วันศุกร์, กรกฎาคม 17, 2563
สองแกนนำชูป้ายประท้วงบิ๊กตู่ ยื่นร้อง กมธ.การกฎหมาย “ผมผิดอะไร ทำไมต้องอุ้มกัน”
สองแกนนำชูป้ายประท้วงบิ๊กตู่ ยื่นร้อง กมธ.การกฎหมาย “ผมผิดอะไร ทำไมต้องอุ้มกัน”
วันนี้ (16 ก.ค.63) ที่รัฐสภา สองวัยรุ่นแกนนำกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ.ฯ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ในฐานะที่ปรึกษากมธ.จากกรณีที่นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายณัชนน พยัฆพรรณ สองแกนนำกลุ่มเยาชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ถูกรวบตัวอุ้มขึ้นรถ หลังออกมาชูป้าย “การ์ดอย่าตกพ่......” และ “อยู่ต่อก็ฉิบหาย ออกไปไอ้สั....” ที่หน้าโรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล จังหวัดระยอง
นายภาณุพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนกระทำไปเพื่อต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมารับผิดชอบจากกรณีที่ปล่อยให้กลุ่มทหารชาวอียิปต์ที่เป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 เข้ามาในพื้นที่จังหวัดระยอง จนทำให้เกิดความเสียหายในหลายๆสถานที่ รวมถึงโรงเรียนที่ต้องหยุดเรียนหลังจากหยุดเรียนมานาน ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดที่กำลังจะดีขึ้นต้องหยุดชะงัก
กลับโดนเจ้าหน้าที่เข้าทำการรวบตัว โดยใช้กำลังอย่างไม่เหมาะสม เรียกได้ว่าอุ้มขึ้นรถกันไปแบบไม่ให้เหตุผล ซึ่งตนก็ได้ถามกลับไปยังเจ้าหน้าที่แล้วว่า เข้าจับกุมตนในข้อหาอะไร แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่า “เดี๋ยวก็มีข้อหาให้”
ตนรู้สึกว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงเดินทางไปที่ สภ.ระยอง เพื่อแจ้งความให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการกับพวกเรา ซึ่งไม่รู้เลยว่าคดีจะมีความคืบหน้าอย่างไร เราไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับประชาชนอีก จึงต้องมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกมธ.ฯให้นำคนผิดมาลงโทษเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง
โดยทางด้านนาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกมธ.ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (15 ก.ค.) สร้างความกังวลให้กมธ. เนื่องจากเราเชื่อว่าเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน เราเชื่อว่าประชาชนสามารถตั้งคำถามกับรัฐบาลได้ แต่เราในฐานะกมธ.ก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงจะรับเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมของคณะกมธ.ฯ เพื่อพูดคุยว่าจะเชิญใครเข้ามาชี้แจงบ้าง และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพื่อที่จะนำผลการศึกษาเรื่องนี้รายงานต่อสภาฯ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
#MThai #MThaiPhoto #กรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน #รังสิมันต์โรม #กลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย
ภาพ #ธนโชติธนวิกรานต์
...
...
จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง..
เบื้องต้นขอดำเนินคดีดังนี้
1.กักขังหน่วงเหนี่ยว
2.ลักพาตัว
3.ทำร้ายร่างกาย
4.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นอกจากแจ้งความดำเนินคดี เราจะใช้ทุกช่องทางในการเรียกร้องความยุติธรรม
...
ผมดูคลิปข่าวที่ตำรวจระยองใช้กำลังบังคับเอาตัวประชาชนที่ออกมาถือป้ายกระดาษที่เขียนคำว่า “การ์ดอย่าตกพ่องง” และ “อยู่ต่อไปก็ฉิบหายออกไปไอ้สัส” ขึ้นรถกระบะแล้วนำตัวไปควบคุมด้วยความรู้สึกสังเวชและรังเกียจความไร้ศักดิ์ศรีของตำรวจ
การที่ประชาชนออกมาถือป้ายดังกล่าวถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญมาตรา 34 ถ้อยคำที่ปรากฏในป้ายทั้งสองไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายอาญาอันจะทำให้ตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวผู้ถือป้ายไปควบคุมหรือดำเนินคดี การกระทำของตำรวจจึงเป็นความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายโดยมีอาวุธและมีผู้ร่วมกระทำความผิดเกินห้าคนขึ้นไป
เห็นพฤติกรรมของตำรวจที่ทำกับประชาชนแล้วรับไม่ได้จริงๆ ตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมายเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม เรียกตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แต่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ใช้กำลังกับประชาชนและเป็นผู้กระทำความผิดเสียเองจึงสมควรจะถูกประณามและถูกดำเนินคดีไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
จึงเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งให้มีการสอบสวนและดำเนินคดีกับตำรวจที่กระทำความผิดดังกล่าว พยานหลักฐานมีทั้งพยานบุคคลและคลิปข่าว ตำรวจสองคนที่แต่งเครื่องแบบยศพันตำรวจเอกทั้งคู่ คนหนึ่งเป็นรองผู้บังคับการส่วนอีกคนเป็นผู้กำกับ
ผมได้ข่าวว่าเมื่อเกษียณแล้วท่าน ผบ.ตร. จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม. ลองแสดงความกล้าหาญให้ประชาชนได้พึ่งพา เพราะถ้าอยู่ในตำแหน่งแล้วยังไม่สามารถปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจและไม่สามารถคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนได้ ท่านจะเอาอะไรไปหาเสียง ส่วนตำรวจที่ทำกับประชาชนแบบนี้เสียศักดิ์ศรี “โคตรกระจอก” ครับ
วัฒนา เมืองสุข
15 กรกฎาคม 2563