วันอังคาร, เมษายน 30, 2567

ไอ้การที่เรา รัฐ รัฐบาล เรา-ผู้บริโภค พลเมืองทั้งหลาย ปล่อยให้บรรษัทขนาดยักษ์อย่างซีพีเป็นต้นเนี่ย ผูกขาดชีวิต อาหารการกิน จนเรารู้สึกสิ้นคิด สิ้นหนทางจะไปหาทางเลือกให้ตนเอง นี่มันเป็นความผิดปกติอย่างยิ่ง


Kingkorn Narintarakul
16h 
·
มีเหตุการณ์ให้นึกตั้งคำถามตัวเองทั้งในฐานะคนชอบกินดี อยากกินให้ได้ดี และในฐานะแคมเปนเน่อกินเปลี่ยนโลก ว่าไอ้การเลือกกินจากผู้ผลิตเกษตรกรรายย่อยที่ตั้งใจผลิตอาหารคุณภาพ ปลอดภัย เลือกสนับสนุนผู้ประกอบการที่ตั้งใจผลิตตั้งใจขายผลิตภัณฑ์รับผิดชอบคนซื้อคนกิน (นี่เขียนไปก็เห็นหน้าคนไม่น้อยนะ) เลือกกินจากการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมี ไม่ทำร้ายทำลายสิ่งแวดล้อมและผู้คน
มันกลายเป็นพริวิลลิชไปยังไง แล้วมันพริวิลลิชจริงหรือเปล่า
ไอ้การที่เรา รัฐ รัฐบาล เรา ผู้บริโภค พลเมืองทั้งหลายอันประกอบเป็นสังคมไทย ปล่อยให้บรรษัทขนาดยักษ์อย่างซีพีเป็นต้นเนี่ย ผูกขาดชีวิต อาหารการกิน จนเรารู้สึกสิ้นคิด สิ้นหนทางจะไปหาทางเลือกให้ตนเอง นี่มันเป็นความผิดปกติอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันหาทางเปลี่ยนแปลงในทุกระดับทั้งปัจเจก ชุมชน โครงสร้างสังคม และรัฐ ไม่ใช่ไปกดให้คนจำนนกับการปิดล้อมของบรรษัท ที่ทำการผลิตแบบล้างผลาญทรัพยากร ผลักต้นทุนสังคม สิ่งแวดล้อม มาให้เราทุกคน เราจ่ายแพงไปแบบไม่ได้ตั้งตัวกันเท่าไร
เราได้เปลี่ยนแปลงระบบเกษตรและอาหารไปจนถึงจุดคนรายได้น้อย และคนทั่วไปจำนวนมากต้องพึ่งพาอาหารด้อยคุณภาพ ไม่ปลอดภัย ราคาถูก เฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ แต่เอาเข้าจริง ถ้าไปส่องตลาดสด รถเร่ ก็ยังมีข้าวของหลากหลายให้เลือกสรร ยิ่งถ้าไปเดินตลาดต่างจังหวัด หรือแม้กระทั่งชานเมืองกทม. เรายังพอหาผักหญ้าปลูกกินเก็บหาตามฤดูกาลมากินได้ คนที่ยังทำเกษตร ยังใช้ที่ดิน และแบ่งกำลังมาผลิตมาเก็บหาของกินเองก็ยังมีไก่ มีปลาธรรมชาติไว้กินเอง แบ่งญาติพี่น้อง หรือมาขายในตลาดใกล้บ้าน
นี่คือความปกติที่มันควรจะเป็น ควรรักษา ควรรื้อฟื้น
เราว่าที่เราเปลี่ยนไปอย่างสำคัญคือ คือ ความรู้ ความรู้เรื่องการเลือก การกิน การหากินตามฤดูกาล การกินหลากหลาย รู้ว่าอะไรกินได้ กินดี กินเมื่อไรนี่มันหายไปเกือบหมด
แต่ยังไม่สายเกินไปนะคับ เรายังรื้อฟื้นความรู้เหล่านี้กลับมาได้ ด้วยสำนึกที่ต้องไม่จำนน เชื่อว่ายังมีทางเลือก ทางออกจากวงล้อมของบรรษัทที่ทำลายทางเลือก ทำลายอาชีพคนเล็กคนน้อยไปทุกวัน แล้วยังมีน้ำหน้ามาบอกเราว่าเขาเป็นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่
กินเปลี่ยนโลก เชื่อในปฏิบัติการของคนเล็กคนน้อย เราเรียนรู้ เราเลือก เราร่วมกับเกษตรกรรายย่อย ผู้ผลิตผู้ประกอบการรายย่อย สร้างทางเลือกการกินที่ดีต่อคนปลูก คนขาย คนกิน ดีต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ รักษาโลกให้ยังเป็นที่อยู่ของมนุษย์ได้
และเราก็คิดด้วยว่า เราต้องเปลี่ยนที่โครงสร้าง เปลี่ยนที่รัฐ ที่สังคมด้วย คนจำนวนมากจะต้องช่วยกันผลักกันดัน ให้รัฐส่งเสริมอะไรก็ตามที่มันเอื้อต่อการเปลี่ยนการผลิต อย่างมีคุณภาพของเกษตรกรรายย่อย สร้างระบบอาหารที่รวมถึงการผลิต การกระจาย การบริโภค ด้วยความรู้ เกิดความเป็นธรรมต่อทุกคน ทั้งนี้การเพิ่มสัดส่วนผู้ผลิตรายย่อย ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจถึงอาหารที่ดี นอกจากจะไม่ใช่เรื่องของผู้มีอันจะกินเท่านั้น แต่มันจะช่วยสร้างแรงทางสังคมให้การมีอยู่ของอาหารที่กินแล้วไม่ป่วยไวตายด่วนโลกละลายมีเพิ่มมากขึ้น เกิดประหยัดต่อขนาด และเข้าถึงโดยคนวงกว้างขึ้น เรื่องนี้คุยได้ยาวคับ ค่อยมาคุยกันต่อ
เราต้องเอาความปกติของการกินกลับคืนมาในที่สุดคับ
ปล.ภาพปลากอบเกี่ยวตรงที่เจ้าฮะอยากกินแกงเทโพปลาสลาดเค็มน้อย

(https://www.facebook.com/photo/?fbid=10161761230529579&set=a.424017099578)