วันเสาร์, กรกฎาคม 14, 2561

ใช่เลย "อยากเรียนฟรีต้องไปติดถ้ำ อยากเลือกตั้งต้องไปติดคุก"


โหนกันเสียจนกลายเป็นดราม่าขึ้นมาอีก เรื่องช่วย ๑๒ ชีวิตเด็กๆ บวกหนึ่งโค้ชออกจากถ้ำ ขุนน้ำนางนอนทั้งที่ตอนนี้ก็พักฟื้นกันมาอย่างดี ชูสองนิ้ว ขอกินโน่นกินนี่ เป็นสัญญานพร้อมออกจากโรงพยาบาล (๑๙ ก.ค. นี้) แล้วอย่างเรียบร้อย

ถ้าไม่ใช่ ม.นเรศวร เจ๋งไอเดียให้ทุนการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรียันเอกกับทั้ง ๑๓ ผู้ได้รับการกู้ภัย ซึ่งทันทีมีเสียงติ ตัวอย่างจากนี่ Wiroj Lakkhanaadisorn @wirojlak ทวี้ตไว้น่ารับฟัง

“ทั้ง ๑๓ คนเป็นผู้ประสบภัย ที่ได้รับน้ำใจจากคนไทย และต่างชาติในการช่วยเหลือ...จึงไม่เหมาะที่จะได้รับทุน หรือรางวัลใดๆ ถ้า ม. นเรศวร ต้องการช่วยจริงๆ อยากให้ช่วยครอบครัวของจ่าสมานจะดีกว่าครับ”

บ้างว่า “อ.บางระกำ อ.บางกระทุ่ม น้ำท่วมบ่อยๆ เป็นผู้ประสบภัยเหมือนกัน ลูกหลานพอจะได้ทุนกับเค้ามั้ยครับ ? จบมาได้พัฒนาถิ่นที่อยู่เเน่นนอน รึต้องดังถึงจะเป็นไปตามเจตนารมณ์จึงจะได้ทุน” (Incognito @Incognito_me)

จึงได้มีนักศึกษาของ ม.นเรศวรกลุ่มหนึ่ง รวมตัวกันแสดงการคัดค้าน ด้วยเห็นว่าจะไปเบียดบังที่ทางการศึกษาของเด็กเรียนดีแต่ยากจน หรือลดโอกาสของบรรดา ช้างเผือก อนุชนรุ่นต่อๆ ไป 

อีกทั้งผู้เป็นย่าของทีมหมูป่าคนหนึ่ง แสดงปฏิกิริยาไม่ขอให้หลานรับทุน ชี้ว่าแต่ละคนควรต้องดิ้นรนช่วยตนเอง
 
มิใย ดร.กาญจนา เงารังษี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรจะอ้างว่า “นี่คือการควานหาเพชรในสังคมไทย...สนับสนุนการศึกษาให้เด็ก ๆ ที่เป็นผู้ประสบภัย ควรเห็นใจและให้โอกาส เพราะหลังเหตุการณ์นี้จะต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ ช่วงแรก ๆ พอผ่านไปหลังจากนั้นสังคมอาจจะลืม”


แม้กระทั่ง ม.รามคำแหงยังตามแห่บ้าง เมื่ออธิการบดี วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ บอกว่า “มีเกษตรกรจำนวนมากยอมเสียสละไร่นาของตนที่กำลังเพาะปลูก ให้เป็นสถานที่รับน้ำจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยชีวิตเยาวชนและโค้ชให้ปลอดภัย”

ดังนั้น ม.เกษตรจะให้ทุนการศึกษาแก่ลูกเกษตรกรที่ไร่นาน้ำท่วม โดยให้เรียนฟีตลอดจนจบหลักสูตรปริญญาตรี “เพื่อให้การศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต และสนับสนุนในการทำความดีของมนุษยชนต่อไป” ซึ่งก็ยังดูควรแก่เหตุมากกว่า


เลยช่วยไม่ได้ที่เกิดปฏิกิริยาล้อเลียนเชิงตำหนิ อย่างเช่นเว็บ ครูสนิท ชูวลี “ทัศนศึกษาในถ้ำ เพื่ออนาคต” หรือเว็บ ดับเบิ้ล สแตนดาร์ดสร้างสโลแกน “อยากเรียนฟรี ต้องไปติดถ้ำ อยากเลือกตั้ง ต้องไปติดคุก”

แต่ถ้าจะขำก็คงขำได้แค่นๆ ในเมื่อเห็นอยู่โทนโท่ จากทวี้ตของ John Winyu @johnwinyu “อืม...เลื่อมใสระบบประเทศนี้เลย——เลื่อนสืบพยานปากแรกออกไปอีก หลัง 'แหวน วัดปทุม' ติดคุกมาแล้ว ๓ ปี ๔ เดือน”

อันมาจากรายงานของสำนักพิมพ์ประชาไทกรณีที่ศาลทหารกรุงเทพฯ นัดสืบพยานโจทก์ คดีที่อาสาสมัครพยาบาล แหวน ณัฏฐธิดา มีวังปลาโดนข้อหา ๑๑๒ ว่า “ได้นำข้อความที่มีผู้โพสต์ไว้ในแอปพลิเคชันไลน์ กลุ่มไทยภาคี มาโพสต์ต่อลงในกลุ่ม DNP แอนด์เพื่อนแม้วและกลุ่ม GERRARD

จากการเปิดเผยของทนายในคดี วิญญัติ ชาติมนตรี ทำให้เห็นว่าการตั้งข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ต่อแหวนนั้น ไม่ต้องตรงกับข้อเท็จจริงอันประจักษ์ “ณัฏฐธิดาถูกควบคุมตัวโดยทหารตั้งแต่วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ทหารได้ยึดอุปกรณ์สื่อสารและบังคับเอารหัสเพื่อเข้าถึงข้อมูลการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียตั้งแต่วันดังกล่าว

แต่ข้อความที่เป็นปัญหาถูกโพสต์ในกลุ่มไลน์เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๘” เท่ากับว่าจับก่อนแล้วจึงเกิดการกระทำความผิดตามมา แบบนี้บางทีมีคนเรียกองค์กรที่เป็นผู้ดำเนินคดีว่า ศาลเจ้าเจี้ยว บ้าง ศาลกงเต๊ก บ้าง ก็ดูสมน้ำสมเนื้อดีอยู่

การจับกุมและขังยาวแหวน ที่เสี่ยงภัยช่วยปฐมพยาบาลผู้ชุมนุมราชประสงค์เมื่อ พฤษภา ๕๓ ร่วมกับเพื่อนพยาบาลอาสาครั้งนั้น ซึ่งถูกกระสุนสไน้เปอร์จากทหารเสียชีวิตภายในวัดปทุมฯ หลายคน จึงส่อแววไม่ปกติ
 
พอดิบพอดีก่อนหน้านั้น แหวนไปให้การในฐานพยานเหตุการณ์สลายชุมนุมของ นปช. ที่เริ่มจากการเรียกร้องให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้น จัดการเลือกตั้งเสียที แหวนเล่าให้ศาลฟังว่า

“เธอเห็นทหารบนรางรถไฟฟ้าด้วย ๕ นาย โดยใส่ชุดลายพราง สวมหมวกด้านหลังหมวกติดสติกเกอร์สีชมพู และทหารบนรางรถไฟฟ้ามีการประทับปืนเล็งลงมาที่วัด” ทำให้เพื่อนพยาบาลอาสาสมัคร ๓ คนตายไปต่อหน้า


คำให้การชัดเจนอย่างนั้น ไม่สามารถสกิดให้ศาลรับฟังและไตร่ตรองเพื่อประโยชน์ของจำเลย หากว่าเขาหรือเธอบริสุทธิ์ได้ แสดงว่าน่าจะมี ธง หรืออะไรแอบแฝง ไม่ต้องการให้ณัฏฐิกามีอิสระอยู่เล่าความจริงมากขึ้นไปอีก การจับกุมและคุมขังเธอจึงเกิดขึ้น

นั่นละ การอยากเลือกตั้งไม่เพียงโดนคดีระนาว แต่มีคนต้องไปติดคุกยาวๆ แล้วด้วย