เอ๊ะยังไง พอเสร็จสงกรานต์ ‘ของขึ้น’ กันใหญ่ ฟังจากปาก ‘พี่ยุทธ’ กับ ‘น้องไบร๊ท์’ เช้านี้เอง เรียงหน้ากันมาขึ้นราคา ตั้งแต่น้ำมันเชื้อเพลิงทุกประเภท ไปถึงสินค้าบริโภค หมู-ไข่-ผักชี แต่บางอย่างบางอาชีพอยากให้ขึ้น ก็ขึ้นไม่ถึงใจ
น้ำมันนั้นขึ้นหน่วยละ ๔๐ สตางค์ทุกอย่าง สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ตั้งข้อสังเกตุ เพิ่งเสนอข่าวน้ำมันในต่างประเทศตามแห่ลดราคากันหลัดๆ ไหงน้ำมันในไทยยังไม่ยอมลงกับเขาบ้าง ครั้นพอถึงเรื่องหมู สมาคมผู้เลี้ยงประกาศเมื่อคืน
หมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ปรับราคาขึ้นอีก ๔ บาท นี่เป็นครั้งที่สามไม่ยอมทิ้งระยะห่าง เท่ากับราคาหมูหน้าฟาร์มตั้งแต่ต้นปีมานี่ขึ้นราคาไปแล้ว ๑๒ บาท แต่ก็ยังไม่คุ้มต้นทุนของผู้เลี้ยงสุกร เกษตรกรขอให้ได้ถึงกิโลละ ๘๐ บาท แต่นี่สูงสุดที่ภาคเหนือแค่ ๗๕ บาท
ฉะนั้นผู้ประกอบการส่งสัญญานราคาเนื้อหมู “มีแนวโน้มปรับขึ้นอีก” น้องไบร๊ท์แฉ “ตอนนี้อากาศร้อน บวกกับภัยแล้งด้วย หมูเครียดง่าย กินอาหารน้อยลง หมูโตช้า หมูอ่อนแอ ติดเชื้อโรคได้ง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ” ว้าว มาเป็นชุด “ครบเลย”
ส่วนราคาไข่ (คละหน้าฟาร์ม) ขึ้นฟองละ ๒๐ สตางค์ จาก ๓.๔๐ บาท เป็น ๓.๖๐ บาท อธิบดีกรมการค้าภายในแจ้งสาเหตุที่ต้องปรับราคาไข่สดขึ้น เป็นเพราะอากาศร้อนด้วยเหมือนกัน “ทำให้แม่ไก่กินอาหารน้อยลง สารอาหารไม่เพียงพอ”
ออกไข่มาใบเล็กลง ขายได้ถูกไม่คุ้มต้นทุน ขณะที่ไข่ใบใหญ่มีจำนวนน้อยลง แม่ไก่เครียดจากอากาศร้อน ถึงอย่างนั้นกรมการค้าภายในบอกว่าราคาไข่ตอนนี้ยังถูกกว่าเมื่อต้นปีนะ ตอนนั้นราคาไข่ฟองละ ๔ บาทแน่ะ เท่ากับว่าถูกลง ๔๐ สตางค์
พอมาถึงผัก ไม่พ้นอากาศร้อนอบอ้าวแห้งแล้งเป็นผลให้ราคาขึ้นทั่วแผง เพิ่มตั้งแต่ ๕ บาท ๑๐ บาท ถึง ๒๐ บาท ที่ขึ้นมากผิดไปจากเพื่อนนี่เป็น ‘ผักชี’ เพิ่มขึ้นมากิโลละ ๗๐-๘๐ บาท จากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ราคา ๑๓๐-๑๔๐ บาท วันนี้ ๒๐๐-๒๒๐ บาท เฮ้อ