วันอาทิตย์, พฤษภาคม 03, 2563

จรวดยิงประทับไหล่ลูกละแสนกว่า ซื้อช่วงสู้โควิด-๑๙ นี่นะ ท่าจะไว้ 'ฉีดวัคซีน' ละสิ


คนเดเดี๋ยวนี้เค้าจะเอาแต่ด่าๆ ๆ กันให้สนุกปากเฉยๆ ไม่ได้มีข้อมูลอะไรล่ะ ด่าคือไม่ได้ด่าประยุทธ์ แต่ด่าทหารทั้งหมด” เป็นข้อความตอบโต้รายหนึ่งในโพสต์ของ ทนายน้อย เรื่องกองทัพซื้อกระสุนนัดละกว่าแสนบาท

“สงสารทหารแบบพวกผมเถอะไม่ได้มีส่วนอะไรแต่โดนเหมารวม แต่กะราคาของนี้ถือว่ามันก็สมกะราคาของกระสุนแหละ เพราะแต่ล่ะรุ่นที่เลือกมาคือเกือบๆ จะท้อปทั่งนั้น” อีกหลายคนให้รายละเอียดเรื่อง กระสุน ดังกล่าวว่าที่จริงเป็นจรวดที่ใช้กับปืนบาซูก้าประทับไหล่

เอาให้เจาะจงก็คงเป็น “ระเบิดต่อต้านรถถัง (High Explosive Anti-Tank หรือ HEAT)​” ชนิด ‘Carl Gustaf’ ขนาด ๘๔ มิลลิเมตร ซึ่งสนนราคาปกติก็ลูกละ ๔,๑๐๐ เหรียญสหรัฐ (มากน้อยกว่านี้แล้วแต่ของใครผลิตและ ดีล ในซื้อเป็นอย่างไร)

กระสุนปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังแบบ Carl Gustaf M3 ขนาด 84 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นกระสุนต่อสู้รถถังราคาไม่ใช่ถูกๆ นะครับ ไม่ใช่กระสุนธรรมดา” อีกคนว่า “น่าจะเป็นการจัดซื้อเข้าคลังตามปกติ เพราะกองทัพมีฝึกใช้กระสุนจริงทุกปี”

ที่ดูเหมือนราคาที่กองทัพจัดซื้อจำนวน ๕๐๐ ลูก ๕๗ ล้าน ๔ แสนกว่า “แล้วก็สมเหตุสมผลอยู่” ดังที่ผู้ร่วมสนทนาอีกรายอ้างอิง “ผมบอกเลยว่าราคาปกติ แต่ซื้อมาทำเหี้ยไรเวลาแบบนี้นี่แหละ” เป็นประเด็นที่ ข่าวสด เอาไปเสนอเป็นข่าว

แต่ ผู้รู้รายหนึ่งตอบข้อข้องใจเรื่องอายุการเก็บไว้ในคลังแสง “กว่าจะหมดอายุใช้เวลานานพอสมควรครับ ถ้าหมดอายุก็ต้องนำไปทำลายทิ้ง...การนำไปใช้ก็มีครับเพราะปีๆ นึงมีการฝึกการซ้อมต่างๆ ก็เยอะ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็การฝึก Cobra Gold” ก็ใช้

เขาอ้างเหตุจำเป็นด้วยว่า “ถ้าสมมุติว่าไม่ให้ซื้อยังจะให้ใช้กระสุนเก่าไว้เวลาจะใช้งานโอกาสที่จะระเบิดคาลำกล้องก็มีสูงครับ โชคดีหน่อยก็แค่ยิงไม่ออกกับกระสุนขัดลำ ถ้าลองตามข่าวกองทัพของตปท. รอบๆบ้านเราเนี้ยเค้าจัดซื้อหนักกว่าเราอีกน่ะครับ”

ก็ยังมีหลายคนยังไม่เห็นความจำเป็นเหนือกว่าการช่วยเหลือชาวบ้านที่ทำมาหากินลำบากมา ๕-๖ ปีแล้ว ยังต้องมาหยุดชะงักเพราะ ล็อคดาวน์โควิด-๑๙ ขณะนี้ “แค่อยากรู้ตรงนื้จะเอามารบกับใคร” ก็เลยโดนสั่งสอนว่า “คนเราฉีดวัคซีนทำไมครับ

เพื่อให้มีภูมิต้านทานในสิ่งต่าง ๆ ใช่ไหม ถ้าศัตรูภายนอกเห็นว่าเราอ่อนแอ มันจะบุกโจมตีไหม ถ้ามันเห็นว่าเราแข็งแกร่งมันจะมาหรือเปล่า” อันนี้น่าจะใช้ตรรกะผิดผีผิดไข้ล่ะนะ คือศัตรูภายนอกมันไม่ได้จ้องว่าเมื่อไรคุณจะอ่อนแอแล้วตี
 
การศึกสงครามแบบที่ต้องใช้อาวุธชนิด อาร์พีจีอย่างนี้มันเกิดเพราะเรื่องอื่น เขาโกรธจัดเพราะมีการกระทบกระทั่งหรือแย่งชิงผลประโยชน์กัน ใช่อยู่ ก่อนจะรบต้องดูตาม้าตาเรือว่าจะได้เปรียบและเพลี่ยงพล้ำมากน้อยกว่ากันแค่ไหน

หากแต่ในยามสถานการณ์ขัดแย้งไม่มี มีแต่จะร่วมมือกันต่อกรกับโรคระบาดร้ายทั่วโลก จะขนซื้อจรวดไว้รออวดวันเด็กคราวหน้าหรือไร ตอนที่เอาออกมาโชว์ไม่ต้องยิงให้ดูไม่ใช่หรือ ไม่ต้องกลัวกระสุนขัดลำกล้องใช้ของเก่าได้นะ

หรือจะเป็นเพราะวิเทโสบายแยบยลของทั่นผู้บัญชาการ อย่างเช่นที่ บีอาร์เอ็นขบวนการแยกดินแดนภาคใต้มันบ่นว่าช่วงโควิด-๑๙ นี่อุตส่าห์ พักรบ เพื่อให้ประชาชนได้หายใจ ไม่มีก่อการร้าย แต่กองทัพไทยก็ยังตอดตีอยู่ไม่ขาด

ความหมายของพวกนั้นอาจจะว่า เฮ้ย กรูจะกลับมาก่อกวนหนักอีกละนะ พวก บก.ส่วนหน้าคงเฮ สายธารแห่งอาวุธ กระสุน และเบี้ยเลี้ยงไม่มีขาดแคลนใช่ไหม แน่นอนว่าชาวบ้านสามจังหวัดได้ร้องไห้กันต่อไป ใช่หรือไม่

ที่แท้ทรูเวลานี้อยู่ที่ กองทัพถลุงไปแล้วเท่าไหร่ตลอด ๕-๖ ปี กลัวน้อยหน้าเพื่อนบ้านบ้างละ สต็อกเก่าต้องสับเปลี่ยน แล้วหลายครั้งหลายอย่างซื้อราคาแพงกว่าควร (เพราะต้องท้อปแบบที่รายหนึ่งว่า) นั่นละที่ประชากรซึ่งไม่ใช่กำลังพลเขากังขา

คำถามที่ว่า “จะไปรบกับใคร” จึงกินใจ ว่าแม้จะสร้างสมอย่างไรถึงเวลามีสงครามจริง มันย่อมจะอยู่ในพิกัดเกินกว่าอาวุธเหล่านี้จะได้ใช้อย่างมีประสิทธิผลถึงใจอยู่แล้ว แล้วยังกำลังพลสร้างสมทำไรมากมาย เคยอ่าน กานดา นาคน้อย ที่มติชนกันไหม

“นายพลไทยมากกว่าอเมริกาเสียอีก” เอาไว้ตีกอล์ฟ คุมอาบอบนวด คุมวินมอไซค์ คุมสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ (เฉพาะตัวนาย) คุมกองสลากฯ รับจัดอีเว้นต์ ตอนนี้มี กอ.รมน.เป็นพ่องทุกหน่วยราชการทั่วประเทศแทน คสช. ไหนใครนะบอกว่า คสช.เลิกแล้ว

คำขวัญของเผด็จการ “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” ใช้ไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะหลังจากโควิดเพลามือ คราวนี้ต้อง ฟื้นฟูจริงจังเรื่องปากท้องของบรรดาประชากรที่เป็นแรงงาน ไว้ผลักดันประเทศชาติไปสู่การมีกินมีใช้

อย่าได้เอาตรรกะแบบ กำลังพล มาใช้ นายว่าขี้ข้าพลอยมันยิ่งกว่า สลิ่ม ที่ดีแต่แถแค่จะเอาเปรียบ