วันเสาร์, พฤษภาคม 16, 2563

ยอมรับแล้วว่าเป็นรีสอร์ท : “โฆษก ทบ.”แจง “รีสอร์ท มทบ.37” ริมแม่น้ำกก เชียงรายเป็นสวัสดิการเชิงพาณิชย์ ที่นำรายได้เข้าคลัง - (แต่การปฏิบัติจริงแล้วประชาชนไม่ใช่ว่าจะเข้าไปใช้ได้กันง่ายๆ อย่าพูดถึงประชาชนเลยเอาแค่ทหารชั้นผู้น้อยจองยังยากเลย - เรืออากาศโท ธนเดช เพ็งสุข) จริงป่ะ ???


ยอมรับแล้วว่าเป็นรีสอร์ท
.
เป็นทหารไม่พอ เป็นพ่อค้าด้วยหรอ
.
ทหารเป็นช้าราชการกลุ่มหนึ่งที่รับภาษีปชช. ถ้าบอกว่าไม่ใช่งบของแผ่นดินก็เท่ากับว่ายอมรับว่ากองทัพซุกธุรกิจที่ไม่ได้ตรวจสอบและเปิดเผยอย่างโปร่งใสนะสิ สารภาพออกมาแล้วสิ หึหึหึหึ

ความเห็นส่วนหนึ่งจาก
...




ไม่ใช่เพียงแต่กองทัพบกเท่านั้น ที่มีการใช้งบประมาณในการสถานพักฟื้นแบบนี้ กองทัพเรือและกองทัพอากาศรวมถึงตำรวจก็ทำกัน โดยสถานที่เหล่านี้เท่าทราบมีการเปิดให้ประชาชนเข้าพัก โดยมีการเก็บค่าเช่าที่พักรายวันเหมือนโรงแรมทั่วไป ซึ่งถ้าตามกฎหมายแล้วถ้ามีการเก็บค่าเช่าที่พักรายวัน ในลักษณะเช่นนี้จะต้องไปอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.โรงแรม คือ ต้องมีใบอนุญาต แต่สถานที่ดังกล่าวถูกบังคับตาม พ.ร.บ.โรงแรม หรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงบรรดาสนามกอล์ฟและสนามม้า ที่มีการจัดเก็บรายได้ แต่ข้อสงสัย คือ ได้ทำถูกต้องในเรื่องรายได้ที่ได้มานั้นหรือไม่ หากไม่ได้ทำให้ถูกต้องก็เป็นโอกาสให้เงินดังกล่าว จะไปเข้ากระเป๋าใครคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้ ที่สำคัญครั้งเมื่อเกิดเหตุลูกติดเมียนายพล ถูกทำร้ายร่างกายในผับที่ไปเช่าพื้นที่ของโรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนห้วยแก้วในจังหวัดเชียงใหม่ วันรุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมีทหารเป็นแกนหลักเพราะขณะเวลานั้น ยังอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหารมีอำนาจล้นมือ ดาหน้าเข้าไปทำการจับกุมโรงแรมแห่งนั้นดำเนินคดี ด้วยข้อหาไม่มีใบอนุญาต ทั้ง ๆ ที่โรงแรมแห่งนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น เป็นเพียงผู้ให้เช่าพื้นที่เท่านั้น ก็ได้แต่คิดว่าสถานพักฟื้นของทหาร ซึ่งห่างจากโรงแรมแห่งนั้นระยะทางไม่น่าจะเกินสี่ห้ากิโลเมตร มีใบอนุญาตถูกต้องตาม พ.ร.บ.โรงแรม หรือไม่ อย่าให้เขาว่าได้ว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเสียเอง ที่สำคัญในขณะที่ทำการจับกุม มีสถานประกอบการลักษณะโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต ไม่น้อยกว่าหกร้อยกว่าแห่ง แต่ทำไมไม่มีการจับกุม หรือเป็นการเลือกปฏืบัติ เพราะลูกติดเมียนายพลถูกกระทืบในสถานที่แห่งนั้น