เอ้า ‘เศรษฐา’ ไม่ควบคลังแล้วแบ๊งค์ชาติยังคอแข็งอยู่อีกหรือ เมื่อวาน (๒๙ เมษา) ‘เศรษฐพุฒิ’ (สุทธิวาทนฤพุฒิ) ยืนกราน “แรงกดดันทางการเมือง จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจ” นี่ขนาดอัดฉีดเพื่อไทยเข้าไปใน ธปท.ด้วยรัฐมนตรีตั้งสี่คนแล้วนะ
‘คุณไหม’ (อีกแล้ว) บอกว่ากระทรวงคลังมีแค่ ๘ กรม ใช้รัฐมนตรีสี่คน ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ ‘สรยุทธ’ ย้อนว่า อ้ะ ก็เขาให้ความสำคัญมากไง “ใช่ค่ะ” ศิริกัญญา ตันสกุล บอกต้องรอดูว่าเขาจัดแบ่งงานกันอย่างไร และพิมพ์เขียวงานเป็นเช่นใดก่อน
ขณะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์โทรทัศน์นอก รายการ Street Signs Asia ของ CNBC ที่ ThaiPublica เอามาผายเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ก็จะยังจะตัดสินใจ “อย่างเป็นอิสระ” ต่อไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้ปรับลด
“ผมคิดว่ากรอบธรรมาภิบาล (governance framework) นั้นค่อนข้างชัดเจน…การตัดสินใจที่เกิดขึ้นบ่งชี้ว่าอยู่บนพื้นฐานของ (สิ่งที่เรา) รู้สึกว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับเศรษฐกิจ” ฉะนี้แม้เดือนเมษายนนี้เอง แบ๊งค์ชาติก็ยังนิ่งไม่เต้นตามนายกฯ
ในรายการกรรมกรข่าว คุณไหมถูกถามว่ายังจะเห็นด้วยหรือกับจุดยืนของ ธปท. ศิริกัญญาอธิบายว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายจะมีผลกระทบกว้าง ต้องดูส่วนอื่นๆ ให้ถ้วนทั่วด้วย ถ้าอ้างว่าต้องทำเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ตอนนี้ก็เห็นว่าเริ่มทำ
ที่ไปคุยกับสมาคมธนาคารไทย แล้วเขาลดอัตราลง ๐.๒๕ ก็ได้แล้ว “โดยไม่ต้องไปลดดอกเบี้ยนโยบาย” เพราะถ้าธนาคารชาติจะลดอย่างที่ถูกกดดัน ก็ลดได้สลึงเดียวเช่นกัน จะไม่ช่วยอะไรเท่าไร แต่ผลกระทบรอบด้านน่าห่วงมากกว่า
“เห็นด้วยกับผู้ว่าฯ ตรงที่ว่าลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งหนึ่งเนี่ย มันมี side effects (ผลกระทบ) เยอะ ให้มองด้วย ไหนจะเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินที่จะต้องเปลี่ยนแปลง...ซึ่งมันมีผลกระทบ อาจจะทำให้มีการกู้เพิ่มหนี้ครัวเรือนขึ้นมาอีก”
“ในความเป็นจริง (ที่ธนาคารลดได้เพราะ) ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินไปในหลาย segments (ภาคส่วน) อยู่ แต่ไม่มีใครเข้าไปกำกับดูแล อันนี้ถ้าจะด่าแบ๊งค์ชาติต้องด่าเรื่องนี้” แต่รัฐบาลก็ไม่ได้คิดถึง “ถ้าจะบี้ (แบ๊งค์ชาติ) ก็ควรจะกำกับในเรื่องนี้”
(https://www.youtube.com/watch?v=mlRiHTehldg และ https://thaipublica.org/.../thai-central-bank-governor.../)