วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 23, 2557

Borderline for borderless



ที่มา FB Supalak Ganjanakhundee

Borderline for borderless

กลุ่มอาเซียนมีความฝันที่เราอาจจะไม่ได้เห็นกันในเร็ววันนี้คือคือการละลายพรมแดนของรัฐชาติเหมือนในยุโรป เมื่อเช้านั่งรถไฟจากปารีสไปบรัสเซล ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง (non-stop) จริงๆแล้วรถไฟวิ่งข้ามประเทศ แต่ความรู้สึกเป็นแค่วิ่งระหว่างเมืองสองเมืองเท่านั้นเอง

ฝรั่งเศสกับเบลเยี่ยมก็ยังเป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยของตัวเองอยู่ แต่ไม่เห็นมีใครวุ่นวายอะไรกับเส้นพรมแดนหรือการข้ามแดนอะไรกันเลยสักนิดเดียว ทั้งๆที่จริงๆแล้วในยุโรปก็มีเส้นเขตแดน แต่หลายประเทศก็ปักปันเขตแดนไปอย่างนั้นเองพอให้รู้ว่าของใครอยู่ตรงไหน เสร็จแล้วก็ข้ามมันไปโดยไม่แยแสอะไรเลย

หวนมาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแถวบ้านเราเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีคนต้องตายไปหลายคนเพราะเรื่องเส้นเขตแดนที่จนป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน-- ทำไมต้องเป็นอย่างนั้นด้วย

อีกนานเท่าไหร่ จะได้นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯไปเวียงจันทน์โดยไม่ต้องลงจากรถไปตรวจเอกสารกันเสียที

ว่ากันตามตรงเส้นเขตแดนนี่ฝรั่งพาทำเมื่อก่อนเราก็ไม่สนใจมันหรอก แต่มาวันนี้พวกฝรั่งเลิกสนใจเรื่องพวกนี้แล้ว แต่เรายังบ้ากันอยู่
....

ความเห็นจากเวป...

SG พูดได้ดีครับ ในทางศศ กม.เขาเรียกการพัฒนาที่ไม่เท่ากันแบบนี้ว่า ระยะของการพัฒนาที่ต่างกัน

เยอรมันทะเลาะกับฝรั่งเศสมาถึงสองสงครามโลก พวกเขาทะเลาะกันเรื่องเขตแดน แย่งดินแดนกันเป็นสงครามร้อยปี สามสิบปี รบกันมาตายไปไม่รู้เท่าไหร 

เหมือนอังกฤษรณรงค์เพื่อปชต.มานับพันปี สก๊อตสู้กับอังกฤษช่วงชิงเอกราช จนเลิกรบแล้วหันมาลงประชามติกัน ก็คือ ใช้กำลังเข้าสู้กัน เจ็บป่วยล้มตายกันไปมากมาย วันนี้ คิดได้ก็หันมาใช้สันติวิธี พูดกันด้วยเสียงสวนใหญ่ 1 คน 1 เสียงเท่ากัน 

ผมอยากจะบอกว่า เรานั้นพัฒนาทีหลังมาก มากกว่าใคร ยิ่งไม่เคยเป็นเมืองขึ้น ยิ่งไร้เดียงสาทางการเมืองสุดๆ ถูกผู้ปกครองหลอกได้มากมาย และหลอกได้นาน นานกว่าเพื่อนด้วย เพราะประชา ชนขาดประสบการณ์การเมือง บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ เขาสู้กันมาเป็นร้อยปี ตายกันมาเท่าไหร่

วันนี้ เขาพูดถึงสันติวิธีแก้ปัญหา แล้วเราไม่เคยรบกัน เราดัดจริตหรือเปล่า ทีมาทำเป็นศิวิไลตอนนี้ ด้วยการพูดเรื่องสันติ แต่อีกฝ่ายหนึ่งมีอาวุธเต็มไปหมด มีนักรบเต็มไปหมด มีนายพลที่เก่งกล้าสามรถ นับพันมากกว่าชาติใดในโลก 

อีกไม่นาน เราจะมี ดร.มากสุดในโลก 

แต่วันนี้ หลายปีมานี้ เรามีนายพลมากสุดในโลก เขาใช้อาวุธเข้ายึดอำนาจ แล้วเราชุมนุมสองมือเปล่า ให้เขาเลือกยิงหัวเป็นร้อย โอ อย่างนี้ ศิวิไลหรือครับ ฉลาดหรือครับ เอาเนื้อไปชนลูกตะกั่ว นี่ ฉลาดกว่าใครในโลกหรือครับ คุณคิดดู เขาเก่งกฎหมาย ครองตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงกันมาหมด 

พอยึดอำนาจได้ เขาก็ตั้งพวกเขาเองเป็นสมาชิกสภาปฏิรูป เงินเดือนคนละแสนกว่า สิทธิพิเศษอีกเพียบ เขาบอกว่าเขาจะปฏิรูปประเทศ เขาพูดมาตลอดว่าที่ยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปประเทศนี้้ 

อ้าวพอได้เป็น บอกว่า ไม่ต้องแสดงทรัพย์สิน เพราะเป็นงานวิชาการ ขอโทษครับ การปฏิรูปเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น คนที่เข้าไปคิดไปทำเรื่องนี้ ก็ต้องคิดเรื่องผลประโยชน์ด้วย แหงๆ แล้วคุณคิดว่าทำไมเขากล้าทำเรื่องปัญญาอ่อนพวกนี้ได้ ทำไมเขากล้าทำได้ ทำไมเขาไม่กลัว 

ก็เขาจะกลัวทำไมละครับ พวกเขาถือปืนหมด แล้วเราอยากเป็นอารยะ จะสู้แบบสันติกับพวกถือปืน

โอ้ พระเจ้า.............นี่มันเป็นการบ้านของนักเรียนชัันไหนครับ นี่....เอ้า กินขนมดีกว่า

แต่... ขอโทษครับ การปฏิรูปเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น!!