เพจ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ใหม่เรื่องสารวัตรซัวกับมูลนิธิเป็นต่อ ว่าสารวัตรชักใยอยู่นอกประเทศ (สิงคโปร์กับเจแปน) ส่วนมูลนิธินั่นของเก๊ ไม่ได้จดทะเบียน ทำธุรกรรมที่เห็นได้ “บริจาคออกอย่างเดียว” ธนบัตรขาวใส ส่วนขาเข้ามองไม่เห็นเพราะเป็นสีเทา
“ต้องขออนุญาตไว้ตรงนี้ว่า อย่าได้โทษผม” เขาว่า “บ้านเมืองมีกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่รัฐรับผิดชอบ แต่ดันเป็นความผิดของผมที่เอาความจริงมาพูด...พูดแล้วยังทำเป็นปากแข็ง แต่ไม่นานก็หลุดลอกเห็นเนื้อแท้” อย่างเช่น มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป
“ฟอกขาว สร้างตัวตน ทำทีเป็นคนดีบริจาคให้เด็กยากจนตามต่างจังหวัด แต่เป็นได้แค่ประเภท มือถือสาก ปากถือศีล...พนมมือ เล่นไพ่ ปล้นเงินเด็กเป็นล้าน แต่บริจาคหลักร้อย” ชูวิทย์บอกด้วยว่า “มหาดไทยตรวจสอบ พบไม่มีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิ
ส่วนสารวัตรฯ เจ้าของนั้นรับราชการแบบไหน ไปกบดานบริหารเงินอยู่ต่างประเทศ ที่สิงคโปร์บ่อยหน่อยเพราะจัดการเรื่อง ‘แบ๊งกิ้ง’ ครั้นเวลาพักผ่อนสำราญ โน่นเพ้นต์เฮ้าส์โรงแรม “Skye ที่เมือง Niseko” นอนเป็นอาทิตย์ คืนละแสนห้า
กิจการน่ะหรือ “มาสเตอร์แฟรนไชส์ของเกมสล๊อต และสารพัดเกมที่หลอกคนไทยเล่น...เป็นพันเว็บที่ลงท้ายด้วย ‘Bet’ และอื่นๆ ล้วนของท่านสารวัตรซัวทั้งหมด...ทำร่วมกับ ‘ลุค’ หุ้นส่วนคู่ซี้” ยังมีเด็กเส้นติดตามสารวัตรซัวอีกคน
ชื่อ ‘รูบี้’ กอส. รุ่น ๔๒ ศิษย์เก่ารุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน...ยังไม่นับรวม กอล์ฟ เต็น ตั้ว แก๊งตำรวจ กอส.รุ่นพนันออนไลน์” ทำกันล่ำสัน “แค่ลูกกระจ๊อกยังมีรายได้ ๔๐๐๐๐๐-๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน” ชูวิทย์เรียกธุรกิจนี้ว่า ‘เกมออนไลน์ลูกโซ่’
“ดูดเงินทีละ ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ บาท แต่คนเล่นเป็นแสนเป็นล้านคน เดือนๆ หนึ่งได้เท่าไหร่” เขาทำเป็นโอดว่า “ผมแฉแล้ว กรุณาหาช่องทางจับสักทีเถอะครับ” แม้นว่า “สารวัตรซัวก็คงไม่เดือดร้อน มีบ้านมีเงินฝากอยู่ลอนดอนหลายร้อยล้านปอนด์”
(https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/o3PwTBSWML)
