ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เขียนบทความตีพิมพ์ใน
นสพ. เดอะนิวยอร์คไทมส์เมื่อวานซืน (๑๑ ก.ค.) ถึงปฏิบัติการนำพวกเด็กๆ (อายุ ๑๑
ถึง ๑๖) และโค้ช (อายุ ๒๕) ออกมาจาก #ถ้ำหลวงนางนอน
ประสพความสำเร็จโด่งดังทั่วโลก
“ไม่ใช่แต่เพียงเด็กเหล่านั้นที่ได้รับการกู้ภัย
คณะทหารครองเมืองดูเหมือนจะพลอยฟ้าพลอยฝน หลีกลี้ข้อวิพากษ์ต่อการใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด”
ไปได้ด้วยชั่วคราว
ตลอดทั้งบทความ ดูเหมือน อจ.ปวินจะเน้นถึงภาพพจน์ที่การกู้ภัยทำให้เด็กๆ
ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัยท่ามกลางเสียงแซร่ซร้อง แต่ประชาชนไทยโดยรวมก็ยังคงติดหล่มอำนาจเผด็จการของคณะรัฐประหารต่อไป
หล่มรัฐประหารประการหนึ่งนอกเหนือจากรัฐธรรมนูญที่เอื้อคณะทหารครองอำนาจยาวนาน
และยุทธศาสตร์ชาติไว้สำหรับครอบงำรัฐบาลในอนาคตอย่างน้อยๆ ๒๐ ปีแล้ว
คนของคณะรัฐประหารทั้งใหม่และเก่า ทั้งสายตรงและพวกขุนพลอยพยัก เข้าไปกุมสถาบันศาล
และองค์กรอิสระต่างๆ ไว้อย่างรวบยอดไปแล้ว
เมื่อวาน (๑๒ ก.ค.) สภานิติบัญญัติของ คสช.
ให้ความเห็นชอบ (ในการพิจารณาลับ) กับรายชื่อคณะกรรมการเลือกตั้ง ๕ คน
ที่นอกจากจะอายุเกิน ๖๐ แล้วทั้งนั้น
ส่วนใหญ่ไม่มีใครเคยมีผลงานเกี่ยวกับการกำกับดูแลการเลือกตั้งมาก่อนเลย
คนหนึ่งเป็นนักวิชาการเทคโนโลยี่ด้านสิ่งแวดล้อม
อีกคนเป็นอดีตทูต สองคนเคยเป็นผู้พิพากษา คนที่ ๕ เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อน (สปท.)
ตำแหน่งการเมืองที่รัฐบาล คสช.ใช้ปูนบำเหน็ดผู้ที่เคยหนุนรัฐประหารและจัดการถล่มซ้ำฝ่ายตรงข้าม
“มีเพียง พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ที่เคยเป็นประธาน กกต. จังหวัดศรีสะเกษ
แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบจาก สนช.”
เงื่อนปม ทั้งหลายที่เนติบริกรของ คสช.
ในสภาต่างๆ ที่ คสช.ตั้ง
ร่างและผ่านกันออกมาเพื่อใช้ทำหมันทางการเมืองต่อพรรคการเมือง
และเปิดช่องกลุ่มยึดอำนาจกลับเข้าไปครองเมืองกันต่อ ทำท่าจะไปไม่รื่นเมื่อการบิดเบือนโร้ดแม็พยากที่จะเลื่อนการเลือกตั้งต่ออีกเป็นครั้งที่
๖
คสช.จึงหันไปใช้ ‘อียิปต์โมเดล’ อันเป็นการกวาดล้างพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ด้วยการตั้งข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคง
โดยมีศาลร่วมด้วยช่วยกันตัดสินความผิดเฉพาะฝ่ายตรงข้าม แล้วตัวหัวหน้าใหญ่ (นายพล
อัลซิซี) ผันตัวไปเป็นนักการเมืองเสียเอง ลงเลือกตั้งได้คะแนนในกล่องบัตรท่วมท้น
แม้หัวหน้า คสช.เองจะยังไม่ยอมรับว่ามีพรรคการเมืองตั้งใหม่หลักใหญ่สองพรรคสำหรับเป็นฐานคะแนนไว้ครองอำนาจต่อ
แต่ทั้งสองพรรคก็เดินเครื่องการเมืองกันโจ๋งครึ่มเต็มพิกัด อย่างน่าเกลียด
พรรคพลังประชารัฐของ ‘สามมิตร’ สมคิด-สมศักดิ์-สุริยะ ออกลุย ‘ดูด’ อดีต ส.ส.เข้าพกเข้าห่อกันจ้าละหวั่น
ส่วนพรรครวมพลังปฏิรูปชาติ หรือ รปช. ของ ‘สุเทือก’ ก็ทำการ ‘ไล้ฟ์’ ระดมสมาชิกทางโซเชียลมีเดีย
ล้วนแต่พวกตัวเอ้ คสช.
ออกมาปกป้องว่าทำได้ไม่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเมืองที่พวกตนเขียน
(ล่าสุดดู
วิษณุปกป้องสุเทพเฟชบุ๊คไล้ฟ์เรียกแขกได้ไม่ผิด http://www.thairath.co.th/content/1333079)
ด้านพลังดูดแรกๆ
ฮือฮาถึงขั้นเม้าท์กันแซ่ดว่าทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลไม่หยุด
จนกระทั่งมีมือดีมาห้ามเลือดได้ ดังที่ Thanapol
Eawsakul เหน็บไว้ “ปิดฉากกลุ่ม 3
มิตรแห่งพรรคพลังประชารัฐ “แล้วพรรคพลังประชารัฐ
ที่คณะรัฐประหารสนับสนุนก็กลายเป็นตัวตลก”
ดังที่เป็นข่าว “พท.เย้ย ‘3
มิตร’ อีสานมีส.ส.เป็นร้อยเขต ดูดได้แค่ 7-8 คน
ประกาศเปิดตัวสุดอลังการ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1035753
https://www.matichon.co.th/politics/news_1035753
ทรงศักดิ์’ เย้ย ‘3
มิตร’ ปรับแผนลดโทนพรรคทหารคนก็รู้ ชี้ความจริงหลบยังไงก็ไม่พ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_1035714
https://www.matichon.co.th/politics/news_1035714
“หลังจากนี้บทบาทของกลุ่ม
3 มิตร สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมศักดิ์
เทพสุทิน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะค่อย ๆ หายไปจากสารบบ” ธนาพลว่าอย่างนั้น
ขณะที่สองอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีตนายกรัฐมนตรี
แทนที่จะคอยหลบลี้หนีหน้าอยู่ต่างประเทศ กลับปรากฏตัวที่โน่นที่นี่ทั่วโลก
แถมสื่อสารทางตรงถึงผู้บริหารและนักการเมืองที่ยังดูแลพรรคกันอยู่ ว่า
เพื่อไทยมาแน่ เลือกตั้งครั้งที่จะมา ท่วมท้นตามเคย
ล่าสุดแบบไม่เบา (‘Last
but not least’) ปรากฏภาพทางอินสตาแกรม ชื่อบัญชี ‘nichax’ ของเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ เสด็จชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กรุงมอสโคว์
คู่ชิงเข้ารอบสุดท้ายระหว่างอังกฤษกับโครเอเชีย