ไหนนะ ประยุทธ์บอกจะใช้สูตร ศบค.
แก้เศรษฐกิจ “เพราะเห็นว่าการทำงานของ ศบค. ประสบความสำเร็จ” เนื่องจากใครๆ
ก็ชมว่าไทยแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ได้เป็นเลิศ “จึงน่าจะมีศูนย์ในลักษณะนี้มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย”
หลังจากที่เรียกประชุม ‘มือฉมัง’ (สไตล์ คสช.) ทางเศรษฐกิจชุดใหญ่แทนการประชุม
ครม. เพื่อให้มีทั้ง ‘ว่าที่’ รัฐมนตรีอย่าง
‘บิ๊กอายส์’ และ ‘บ๊ายบาย’ รัฐมนตรีอย่าง ‘สี่กุมาร’
มาร่วมกันพร้อมหน้าเมื่อวันก่อน แล้วได้ความว่า
“นายกฯ
ขอให้ทีมกฎหมายไปดูในเชิงกฎหมายว่าจะตั้งมาเป็นในลักษณะใดได้บ้าง แต่ในเบื้องต้นจะทำงานคล้ายกับ
ศบค. มีการ ‘รวมศูนย์’ เพื่อแก้ไขปัญหา”
ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรใหม่ ในเมื่อไม่มีรายละเอียดอะไรออกมาสักอย่าง
จากปากของหนึ่งในกลุ่มรัฐมนตรีบ๊ายบาย
กอบศักดิ์ ภูตระกูล ว่ามีข้อเสนอ “การช่วยเหลือ เอสเอ็มอี.
ผ่านการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือเพิ่มสภาพคล่องผ่านกองทุนต่างๆ...รวมทั้งการเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
โดยเปิดทางให้จัดซื้อจัดจ้างเอสเอ็มอีที่เสนอราคามาสูงกว่าหน่วยงานอื่นๆ
ได้ประมาณ ๑๐%” อันประเด็นนี้อาจจะ ‘นิวนอร์มอล’ สักหน่อยอย่างที่ตู่เค้าต้องการ
แต่มันก็สุ่มเสี่ยงกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เหมือนอย่าง ‘ซุ้มเทิดพระเกียรติ’
ออกนอกลู่สักนิด ในเมื่อไอ้ซุ้มเหล่านี้เป็นวิพากษ์กันมากว่าทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ
ทั้งส่วนท้องถิ่นและส่วนกลาง ในเมื่อพระองค์ท่านไม่ได้ทรงมีโอกาศทอดพระเนตรหรอก
ก็ทรงประทับที่บาวาเรียกับซูอีสเกือบทั้งปี แค่ถึงพระกัณฑ์ก็งั้นๆ
ไม่ทราบว่าจะทรงสดับเรื่องที่ว่าซุ้มพวกนี้แพงกว่าที่ควร
‘หูฉี่’ หรือเปล่า
แต่ว่ามันดังถึงยุโรปและยูเอสเอเลยนะ ไหนจะราคาเป็นสิบล้าน ว่ากันว่าแค่ระดับหมื่นปลายๆ
ก็สร้างได้แล้ว ยังกรณีสร้างไม่ดีพังลงมาก็หลายที่
บางแห่งถนนที่ซุ้มคล่อมดูไม่ได้เอาเลย
ล่าสุดเมื่อ July 9 at 5:00 AM พ่อไอ้ไผ่ ทนาย วิบูลย์ บุญภัทรรักษา โพสต์ว่า “เพื่อนทนายจากชุมแพส่งเข้าประกวด...ตั้งเด่นเป็นสง่าได้ไม่ถึงสองอาทิตย์
ร่วงอีกแล้ว” ให้ “ช่วยกันเตือนให้ระวัง...งบมาก อันตรายสูง...และน่ามีการตรวจสอบกันบ้าง”
ศูนย์ขับเคลื่อน ‘ประยุทธ์นิวนอร์มอล’ น่าจะเอาไปพิจารณา เพราะถ้าเศรษฐกิจละก็ต้องให้ครบกระบวน
ทั้งหาเงินและประหยัดรายจ่าย ไม่ใช่เซ็นเช็คและกู้ตะบัน
แล้วก็เลิกอ้างโน่นอ้างนี่เป็นข้อแก้ตัวเสียที “ตัวเลขที่เห็น ณ วันนี้
เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก”
อ้างไอเอ็มเอฟ “ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะติดลบ
๔.๙% จึงไม่แปลกใจว่าเศรษฐกิจในปีนี้ของทุกประเทศจะแย่ทั้งหมด
โดยเฉพาะในไตรมาสที่ ๒ จะแย่ที่สุด” กอบศักดิ์แจงตัวเลขของประเทศไทย ส่งออกติดลบ
๒๒% อุตสาหกรรมติดลบ ๒๐%
“นักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ ๐ เช่นเดียวกับการบริโภคการลงทุนติดลบ
๑๐% ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ไม่เคยเห็นตัวเลขแบบนี้มาก่อน
และเป็นตัวเลขที่ทำลายสถิติตั้งแต่ที่เคยมีมา” เฮ้ย พูดแบบนี้ ก๊อ
รัฐมนตรีบ๊าบบายแน่นอน
ยังดีไม่ได้เอาข้อวิเคราะห์ของ ‘บลูมเบิร์ก’ มาบอกด้วย นั่นเขาอ้างความเห็น
เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก จากตัวเลขแบ๊งค์ชาติว่าค่า
‘จีดีพี’ ไทยปีนี้จะหดถึง ๘.๑% มากเป็นประวัติการณ์ ยิ่งกว่าตอนวิกฤตเศรษฐกิจปี ๔๐
ข้อสำคัญอยู่ที่จะฟื้นได้อย่างไร ตอนนี้ยังรอนักกฎหมายหาทางตั้ง
‘ศูนย์ฯ’ ตามคำสั่งตู่
และฟื้นได้แค่ไหน ผลการวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กบอกว่า เบาะๆ เศรษฐกิจโดยรวมน่าจะหดตัวราว
๖% พอถึงปีหน้าค่อยดีหน่อย หดแค่ ๔%
ในส่วนของการส่งออก ‘not
too shabby’ แปลกใจไหงกอบศักดิ์ไม่ได้เอามาแจ้ง บลูมเบิร์กบอกปีนี้ไม่เลว
เพราะมีปัจจัยพิเศษเข้ามาแทรก เนื่องจากช่วงล็อคดาวน์โควิดนั่นประชากรอดอยากปากแห้ง
ก็เลยงัดเอาทองรูปพรรณที่นิยมสะสมออกมาขายกินกัน
ทองเป็น commodity ที่ไม่ก่อให้เกิดการผลิตและอุปโภคหมุนเวียน เหมือนกับทุนสำรองนั่นละ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผลจากการที่ประชากรขายทองเลี้ยงท้อง
ทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยไม่แย่มาก ไปแย่ตรงเรื่องท่องเที่ยวที่กอบศักศักดิ์ว่าเป็นศูนย์
นักท่องเที่ยวเข้าไทยปีนี้จะอยู่ที่ ๘
ล้านคน หรือ ๑ ใน ๕ ของเมื่อปีที่แล้ว “ทั้งที่มีแผนจะรับนักท่องเที่ยวชนิด bubbles
(แบบลอยข้ามปัญหาโควิดได้) สำหรับบางประเทศ
และขยิกจะเปิดสนามบินรับต่างชาติให้เร็วที่สุด ก็ยากส์
ตอนนี้การท่องเที่ยวฯ พยายามเชียร์ท่องเที่ยวในประเทศและ
‘เมืองรอง’ แต่บลูมเบิร์กบอกอีกว่า
ไม่มีทางเอาคืนส่วนใหญ่ที่สูญเสียไปแล้วได้ นั่นหมายถึง ๑ ใน ๕
ของเศรษฐกิจประเทศอาจจะ ‘disappear’ (ขออนุญาตไม่แปลคำนี้
มันเศร้า)