พูดแบบกฤษณาสอนน้อง ก็ต้องว่า ‘ขว้างงูไม่พ้นคอ’ แต่ถ้าจะแย็บแรงๆ ชนิด ‘แตกไม่ต้องเย็บ’ ละก็ เขาว่า ‘แกว่งปากหาเสี้ยน’
เสี้ยนที่มันย้อนมาตำปากตัวเองอย่างที่พลโทห่านอูโดนจากคำพูดที่ว่า “หากเป็นเหตุการณ์ฝนตก ‘น้ำท่วมตามธรรมชาติ’ คงไม่มีใครคิดจะดำเนินคดีใคร
แต่ความบกพร่องในการบริหารจัดการด้วยการระบายน้ำที่ไร้การวางแผน จนเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมขังเป็นเดือน”
(http://www.matichon.co.th/news/296810)
ทำให้คอมเม้นต์ของ Atukkit Sawangsuk เมคเซ้นต์ทันที
“โง่หรือฉลาด ไก่อูเป็นโฆษกรัฐบาล เสือกไปเถียงแทน ปปช.ทำไม
นี่มันเรื่องที่พรรค ปชป.ร้อง ปปช.สอบ รัฐบาลทหารเกี่ยวตรงไหน แต่ไก่อูเผลอรับเองว่าเกี่ยว แล้วจะบอกชาวบ้านได้ไงว่าไม่มีใบสั่ง”
นั่นไงถึงได้ตีกันกรณีน้ำท่วมสมัยรัฐบาล คสช. ไล่จากภาคเหนือและอีสานตอนใต้เข้าอยุธยาวันวาน วันนี้ถึงดอนเมืองเจิ่งท่วมล้อเครื่องบิน ก็คงเป็นท่วมตามธรรมชาติที่ไม่ต้องวางแผน แค่รอระบายละสิ
ส่วนการบริหารจัดการแบบอุโมงก์ยักษ์ตันเอย เครื่องสูบไม่ทำงานเอย นี่ใครวางแผน แล้วใครล่ะที่ลงพื้นที่บริหารจัดการเคียงข้างยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่ ผบ.ทบ. พี่ของพ่อปฐมพลละหรือ
พูดถึงพี่เขย ‘พระนางผ่องพรรณสันฝาย’ (ขมายจากเร็ดอูสาเอามาใช้) นี่ก็เป็นพ่องแบบวิธีการพูดของห่านอูอยู่เหมือนกัน
“นายกฯ ห่วงน้องชาย ‘ปรีชา’ ปมฝายแม่ผ่องพรรณ-ลูกประมูลงานทัพภาค ๓ ให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการ แต่ไม่ขอรับประกันแทน เจ้าตัวต้องรับผิดชอบเอง
วอนอย่านำมาเป็นประเด็นว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย ลั่นไม่ทำตัวเหมือนบางคนไม่ยอมรับกฎหมาย”
อันนี้คัดมาจาก BLUESKY Channel ช่องนี้เขาว่านอนสอนง่าย ลงแต่ที่มันดูดีสำหรับทั่นผู้นัมพ์เท่านั้น แต่เนื้อถ้อยกระแนะกระแหนรัฐบาลก่อนมีมากกว่านี้ ต้องดูที่มติชน http://www.matichon.co.th/news/297410
“แล้วคุณห่วงน้อง ห่วงญาติพี่น้องคุณหรือไม่ และเรื่องที่ถูกโจมตีเหล่านั้นจริงหรือเปล่า พิสูจน์หรือยังว่ามันผิด”
มิใยที่น้องของพี่ที่ต้องห่วงเหมือนกัน Yingluck Shinawatra ครวญว่า
“ก็อยากให้นายกฯ ใช้หลักคิดและให้ความเป็นธรรมกับดิฉัน เหมือนที่ท่านให้ความเป็นธรรมและปกป้องน้องชายท่าน รวมทั้งคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกเดียวกับท่าน เพราะ กม.มีไว้บังคับใช้กับทุกคนไม่ใช่เลือกปฏิบัติกับฝั่งดิฉันเพียงฝ่ายเดียว”
ก็เลยมีคนเขาเอาไปภาพใหม่ เปลี่ยนหน้าคนพูดให้ดูซิว่า จะรู้สึกกันอย่างไร
กลับมาที่การบริหารจัดการน้ำท่วม ‘ตามธรรมชาติ’ ของรัฐบาล คสช. ขณะนี้ งานชิ้นแรกได้ผลออกมาแล้ว
สวนดุสิตโพล “เผยประชาชนร้อยละ ๕๘.๓๙% เชื่อมั่นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ‘ป้องกัน’ สถานการณ์น้ำท่วมได้ หลังได้รับบทเรียนจากครั้งที่ผ่านมา”
ที่จริงแค่ ‘ค่อนข้างมั่นใจ’ แต่ว่า http://news.voicetv.co.th/thailand/415212.htmlพาดหัวล้ำหน้าไปนิด
หากประเด็นน่าสนใจยิ่งกว่า จากการตอบข้อซักถามโดยตัวอย่างสุ่ม ๑,๓๐๔ คน “อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างไร”
๘๒.๑๔ เปอร์เซ็นต์บอกว่า “ต้องวางแผน ‘ป้องกัน’ ระยะยาว มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี มีพื้นที่รองรับน้ำเพียงพอ”
แล้วไอ้การป้องกันระยะยาวอยู่ที่ไหน สถานการณ์น้ำรอระบายมากเกินไปเกือบทั่วประเทศตลอดสองอาทิตย์มานี่เป็นไปตามธรรมชาติละหรือ
กระทั่งชาวบ้านต้องหันไปหาอารมณ์ขัน คิดค้นข้อความ sarcastic เซี้ยวๆ ออกมาให้อ่านแล้วยิ้มได้กันบ้าง ขื่นๆ
“ไปเที่ยวทะเลกรุงเทพฯ ไปนอนเล่นที่หาดรัชดา เที่ยวเกาะศาลอาญา ล่องทะเลสาบลาดพร้าว ชมอ่าวรามอินทรา ตามหาอุโมงก์ยักษ์ แวะพักเขื่อนพหลโยธิน”
แว่วว่ารัฐบาลของห่านอูรู้ดีมีวิธีแยบยลจัดหา “พื้นที่รองรับน้ำให้เพียงพอ” มาเป็นอาทิตย์แล้ว คือเร่งปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเพื่อเปิดพื้นที่รองรับนั่นหละ เขาว่าวันนี้น้ำถึงเข้าถึงอยุธยาและดอนเมือง
เนื่องจาก ‘รอยล’ (จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) เตือนไว้ ‘มีพายุเข้าไทยอีก ๕ ลูก’
(http://www.topicza.com/news15821.html?f=10797)
“โดยมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ๓ ลูก มีพายุ ๒ ลูก มาช่วงใกล้ๆ กันในช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งสถานการณ์ฝนจะคล้ายกับปี ๒๕๔๑ ที่มีฤดูฝนยาวไปถึงเดือนพฤศจิกายน เข้าสู่ภาวะ ‘ลานินญ่า’
และขอให้เตรียมรับมือเฝ้าระวังน้ำท่วมช่วงปลายเดือนกันยายนต่อต้นเดือนตุลาคม” ตอนนี้แหละ
และไม่ใช่น้ำท่วมตามธรรมชาตินะห่านอู เพราะครั้งก่อนมันเกิดเมื่อ ๑๘ ปีที่แล้ว
ฉะนั้น จะพูดจะจาอะไร อย่าสักแต่ว่าทำเสียงพ่นออกมาจากรูปากได้เหมือนผีเจาะ คำพูดไม่เพียงเป็นนายตนเอง แต่มันทำให้หนังหน้าของนายแตกระแหงได้