ก่อนจะถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ เรื่อง
พรบ.งบประมาณ ๖๓ เอาไงกันแน่ จากผลที่ ส.ส.สังกัดรัฐบาลออกเสียงแทนกันเพื่อให้ผ่าน
เมื่อวาน (๖ กุมภา) ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายกันถึงแก่น ในญัตติขอตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางป้องกันรัฐประหาร
ปิยบุตร แสงกนกกุล จากพรรคอนาคตใหม่
ฟันกลางกล่องดวงใจ “เอาผู้ก่อการกลับมาดำเนินคดีและลงโทษในฐานกบฏ
บรรดานายพลรุ่นน้องๆ ทั้งหลายก็จะพึงสังวรณ์ได้ว่า ยึดอำนาจเมื่อไหร่
หมดอำนาจลงไปแล้วถูกดำเนินคดีได้ตลอดเวลา
ถ้าเราทำเช่นนี้ได้เมื่อไหร่
ผมมั่นใจว่าประเทศไทยจะไม่มีรัฐประหารอีก” ทางด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
พรรคเพื่อไทยบอกว่า ถ้าสภาฯ ไม่เห็นด้วยกับการป้องกันรัฐประหาร
ก็อย่ามาเป็นผู้แทนฯ เสียดีกว่า” เพราะถ้ามาเป็นผู้แทนโดยทำตัวเหมือน ‘ขี้ข้า’ ใคร ถือว่าเสียศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง
ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ย่อยเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนจะคมแบบหยิกเล็บเจ็บเนื้อ เมื่อ เทพไท เสนพงษ์ ส.ส.ประชาธิปัตย์
ลุกขึ้นอภิปรายค้านการตั้งกรรมาธิการชุดนี้
ว่าประวัติศาสตร์มีการรัฐประหารที่สำเร็จและไม่สำเร็จ (กลายเป็นกบฏ) เท่าๆ กัน
“การตั้งญัตตินี้จึงเสียเวลาเปล่า
เพราะเรื่องนี้เหมือนเป็นดีเอ็นเอของไทย เขียนอย่างไรก็มีคนฉีก
เพราะคนทำรัฐประหารแม้จะไม่สำเร็จก็ไม่มีใครถูกลงโทษตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด”
เขาพูดก็จริงแหละ “มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ผู้ที่ก่อการถูกประหารชีวิต”
นั่นคือ พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ กบฏ ๒๖ มีนา ๒๕๒๐
น่าจะเพราะฉลาดยิงทิ้งนายพลคนหนึ่งที่ขัดขืนด้วย นอกนั้นถ้าไม่ได้นิรโทษกรรมก็หนีไปต่างประเทศแล้วค่อยกลับมาโดยสะดวก
“สิ่งที่จะป้องกันการรัฐประหารได้ ต้องปฏิรูปกองทัพ ลดโครงสร้างให้เล็กลง”
ก็ถูกต้องในหลักการ แต่ที่ผ่านมาทำไม่ได้
อย่าง ‘จิ๋วแต่แจ๋ว’ แล้วหวานจ๋อยเสียจนไม่สำเร็จ อีกรายที่พยายามแค่จ่อๆ ก็โดนป๊งเช้ง
รัฐประการ ๔๙ เสียก่อน เทพไทแนะให้ “บรรจุไว้ในหลักสูตรโรงเรียนเตรียมทหาร นักการเมืองต้องปรับตัว
และปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนต่อต้าน”
ประการหลังนี่พรรคอนาคตใหม่เป็นหัวหอกอยู่ขณะนี้
ขนาดที่วิเคราะห์กันระเบ็งว่าศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำพิพากษาว่าจะยุบพรรคนี้หรือไม่
ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสองวัน เพื่อตัดกำลังสำคัญที่จะดหมรัฐบาล
ปิยบุตรยังประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “เขาอยากได้
ส.ส. ของอนาคตใหม่ เขาก็จะไม่ได้ เขาอยากตัดสิทธิ์ ธนาธร-ปิยบุตรไม่ให้ทำงานทางการเมือง
เขาจะไม่เห็น เขาอยากจะทำลายความคิดแบบอนาคตใหม่ เขาจะทำไม่สำเร็จ”
แต่เทพไทก็ยังยืนยันว่า “แม้ตนจะเชื่อมั่นว่าระบอบประชาธิปไตยดีกว่าเผด็จการ
และไม่มีประเทศไหนที่เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าด้วยการปกครองรูปแบบเผด็จการ”
เขาก็ยังฟันธง “เพราะผมเชื่อว่ารัฐประหารป้องกันไม่ได้”
พร้อมทั้งส่งท้ายอย่างสำมะคัญว่ามัน “เป็นเรื่องของคนบ้าอำนาจ
ภาษาการเมืองเรียกว่าเป็นวงจรอุบาทว์ ภาษาอังกฤษเรียกว่า vicious
circle ภาษาราชการเรียกว่านิสัยอันถาวร ภาษาชาวบ้านเรียกว่าสันดาน”
อ้าว พูดอย่างนั้นไม่เกรงใจหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคหรือไร
ยิ่งพักนี้บรรยากาศภายใน ปชป.ไม่ค่อยเอ็นจอยกันเท่าไรนัก
กับการทำงานใต้ปีกผู้บัญชาการรัฐบาลที่ขี้คุย ขี้ตู่ และขี้เรี่ยขี้ราด
ชอบทำผิดพลาดให้ข้าราชการประจำคอยตามเช็ด
ตัวอย่าง “วันนี้
ทำเนียบรัฐบาลจะเริ่มเปิดขาย ‘หน้ากากอนามัย’ กัน PM 2.5 และไวรัสโคโรนา ราคาถูก ๑๐ ชิ้น ๒๕ บาท
ขาย ๑๕ วันต่อเนื่อง เตือนไปซื้อให้ถูกที่นะคะ” (ข่าว @Thairath_News) แต่ชาวบ้านร้องฮ้าย ต้องให้ถ่อไปถึงทำเนียบเหรอ
ซ้ำราคาที่เขาขายกันก่อนขาดตลาดน่ะ
ราคาแพ็คละ ๑๐ บาท มี ๑๐ อัน ก็เท่ากับอันละบาทเดียว เขาไม่ว่ารัฐบาลโก่งราคา
แต่ว่าวางตลาดให้ซื้อกันง่ายๆ หน่อยไม่ได้หรือ ทีตอนจะให้เจ้าสัวประชารัฐขายของเอาเงินที่รัฐบาลแจกยังทำได้
นั่นละ
มันถึงได้เป็นขี้ปากประชาชนอยู่ทุกวันนี้ “น้ำก็แล้ง อากาศก็เป็นพิษ
เศรษฐกิจก็ไม่ดี แถมมีโรคระบาด จะมีอะไรที่แย่กว่านี้อีกมั้ย” (จากโพสต์บ่นของ ‘ถือแถน @pran2844’)
กลับไปที่เรื่องของ ปชป. วานนี้ตรงกันพอดี
มีเสียงบ่นเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ส.ส.ใต้ นายอันวาร์ สาและ จากปัตตานี มีถึงหัวหน้าจุรินทร์
ลักษณวิศิษฐ์ บอกว่าพรรคต้องจัดประชุมใหญ่ชำระอาการเริ่มเน่าเฟะได้แล้ว
เพราะสมาชิกชักจะไหลออกไม่ขาดสาย
จดหมายเตือนนี้ระบุว่า หรือจะเป็นเพราะ “การบริหารพรรคล้มเหลว”
เนื่องจากที่อ้างว่าเหตุที่แพ้เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเพราะหัวหน้าเก่าประกาศไม่เอาคณะยึดอำนาจ
แต่ไฉนพรรคที่ต่อต้านรัฐประหารอย่างอนาคตใหม่กับเพื่อไทยได้ ส.ส.เยอะแยะ
อีกข้อก็คือการที่เป็นพรรคเด็กเก็บหรือเมียกิ๊กนี่
ต้องคอยฟังผัวจิกหัวใช้ร่ำไปอย่างนี้ชักจะไม่ได้เรื่องแล้วละมัง
ส.ส.ปัตตานียังยกตัวอย่างพรรคไทยรักไทยถูกทหารเชือดไปแล้ว เขายังกลับไปเป็น ‘พลังประชาชน’ ได้
พลังประชาชนถูก ตลก.เชือดซ้ำ
ก็ยังกลับมาผงาดในนามเพื่อไทย แต่ประชาธิปัตย์ไม่เคยโดนยุบด้วยอำนาจรัฐประหาร
แต่กำลังจะถูกยุบด้วยอำนาจประชาชน ไม่รีบหาทางแก้ แย่แน่ๆ
เขาไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรเลยนะว่า
กรณีอนาคตใหม่ถ้าถูกศาลรัฐธรรมนูญฟันในวันที่ ๒๑ กุมภานี้แล้วจะกลายเป็นนก ‘ฟีนิกซ์’ เกิดใหม่ได้เสมอเหมือนไทยรักไทยหรือเปล่า
แต่ฟังแล้วน่าคิด ในเมื่อแกนนำพรรคเขาประกาศไว้อย่างนั้น