วันศุกร์, เมษายน 26, 2567

งบฯ ปี ๖๘ ใช้วิธีพิเศษให้ผ่านเกณฑ์วินัยการคลังพอดี คือเอา ‘การแจกเงิน’ มาใช้เป็น ‘การลงทุน’ ไง

ว่าไงนะ ศิริกัญญา ตันสกุล บอก งบประมาณ ปี ๖๘ ของรัฐบาลเศรษฐา “กำลังจะโดนรื้ออีกรอบ” เธอเลยมารีวิวฉบับที่เพิ่งผ่านมติ ครม.เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไว้เสียก่อน ให้ได้เห็นที่มาที่ไปกันจะจะ

วงเงินงบฯ ปี ๖๘ เพิ่มมากกว่าปี ๖๗ นี้ ๙ เปอร์เซ็นต์ เป็น ๓,๗๕๒,๐๐๐ ล้านบาท ขณะที่รายได้ของรัฐบาลจะเพิ่มเพียง ๓.๖% จึงไม่พอเอาไปโปะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ๑.๕แสนล้านบาท ต้องกู้มาชดเชยการขาดดุลอีก ๘๖๕,๗๐๐ ล้านบาท

เกือบเต็มกรอบห้ามผลีผลาม “เหลือพื้นที่ให้กู้เพิ่ม (หากเกิดเหตุฉุกเฉิดต้องอุดป้องปะ) อีกแค่ ๕,๐๐๐ ล้านบาท” ส่วนโครงการ เป๋าตังค์ดิจิทัลตั้งชื่อให้เป็นราชการว่า “ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ”

น่าแปลก ที่ถ้าจะเรียกวิธีการอย่างนี้ว่า เปลี่ยนหมวก หรือ สลับขาเต้นจากหัวไปตีนหรือกลับกันได้ทั้งนั้น ด้วยการเอาไปยัดไว้ที่งบกลาง ที่จะเห็นตัวเลขเพิ่ม ๓๐% แต่ คุณไหมเธอชมที่เขา “ยอมตั้งงบบำนาญ และงบรักษาพยาบาล

ให้สะท้อนค่าใช้จ่ายที่เกิดจริงมากขึ้น” เช่นกันกับงบใช้หนี้สาธารณะอยู่ในกรอบ ๑๖.๕ % โดยใช้คืนเงินต้น ๑.๕ แสนล้าน เพิ่ม ๓ หมื่นล้าน ชำระดอกเบี้ยเพิ่มอีกแสนล้านเป็น ๓.๒๕ แสนล้าน มิหนำซ้ำงบท้องถิ่นเพิ่ม ๑๐% คงสัดส่วนรายได้ท้องถิ่นกับรัฐบาลที่ ๒๙%

แม้นว่า “งบกระทรวงมหาดไทยลดลง ๕.๖ หมื่นล้าน” ศิริกัญญาบอก “ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เพียงแค่เอางบเทศบาลตำบลย้ายจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ไปอยู่หมวดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น” ทำให้หมวดนี้ได้งบเพิ่ม วิน วิน

นอกนั้น “รายจ่ายลงทุนมีสัดส่วนสูงสุดในรอบหลายปี อยู่ที่ ๒๔% ของงบฯ จากปกติจะอยู่ราว ๒๐% เท่านั้น” อันทำให้ “สัดส่วนรายจ่ายลงทุนผ่านตามกฎหมายวินัยการเงินการคลังพอดี” ตามที่กฎหมายกำหนด ๒๓%

คุณไหมไปถามสำนักงบประมาณ ว่าทำได้ไงในเมื่อ “กฎหมายกำหนดไว้ว่า รายจ่ายลงทุนต้องไม่น้อยกว่ายอดการกู้เพื่อชดเชยขาดดุล” สำนักตอบว่าอ๋อ ก็ “นับรวมงบดิจิทัลวอลเล็ตบางส่วนเป็นรายจ่ายลงทุนด้วย” สิ มันก็จะลงตัวตามวินัยพอดี

จึงมีวลีเด็ดวันนี้ เรื่องการคลัง “การแจกเงินคือการลงทุน” (cr. @KTaesuwan)

หมายเหตุ :ภาพปกไม่ตรงเนื้อในทั้งหมดนะ ฉกมาจากรายการ ทัวร์มาลง

(https://twitter.com/SirikanyaTansa1/status/1783485783195914283)