โดย สมบัติ บุญงามอนงค์
นี่เป็นยุคของนักโฆษณาและการตลาดโดยแท้
ผมยอมรับว่าคนที่คิดได้ว่า ต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ มาเป็น กำนันสุเทพนั้น เป็นความคิดที่ฉลาดหลักแหลมมาก เพราะภาพลักษณ์ของคุณสุเทพแต่เดิมนั้นมีปัญหาค่อนข้างมาก การเกิดใหม่ในทางการเมือง จึงต้องอาศัยทั้งการประกาศลาออกจากการเป็นนักการเมือง การเรียกชื่อ และการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ เช่น สร้างเรื่องบรรพบุรุษของตระกูลเทือกสุบรรณว่าเคยเป็นทหารเสือพระเจ้าตากมาก่อน
แน่นอนว่าวรรณกรรมเหล่านี้ถูกสร้างผ่านระบบคิดของนักการตลาดมือาชีพ และการใช้สื่อเต็มรูป แบบ จนมีผู้กล่าวว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ กับ กำนันสุเทพเป็นคนละคนกัน จนมีผู้เปรียบสุเทพเป็นองคุลีมาล
เมื่อกระแสตก ยุคสมัยเปลี่ยนไป สุเทพกลับมาอีกครั้งในนามของ พระสุเทพ ปภากโร โดยขึ้นปกนิตยสาร LIPS ทุกวันนี้ที่วัดจะต้องมีการ์ดคุมเชิงรักษาความปลอดภัยให้พระสุเทพนับสิบคน และยังคงดำเนินกิจกรรมกึ่งการเมืองกึ่งศาสนาอยู่เป็นนิจ
ในทางการเมือง การบวชเป็นพระเป็นการลี้ภัยการเมืองประเภทหนึ่ง แต่นักการตลาดมืออาชีพย่อมมองเห็นวิกฤติเป็นโอกาส เพื่อไม่ให้"เสียของ" จึงโหนผ้าเหลืองหลังจากโหนธงชาติมาแล้ว สร้างพระสุเทพให้ใกล้ชิดพุทธทาสโดยการบวชที่สวนโมกข์ และภาพชุดของ LIPS จะโหนไปถึงพระพุทธเจ้าด้วยหรือเปล่า คิดกันเอาเอง
สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ต่อให้การตลาดดีเท่าใด วันหนึ่งมันจะไปไม่รอดอยู่ดี
ooo
คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ
อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาฬ
เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง
ooo
...อุปสมบทหมู่/อุทิศส่วนกุศล...29-31 ต.ค.นี้ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) จัดพิธีเพื่อรำลึก 1 ปีแห่งการร่วมต่อสู้ (จนชาติบ้านเมืองฉิบหาย/ทหารสานต่อรัฐประหารยึดอำนาจ) โดยอ้าง...กิจกรรมสงฆ์ล้วนๆ ไม่เกี่ยวการเมือง...
หมายเหตุ ::..."พุทธทาสร่ำไห้"...
