วันจันทร์, กรกฎาคม 13, 2563

ชวนอ่านเรื่องราวชีวิตการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ของ รุน มัทนา อัจจิมา นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยรุ่นคุณป้า




“ส่วนตัวรู้จักและเป็นเพื่อนกับคุณต้าใน Facebook มานานแล้ว รู้ว่าเขาเป็นผู้ลี้ภัยคนหนึ่ง แต่ช่วงหลังเราเห็นเขาต่อว่ารัฐบาล อาจจะเป็นผู้ถูกติดตามคนหนึ่ง เราก็ห่วงว่าเขาจะปลอดภัยไหม”

นี่คือความรู้สึกของ รุน มัทนา อัจจิมา นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยรุ่นเก๋าคนหนึ่ง เธอคือหนึ่งในบุคคลที่ถูกแจ้งข้อหาชุมนุมละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการไปทำกิจกรรมเรียกร้องในวันที่ 8 มิถุนายน
2563 หน้าสถานทูตกัมพูชา เพื่อขอให้เร่งรัดกระบวนการยุติธรรมจากกรณีวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยในกัมพูชาที่ถูกอุ้มหายไปหน้าที่พักของตนเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน

“เราเริ่มจากไปร่วมชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปี 53 เราเป็นคนหนึ่งที่โดนแก๊สน้ำตาที่ผ่านฟ้า หลังจากนั้นพอมีเวลาถ้ามีเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องความเป็นธรรม มีกลุ่มไหนเราก็ไปหมด เรื่องเลือกตั้งเราก็ไป ราชภักดิ์เราก็ไป แต่วันนั้นเราไม่โดนคดีเพราะไปเซ็นสัญญาไม่เคลื่อนไหวของตำรวจเลยรอดไป แต่รวมแล้วตอนนี้เราก็โดนมาแล้ว 4 คดีนะ จาก ‘คนอยากเลือกตั้ง’ ทั้งนั้นเลย ฮ่าๆๆ”

“ตอนเราจะไปวันที่ 8 ก็รู้ว่าเขาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ แต่เราไม่คิดว่าเขาจะใช้อันนี้เล่นงานเรา เราไปเรียกร้องตามหาคนหายนะคะ ตามหาคนหายเนี่ยมันฉุกเฉินกว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถูกอุ้มสดๆร้อนๆ มีภาพวิดีโอมีข่าวให้เห็น แล้วมันไม่ใช่เหมือนคนอื่นที่มาเห็นศพแล้ว นี่เพิ่งหาย มันฉุกเฉินกว่าไหมล่ะ แล้ววันนั้นเรามาตามหาคนหาย แล้วคุณมาใช้

พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กับเรา เราไม่ได้ไปต่อต้านรัฐบาลคุณเลยนะ ทำแบบนี้มันใช่หรือ แล้วชีวิตคนคนหนึ่งไม่สำคัญหรือ”

“วันนั้นเราก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือไปจากถือป้ายเรียกร้องให้คุณวันเฉลิม
ป้าย #saveวันเฉลิม ธรรมดาทั้งนั้นเลย ไม่ได้เป็นป้ายที่น่าจะผิดกฎอะไรเลย ติดโบว์ขาวกันอะไรอย่างนี้มันผิดตรงไหน ตอนเราโดนหมายเรียกเราเลยตกใจว่ามันโดนได้ยังไง หมายก็ไปที่บ้าน โชคดีว่าวันนั้นไม่มีใครอยู่บ้านสักคน เพราะในบ้านเราไม่มีใครเห็นด้วยกับที่เราเคลื่อนไหวกันสักคน
คือเขารู้นะว่าเราเคลื่อนไหว ตั้งแต่สมัยเสื้อแดงปี 53 แล้วหลังสลายการชุมนุมนี่ไม่มีใครพูดกับเราสักคนในบ้าน แต่เราจะไม่ค่อยให้เขารู้เรื่องคดีแล้ว ทุกวันนี้เขาก็ไม่รู้เรื่องคดี ก็เลยยังไม่มีปัญหาเท่าไร ถามว่าอึดอัดไหมก็อึดอัดแหละ”

ป้ารุนเล่าถึงตอนที่ขึ้นไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.วังทองหลาง
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ว่า

“เขาก็แจ้งข้อหาเราว่าผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่เราก็ไม่รับทราบข้อกล่าวหา เขาบอกเรายุยงปลุกปั่น แล้วมันใช่หรอ วันนั้นน่ะเราแค่ไปถาม ยื่นหนังสือให้คุณตามหาวันเฉลิม”

“จริงๆ วันที่เราออกมา ตัวเลขโควิดมันก็จะเป็นศูนย์แล้ว
ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นเรื่องโควิด ทุกคนก็ใส่แมส์กกันหมด
อย่างนี้ถ้าเราผิดตำรวจก็ต้องผิดด้วย เขามากันไม่ใช่น้อยเลย แล้วก็ยืนติดๆ กันด้วย”
“ในเรื่องวันเฉลิม เราว่าเราก็จะเคลื่อนไหวต่อถ้ามีคนนำ ถ้าเป็นเรื่องประชาธิปไตย ความยุติธรรม เอาเป็นว่าเราไม่หยุด ไม่มีใครมาหยุดเราได้”