วันอังคาร, กรกฎาคม 15, 2557

ประกาศ ขบวนการไทยเสรี (ฉบับที่ 1) วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2557

ที่มา Khonthaiuk

ประกาศ

ขบวนการไทยเสรี (ฉบับที่ 1)

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2557

เรื่อง การจัดตั้งศูนย์อำนวยการขบวนการไทยเสรี

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 โดยได้อ้างว่าเพื่อรักษาความสงบภายในประเทศและฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย แต่ในความเป็นจริงนั้น มิได้กระทำการยึดอำนาจการปกครองเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามที่กล่าวอ้าง

คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้กระทำการต่างๆที่เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ ได้กระทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดินโดยการประกาศให้ยุติการใช้รัฐธรรมนูญเป็นเหตุทำให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ทั่วโลกให้การยอมรับต้องเป็นอันสิ้นสุดลง เป็นผลทำให้หลักการในการถ่วงดุลทางอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย ที่ให้มีอำนาจ 3 ฝ่าย คือ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ ซึ่งเป็นหลักการในการถ่วงดุลทางอำนาจระหว่างกันต้องเป็นอันสิ้นสุดลงไปด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวของคณะ คสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพวกนั้นเป็นการกระทำซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ที่บัญญัติว่า

ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ

1. ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ

2. ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วมิได้ หรือ

3. แบ่งแยกราชอาณาจักร หรือยึดอำนาจการปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร

ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

อีกทั้งการยึดอำนาจ ทำรัฐประหารในครั้งนี้ คณะกบฏได้กระทำการลุแก่อำนาจ คุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ได้มีการประกาศออกคำสั่งเรียกตัวนักการเมือง และประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้เข้าไปรายงานตัวและได้ทำการจับกุม ควบคุม คุมขัง มิให้ได้รับอิสรภาพโดยปราศจากข้อกล่าวหา และบางรายหลังจากที่มีการควบคุม ตัวครบ 7 วันแล้ว ยังได้มีการยัดเยียดข้อกล่าวหา และถูกนำตัวขึ้นศาลทหารที่ใช้การพิจารณาตัดสินเพียงศาลเดียวตามการประกาศกฎอัยการศึก โดยไม่มีโอกาสที่จะอุทธรณ์ ฎีกา และไม่มีการสืบพยาน ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติ ซึ่งการประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกของคณะกบฏ คสช. ถือว่าไม่มีความชอบธรรมในการประกาศบังคับใช้เนื่องจากประเทศไม่ได้อยู่ในสภาวะของการจราจล หรือเกิดศึกสงคราม และการใช้ศาลทหารตัดสินคดีของพลเรือนนั้นก็มิได้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ที่ประเทศไทยได้ลงนามให้สัตยาบรรณต่อองค์การสหประชาชาติ และมิได้เป็นไปตามปฏิญญาความร่วมมือว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนสากล

อีกประการหนึ่ง การยึดอำนาจทำรัฐประหารของคณะกบฏ คสช.ในครั้งนี้ ได้ทำให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยได้สิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง เป็นผลทำให้มิตรประเทศสมาชิกหลายๆประเทศ ได้ร่วมกันคัดค้านและประณาม โดยมีมาตรการในการตอบโต้การกระทำที่ลุแก่อำนาจของคณะกบฏ คสช. ไม่ว่าจะเป็น การยุติการให้การช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารในบางเรื่อง และการไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นผลทำให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงทำให้ประเทศชาติและประชาชนขาดโอกาส อีกทั้งยังเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างประเมินค่ามิได้ ซึ่งประเทศไทยได้ยึดหลักการในการปกครอง คือ ระบอบประชาธิปไตย ที่ได้ให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย มีสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ซึ่งการยึดอำนาจของคณะกบฏ คสช.ในครั้งนี้มิใช่เป็นเพียงแค่การยึดอำนาจของนักการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่แท้ที่จริงแล้วนั้นการยึดอำนาจทำรัฐประหาร ก่อการกบฏของคณะ คสช. เป็นการยึดอำนาจอธิปไตยของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะนักการเมืองเป็นเพียงแค่ตัวแทนของประชาชนที่ประชาชนได้มอบอำนาจให้เข้าไปบริหารผ่านการออกเสียงประชามติด้วยวิธีการเลือกตั้ง

ดังนั้นพวกเราประชาชนที่ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับอำนาจของคณะกบฏ คสช. จึงได้ออกแถลงการณ์ให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้ตระหนักและทราบว่า สถานะของคณะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพวก ที่ก่อการยึดอำนาจทำรัฐประหาร เป็นเพียงแค่ คณะกบฏ ซี่งถือว่าเป็นอาชญากรที่จะต้องถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดี ในข้อหา “เป็นกบฏ”ตามประมวลกฎมายอาญามาตรา 113 ใน (1) (2) (3) คำสั่งหรือประกาศใดๆที่ออกโดยคณะกบฏ คสช. จึงถือว่าเป็นโมฆะไม่มีผลใดๆที่จะนำมาบังคับใช้กับประชาชน

พวกเราขบวนการไทยเสรี จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศผู้ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ผู้ซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรงจากการเข้ายึดอำนาจโดยกองกำลังทหารครั้งนี้ ได้เข้าเป็นแนวร่วมขบวนการไทยเสรี โดยมีภารกิจร่วมกันในการคัดค้านและ ต่อต้านการยึดอำนาจทำรัฐประหารของคณะกบฏ คสช. โดยยึดหลัก 3 ไม่ คือ ไม่ยอมรับ ไม่ยินยอม ไม่ร่วมมือ โดยการแสดงออกต่างๆ โดยทางศูนย์ปฏิบัติการขบวนการไทยเสรี จะทำหน้าที่ต่างๆในการประสานงานความร่วมมือระหว่างแนวร่วมประชาชนที่เข้าร่วมเป็นขบวนการไทยเสรีทั้งในประเทศและต่างประเทศ และทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง โดยมีสถานีวิทยุออนไลน์ไทยเสรี เวปไซด์ เวปเพจ แนวรบไซด์เบอร์ และอื่นๆ เป็นเครื่องมือในการแจ้งข้อมูลและข่าวสารไปยังประชาชน

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

( ศูนย์ปฏิบัติการขบวนการไทยเสรี )