วันจันทร์, มิถุนายน 05, 2560

‘คนสวยอำมหิต’ ฮิตกว่าแฮ็คเกอร์รัสเซีย

ท่ามกลางกระแสคลั่ง คนสวยอำมหิต ฆ่าบีบคอแล้วหั่นศพนำไปฝัง มีการติดตามข่าวจับกุม ๓ หญิงสาว  คนร้าย จนกลายเป็น เซเล็บ ประทับใจผู้ชม โดยเฉพาะ เปรี้ยวน.ส.ปรียานุช โนนวังชัย

มันเป็นข่าวโด่งดังกลบแทบจะทุกสิ่งในสังคมไทยขณะนี้ แม้กระทั่ง ผบ.ตร. ยังต้องออกมาแถลงผลการสอบสวนด้วยตนเอง ว่าผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าฆ่า น.ส. วาริสรา กลิ่นจุ้ย จริง เนื่องจากต้องการสั่งสอนแก้แค้นที่ถูกผู้ตายซัดทอดว่าสมรู้ในคดียาเสพติดเมื่อปลายปีที่แล้ว

ทั้งฆาตกรและผู้ตายเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน แต่การสั่งสอนด้วยการบีบคอ เลยเถิดไปจนกระทั่ง แอ๋วเหยื่อวัย ๒๒ ปีถึงแก่ความตาย หลังจากเปรี้ยวบันดาลโทสะสุดขีดเมื่อแอ๋วพูดว่า “ถ้ากูไม่ตายมึงก็ตาย” นี่ตามรายละเอียดของข่าวทางสื่อสังคมที่ท่วมท้นอินเตอร์เน็ตตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ส่วนหนึ่งในกระแสคลั่งไปในทางที่ ทั้งทางการและผู้เสพข่าว ‘sensational’ เร้าอารมณ์เช่นนี้ ให้ความสำคัญกับคนร้ายประดุจ คนดังยอดนิยม มีภาพอิริยาบถต่างๆ ของผู้ต้องหาทั้งสามรอการสอบสวนระบาดทั่วสื่อโซเชียล

เรียงหน้ากันอัดบุหรี่บ้าง ต่างคนต่างส่องกระจกแต่งหน้าบ้าง พอกหน้าขาวก่อนนอนห่มผ้าลายสีสันสดใส ที่มีผู้ค้าออนไลน์นำไปใช้โฆษณาสินค้าของตนบ้าง และกิริยาหัวเราะร่ารื่นเริงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีการเปรียบเทียบกับผู้ต้องหาทางความคิด นักโทษ ๑๑๒ โดยเฉพาะคดีของ ไผ่ ดาวดิน

แม้แต่ นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาของไผ่ ดาวดิน ยังอดไม่ได้ที่จะสัพยอกว่า “น่าอิจฉาเปรี้ยวคดีฆ่าหั่นศพ ที่แม้ร้ายแรงแต่สื่อมวลชนทุกแขนงและสังคมทั่วไปใช้คำเรียกอย่างฟุ่มเฟือยว่า น้องเปรี้ยว

รวมทั้ง Ratchaprasong News มีคอมเม้นต์เห็นได้ด้วยภาพจะแจ้ง “Look at the police, they were So Nice to Priew

มันเลยเถิดไปถึงมีคนไปทำภาพกร้าฟฟิคอ้างว่า “นักสิทธิมนุษยชนแนะ สังคมควรให้โอกาสเปรี้ยว” ร้อนถึงนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนต้องโพสต์แก้ข่าว

อยู่ ตปท. ไม่เคยแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์เรื่อง เปรี้ยว เขียนกันซะเป็นตุเป็นตะ ทีงี้กระทรวง ICT หรือ จนท. ทั้งหลาย รวมถึงพวก IO ที่คอยส่องเฟส ส่อง blog จับผิดใครต่อใครไม่เห็นจับคนเขียนข่าวเท็จแบบนี้มั่ง หรือจะปล่อยให้พวกชอบสร้างความเกลียดชังชาวบ้านลอยนวลแบบนี้

เธอลงท้ายด้วยแฮ้สแท็กกินใจ #อยู่ยากขึ้นทุกวัน

ประเทศไทยอาจจะอยู่ยากขึ้นไปอีกสำหรับนักประชาธิปไตย หลังจากที่ คสช. ได้รับความชอบธรรม (แบบมีพระมหากษัตริย์ทรงอำนาจเด็ดขาดในกิจการราชสำนัก และ คสช.มีอำนาจเหลือล้ำแตะเพดานฟ้า) หลังจากมีการเลือกตั้งแล้ววุฒิสภาเห็นชอบให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอกเป็นทหาร

ถึงตอนนั้นไตแลนเดียอาจกลายเป็นมิ่งมิตรสนิทเชื้อกับทั้งจีนและรัสเซีย (นอกเหนือจากพล.อ.ประยุทธ์จะไปใกล้ชิดให้ประธานาธิบดีทรั้มพ์โอบไหล่ ดันหลัง ที่กรุงวอชิงตันเดือนหน้า กำลังลุ้นว่าจะมีสัญญานจากเกาหลีเหนือเมื่อไร)

เพราะตอนนี้คณะกรรมการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ของไทย มีบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MoU) ทางการสื่อสารไซเบอร์ (ระบบโรมมิ่ง) กับรัสเซียไว้แล้ว

มากกว่านั้น “รัฐมนตรีกระทรวงโทรคมนาคมของรัสเซียได้อาสาขอช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับโซเชียลมีเดีย เว็บหาข้อมูล รวมถึงโปรแกรมแชตให้กับประเทศไทย ซึ่งรัสเซียจะถือหุ้น ๔๙% และให้ไทยถือหุ้น ๕๑%...

โดยรัสเซียเองก็ได้พัฒนาโซเชียลมีเดียเพื่อใช้ในประเทศของตัวเอง เช่น Vk.com, OK.ru, Livejournal ส่วนเว็บที่ค้นหาข้อมูลก็มี Yandex.com ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ในยุโรป รัสเซียจึงมีไอเดียที่จะนำโซเชียลมีเดียเหล่านี้มาพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้บริการของไทย...

ก้าวต่อไปหลังจากนี้ กสทช. จะสรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาต่อไป ขณะที่ทางรัสเซียเองก็จะส่งเรื่องไปให้กับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ด้วยเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าผู้นำทั้งสองคนจะได้หารือกันถึงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งในการประชุม APEC ครั้งต่อไป”


นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยเมื่อคำนึงถึงว่า รัฐสภาคองเกรสสหรัฐกำลังอยู่ในระหว่างสืบสวนกรณีแทรกแทรงการเลือกตั้ง โดยกลุ่มแฮ้คเกอร์จากรัสเซียอยู่ขณะนี้

วุฒิสมาชิกม้าร์ค วอร์เนอร์ หนึ่งในกรรมาธิการสืบสวนของสองฝ่าย กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า ถึงแม้จะยังไม่พบกระบอกปืนที่กรุ่นควัน แต่ก็เห็นควันโขมงมากมาย”

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ เจมส์ โคมี่ ให้การต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนฯ ยืนยันว่ามีการทะลวงระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานบริหารพรรคเดโมแครท เพื่อโจมตีการหาเสียงของนางฮิลลารี่ คลินตัน ให้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายนายดอแนลด์ ทรั้มพ์ จริง

ประธานาธิบดี ปูติน เพิ่งออกมาแก้ต่างว่า แฮ็คเกอร์รัสเซียที่แทรกแทรงการเลือกตั้งสหรัฐนั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องกับรัฐบาลกรุงเครมลิน แต่น่าจะเป็นแฮ็คเกอร์ชาวรัสเซียผู้รักชาติ กระทำการส่วนตัวเพื่อโจมตีกลับต่อสหรัฐ

กลุ่มแฮ็คเกอร์รัสเซียที่โจมตีทางการเมืองต่อระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐ อาทิ Fancy Bear, Pawn Storm, และ APT 28. ก็โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ในเยอรมนีและฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ตามรายงานของหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ Trend Micro


อีกทั้งมีหลักฐานรายงานจากอดีตผู้ปฏิบัติงานของสำนักข่าว Russia Today หรือที่รู้จักกว้างขวางในชื่อย่อ ‘RT’ ซึ่งเป็นกิจการสื่อสารสากลที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ ว่ามีการสั่งงานลงมายังผู้ปฏิบัติให้เสนอข่าวบิดเบือนว่า ประเทศเยอรมนีเป็นรัฐล้มเหลว หรือ ‘failed state’


วิธีการของกลุ่มแฮ็คเกอร์และสำนักข่าวอาร์ทีในอันที่จะแพร่ข่าวทางร้าย (จริงบ้างไม่จริงบ้าง) แก่การหาเสียงของนางคลินตัน โดยแฮ็คข้อมูลส่งให้วิกิลี้คนำไปตีพิมพ์

แล้วสื่อฝ่ายขวาจัดกับพวก ‘White Supremacist’ และ ‘White Nationalist’ เช่นสำนักข่าวไบร๊ท์บ้าร์ท’ ‘Breitbart’ ของนาย สตี๊ฟ แบนนอน ที่ปรึกษาพิเศษประจำทำเนียบขาวของประธานาธิบดีทรั้มพ์ ก็นำไปเผยแพร่ต่ออีกที

นี่เป็นวิธีการสร้างอิทธิพลทางมวลชนในประเทศตะวันตกโดยรัสเซีย ที่ก่อผลดีผลร้ายแก่ชาติอื่น อันขัดกับทำนองคลองธรรมในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งอาจอ้างว่ายูซิสและอัลเลออองซ์ เลอ ฟรองแซส เคยทำมาก่อน

แต่มันต่างกันตรงที่สำนักงานข่าวของรัฐบาลสหรัฐและฝรั่งเศสไม่ได้ใช้วิธี แฮ็ค ประเทศที่ตกเป็นเป้า เอาข้อมูลปกปิดของเขาไปประจานโจมตี 

หวังว่า คสช. และกระทรวงดีอีจะเก่งกาจพอสกัดกั้นการโจมตีทางไซเบอร์ของแฮ็คเกอร์รัสเซียได้หากเกิดเหตุร้ายขึ้น หรือไม่ก็โชคดีที่สมองกลของไทยมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรจะให้แฮ็ค