ขณะนี้เป็นเวลาที่ไม่เหมาะกับการปฏิรูป!

โดย จอน อึ๊งภากรณ์

เพราะ“การปฎิรูป"ใดๆที่เกิดขึ้นจะเป็นวาระของคนไม่กี่กลุ่มที่ทหารพร้อมรับฟังซึ่งโดยหลักจะเป็นหน่วยราชการและองค์กรของรัฐที่มีข้อขัดแย้งกับภาคประชาสังคมเช่นผู้มีอำนาจในกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการรื้อถอนระบบหลักประกันสุขภาพ หรือกกต.ที่มีข้อเสนอแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งที่เหลือเชื่อ


อีกกลุ่มที่มีแนวโน้มที่ทหารจะฟังคือพวกที่มาขัดขวางการเลือกตั้งที่เรียกร้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

ทหารคงไม่สนใจฟังข้อเสนอการปฏิรูปจากกลุ่มผู้ที่ถูกเรียกมารายงานตัวและที่บางส่วนถูกดำเนินคดีต่ออาทิเช่นคุณุจตุรนต ์ฉายแสง อาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ หรือคุณสมบัติ บุญงามอนงค์ ซึ่งน่าจะเป็นตัวแทนแนวคิดการปฏิรููปของประชาชนจำนวนนับล้านที่จะไม่ได้มีโอกาสขึ้นเวที“ปฏิรูป"

การเสนอให้ปฏิรูปมาตรา112 พรบ.คอมพิวเตอร์ ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือให้สมาชืกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง100% ทหารคงไม่อยากได้ยิน

ตกลงการปฏิรูปในช่วงนี้ย่อมเกิดจากข้อเสนอของตัวแทนความคิดของประชาชนเพียงส่วนเดียวและการตัดสินใจย่อมยุติที่ทหารซึ่งไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะเป็นกรรมการตัดสิน

ผมจึงเสนอว่าช่วงนี้ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นช่วงของการปฏิรูปหรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฏหมายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

สมควรรอให้มีการเลือกตั้งคราวหน้าก่อนแล้วผลักดันการจัดตั้งรัฐบาลผสมทุกพรรคการเมืองเพื่อบริหารการปฏิรูปตามวาระที่ประชาชนกลุ่มและค่ายต่างๆเจรจาต่อรองกันจนได้ข้อยุติเป็นวาระที่ทุกฝ่ายพอรับได้ แล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่ตามนั้น แก้ไขกฎหมายสำคัญแล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตามรัฐธรรมนูญใหม่

นี่คือลักษณะการปฏิรูปที่ควรจะเป็น การปฏิรูปโดยประชาชนทุกฝ่ายร่วมกัน ภายใต้รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

ตอนนี้จึงยังไ่ม่ใช่เวลาที่จะปฏิรูป!