาตลอดนั้น ก็เพียงต้องการตัวแทนของพวกพี่มาทำหน้าที่แทนพวกพี่ในสภา นั่นหมายความว่า เมื่อพวกพี่ชนะกันตามกติกา และก็หมายความอีกว่า คนที่พวกพี่เลือกต้องทำตามสัญญาที่ให้กับพวกพี่ต่างหากครับ ไม่ใช่นายกับบ่าว ดังนั้นถ้าตัวแทนของพวกพี่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ทำตามกติกา หรือเข้ามาเพื่อฉ้อราษฎร์บังหลวง พวกพี่ก็พร้อมจะเปลี่ยนตัวแทนเข้ามาทำใหม่ เข้าใจไหมครับน้องเจ
แต่ถ้าคะแนนความต้องการของพวกพี่ ไม่สามารถชนะอีกฝ่าย ซึ่งจะเป็นนายของน้องเจหรือเปล่า นั่นไม่สำคัญหรอกครับ เพราะพวกพี่ก็พร้อมจะยอมรับและรอคอยจนกว่าจะเป็นโอกาสของพวกพี่อีกครั้ง เหมือนเมื่อก่อนนี้ไงครับ พวกพี่ไม่เคยคิดจะงอแง หาเรื่องมาทำลายกติกา เพียงเพื่อให้พวกที่ตนนิยมมารับตำแหน่ง จนกลายเป็นปัญหาที่สร้างความแตกแยกตลอดหลายปีที่ผ่านมา
น้องเจครับ น้องเจต้องเข้าใจนะครับ ประเทศนั้นมันเป็นสังคมขนาดใหญ่ ถ้าต้องการให้สังคมอยู่อย่างสงบสันติ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การสร้างกฎของการอยู่ร่วม นั่นคือ กติกา หรือ กฎหมายไงครับ และถ้าต้องการให้ทุกๆคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน นั่นคือ ต้องปฏิบัติตามกติกา ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทุกฝ่ายก็จะยอมรับโดยดุษฎี และจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
น้องเจลองตัดอคติออกสักนิด ลองไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แล้วหลับตาลง จากนั้นใช้แค่สามัญสำนึก แล้วน้องเจก็จะมองเห็นว่า ระหว่างการบังคับใช้กฎหมายกับคนสองฝ่ายนั้นมันเป็นอย่างไร ทัดเทียมกันจริงหรือเปล่า
น้องเจครับ ศักดิ์ศรีของน้องเจอาจจะสูงส่งกว่าพี่ในฐานะที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ที่หลายคนให้ความรักความเอ็นดูมาตลอดก็จริงอยู่ แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ระหว่างน้องกับพี่ มันควรมีเท่ากันไม่ใช่หรือ เพราะธรรมชาติก็สร้างความเท่าเทียมตั้งแต่ก่อนการปฏิสนธิแล้วล่ะครับ หนึ่งตัวเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชนะ และได้เกิดมาเป็นมนุษย์ไงครับน้องเจ แล้วจะมาลดศักดิ์ศรีกัน เพียงเพราะสังคมพาไปคงไม่ได้หรอกครับน้องเจ
ดังนั้นสิ่งที่พวกพี่เรียกร้อง จึงเป็นการเรียกร้องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์คืน เป็นการเรียกร้องความเท่าเทียมคืน เป็นการเรียกร้องสิทธิคืน เป็นการเรียกร้องความยุติธรรมคืน และยังเป็นการเรียกร้องความเสมอภาคคืนอีกด้วย สิ่งเหล่านี้น้องเจคิดว่าพวกพี่เรียกร้องมากเกินไปอย่างนั้นหรือครับ
อธิบายมาอย่างนี้ ไม่รู้ว่าน้องเจจะเข้าใจหรือเปล่า เอาเป็นว่า พวกพี่ต้องการที่จะเลือกทิศทางของพวกพี่เอง โดยอาศัยการโหวตตามกติกา ไม่ต้องการให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาเลือกแทน ต้องการใช้สิทธิที่มีอยู่เลือกตัวแทนที่อยากได้ ไม่ใช่เลือกนายอย่างที่น้องเจเข้าใจ และสิ่งเหล่านี้จะได้มา เราต้องได้อะไรก่อน ต้องปกครองด้วยระบอบไหน น้องเจพอจะรู้หรือเปล่าครับ
ถ้ายังไม่เข้าใจอีก พี่ก็ขออธิบายเปรียบเทียบแบบง่ายๆก็แล้วกันนะครับน้องเจ คือ สิ่งที่พวกพี่พยายามต่อสู้อยู่นั้น เป็นการสู้เพื่อปลดแอกอันหนักอึ้งให้ออกจากบ่าให้ได้ แต่สิ่งที่น้องเจสู้ กลับเป็นความพยายามที่จะรักษาปลอกคออันหอมกรุ่นให้คงอยู่ต่างหากเล่า นี่คือความแตกต่างไงครับน้องเจ
ดังนั้นพวกพี่ๆคงไม่ร่วมมือกับน้องเจไปรุมตบใครหรอกครับ แต่พวกพี่ๆจะขอใช้กติกาที่มีอยู่จัดการดีกว่าครับ เมื่อเลือกมาแล้วไม่ดี พวกพี่ๆก็ขอใช้สิทธิเลือกคนใหม่ทำหน้าที่แทน ส่วนคดีความต่างๆ ถ้ามีหลักฐานแน่ชัด ก็จัดการไปตามกระบวนการยุติธรรม ใช้กฎหมายจัดการกันไปอย่างเที่ยงธรรม
พวกพี่ๆเป็นพวกที่อาศัยอยู่กับความเป็นจริงมาตั้งแต่เกิด แม้บางครั้งอาจจะถูกภาพที่พวกเขาสร้างมาให้ดู จนบดบังสติปัญญาไปบ้างก็ตาม แต่เมื่อตาสว่าง พวกพี่ๆจึงพากันออกจากกะลา ลุกขึ้นมาสู้ ไม่ใช่สู้เพียงเพื่อตัวเองนะครับน้องเจ เป็นการสู้เพื่อลูกหลาน ไม่ลำพังแต่ของพวกพี่ๆ แต่รวมไปถึงลูกๆหลานๆของน้องเจด้วยนะครับ เพราะการมีปลอกคอนั้น วันนี้อาจหอมละมุน แต่วันหน้าถ้าเผื่อได้นายที่ไม่ดีล่ะครับ ลูกหลานน้องเจจะเป็นเช่นไร น้องเจเคยคิดถึงจุดนี้บ้างหรือเปล่าครับ
น้องเจครับ พี่คิดว่า มุมมองทางการเมืองของน้องเจยังคับแคบนะครับ จึงมองแค่ไม่พวกพี่ชนะ ก็จะเป็นพวกน้องชนะเท่านั้น ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เช่นนั้นเลยนะครับน้องเจ
พวกพี่ๆยังไม่เคยชนะ เพราะยังไม่เคยได้ในสิ่งที่อยากได้
ฝ่ายพวกน้องเจก็ไม่ยังไม่ชนะ เพราะระบอบทักษิณยังคงอยู่
ที่ชนะจึงเป็นเพียงพวกที่ได้อำนาจไปตามเป้าหมายเท่านั้น
ส่วนที่พ่ายแพ้ยับเยินกลับเป็นประเทศชาติอันเป็นที่รักของพวกเราต่างหากครับ
ดังนั้นน้องเจไม่ต้องไหว้ขอโทษพี่ และพี่ยิ่งไม่ต้องไหว้ขอโทษน้อง เพราะเราต่างแพ้ด้วยกันทั้งคู่
สำหรับเรื่องจับมือกัน สัญญาห้ามเช็คบิลนั้น ยิ่งไปกันใหญ่แล้วล่ะครับน้องเจ ถ้าน้องเจติดตามการเมืองมาตลอด จะพบว่า มีแต่พวกพี่ถูกกระทำก่อนเท่านั้น จึงมีการเอาคืนต่างหากครับ เพียงแต่คนส่วนใหญ่อยู่ข้างพวกพี่ ก็เลยมองเหมือนพวกพี่ทำมากครั้งกว่า ก็เท่านั้นเอง อย่างนี้แล้วพวกพี่ๆคงไม่จับมือกับน้องเจในเรื่องนี้หรอกครับ
แต่ถ้าน้องเจจะจับมือกับพี่ เพื่อร่วมมือช่วยกันให้ประเทศเดินหน้าภายใต้กติกาที่เป็นธรรม ภายใต้ทิศทางที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วม นั่นแหละครับ คนอื่นพี่ไม่รู้ แต่สำหรับพี่พร้อมเสมอครับที่จะจับมือกับน้องเจ ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ขอให้บอก.....จบป่ะ
...
เรื่องเกี่ยวข้อง...
เมื่อเจเจตรินถามมา อรรถชัย อนันตเมฆตอบไป
ที่มา พันทิป