วันพฤหัสบดี, กันยายน 29, 2559

Reality check + Reality felt คำพูดประยุทธ์





Reality checked: “ยืนยันว่าตนจะอยู่จนถึงมีรัฐบาลใหม่ มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อถึงวันนั้นตนจะไปทันที

แต่อย่าลืมว่าแม้ตนจะไปแล้วก็ยังมีคำสั่งตามมาตรา ๔๔ ร้อยกว่าฉบับที่ยังคงอยู่ อีกทั้งยังมีแนวทางปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้รัฐบาลต่อไปทำตามโรดแมปและหากไม่ทำตามแล้วจะทำอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เพราะมีกฎหมายลูกที่บัญญัติไว้ รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีด้วย”

ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ตอบนักข่าวที่โรงแรมเซ็นทาร่าแกรนด์เมื่อวานนี้ (๒๘ ก.ย.)

(http://www.matichon.co.th/news/302003)

Reality double-checked: “ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง กรธ.แก้ร่างรัฐธรรมนูญให้เลือกนายกฯ คนนอกไม่จำกัดครั้ง ให้ ส.ว.ร่วมตัดสินใจเพื่อเปิดทางนายกฯ คนนอก”

เป็นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งประกาศหมาดๆ เมื่อวานเช่นกัน กรณีกรรมการร่าง รธน. ได้แก้ไขร่างฯ ให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงตามที่ประชามติรับรองหรือไม่

“จากเดิมร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นหน้าที่ของส.ส.ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งสภามีอำนาจริเริ่มเสนอให้มีนายกฯ ที่่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้ไขไม่สอดคล้องกับผลประชามติ โดยให้การเริ่มตัดสินใจว่าจะมีนายกฯ คนนอก หรือไม่ เป็นหน้าที่ของส.ว.รวมกับส.ส.ไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกทั้งหมด

จากเดิมร่างรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๗๒ กำหนดให้การเลือกนายกฯ คนนอกสามารถเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในวาระเริ่มแรกหลังการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกเท่านั้น แต่ศาลรัฐธรรมนูญให้เปลี่ยนเป็น จะเลือกนายกฯ คนนอกกี่คนก็ได้ ภายในระยะเวลา ๕ ปีแรก”

“ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการออกเสียงประชามติ ดังที่ประชาชนได้ให้ความเห็นชอบไว้

เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีเข้ามาทำหน้าที่บริหารราชการในช่วงเวลาเดียวกัน และเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านต่างๆ สำเร็จ และบรรลุผลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและเจตนารมณ์ที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ”

(https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551.646424.299528675550/10157456578195551/?type=3&theater)

นั่นทำให้สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์ ที่ ‘คมชัดลึก’ ฟันธงว่า “ฉะนั้นที่เคยคิดกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกฯ อีกสมัยหลังการเลือกตั้ง ตอนนี้ต้องคิดใหม่

เพราะ ‘บิ๊กตู่’ สามารถเป็น ‘นายกฯ คนนอก’ ได้อีก ๒ สมัยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ”

(http://www.komchadluek.net/news/scoop/244131)

ทั้งหมดนี้คือความเป็นจริงล้วนๆ จากผลพวงของการที่ประชามติเมื่อ ๗ สิงหาคมให้ความเห็นชอบอย่างขาดลอยต่อร่าง รธน. ฉบับที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นผู้ควบคุมการร่าง แถมด้วยการให้ความเห็นชอบต่อคำถามพ่วงที่ คสช. ยัดไส้ไว้ด้วย

โดยที่ ‘iLaw’ ประเมินว่า “จะทำให้โรดแมปเดิมของ คสช.จะเลื่อนออกไป ร่างรัฐธรรมนูญจะประกาศใช้เป็นทางการอย่างช้าน่าจะช่วงเดือนพฤศจิกายน และการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็จะเริ่มขึ้นเช่นกัน

ส่วนการเลือกตั้งทั่วไปก็น่าจะเกิดอย่างช้าก็เดือนมีนาคม ๒๕๖๑”

อันนี้สำหรับผู้ที่โหวตเยส all the way ให้กาอะไรเอาทั้งนั้น หวังว่าจะได้เลือกตั้งเสียที แม้ว่า กกต. จะพยายามทำตัวให้มีคุณค่า เปรยไว้ว่าการเลือกตั้งน่าจะมีได้ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๐

เมินเสียเถอะ ‘ลุงตูบ’ ของแม่ยก ดีดปาก กกต.เสียจนเลือดกบไปแล้ว “เป็นเรื่องของ กกต.คิดไป ผมมีโร้ดแม็พของผม ส่วนวันเลือกตั้งไม่รู้

ไม่ใช่หน้าที่ กกต. พูดมาก คนละเรื่อง หน้าที่เขาจัดเมื่อไหร่ก็จัดไป ไม่ใช่หน้าที่มากำหนดรัฐบาลทำนี่ ทำโน่น มันไม่ใช่หน้าที่ ทำงานในหน้าที่เสียหน่อย ดีแต่พูดกันทั้งนั้นแหล่ะ”

(http://www.matichon.co.th/news/300721)





Reality felt: ขณะเดียวกันปฏิบัติการกำจัดขวากหนามที่อาจหาญออกมาทัดทานอำนาจเผด็จการ ในหมู่ผู้รณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนก็ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น

เมื่อวานเจ้าหน้าที่ของแอมเนสตี้อินเตอร์แน้ทชั่นแนล ถูกพนักงานกระทรวงแรงงานข่มขู่จะดำเนินคดี ในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศ จากการที่พวกเขาเดินทางจากอังกฤษไปร่วมแถลงข่าวและบรรยายเรื่องการทรมานผู้ต้องขังในประเทศไทย

วันก่อนทนายความสิทธิมนุษยชนไทย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นฟ้องข้อหาบ่อนทำลาย (ม.๑๑๖) เพิ่มอีกเป็นคดีที่สาม อันเนื่องมาจากการที่เธอให้ความช่วยเหลือปกป้องสิทธิตามกฎหมายแก่กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ และแจ้งความเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการที่ตำรวจยึดรถของเธอไว้ข้ามคืน






น.ส.ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ถูกกล่าวหาโดย พ.ท.พงศฤทธิ์ ภวังคะนันท์ ว่าฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ ๓/๒๕๕๘ ข้อ ๑๒ ว่า “ร่วมกันยุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๖ และร่วมชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ ๕ คน ขึ้นไป” พร้อมกับนายรังสิมันต์ โรม ที่เธอให้ความช่วยเหลือ

(http://www.prachatai.com/journal/2016/09/68112)

นี่คือความเป็นจริงที่ไม่เพียงสัมผัสได้ แต่มันถาโถมกระแทกใส่กับผู้ที่รณรงค์เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนไม่หยุดยั้ง

คำพูดอย่างถากถางของประยุทธ์ที่ว่า ยังมีคำสั่งของตนอีกเป็นร้อยๆ ฉบับ สำหรับใครๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการครองเมืองของทหาร เป็นความจริงเฉพาะหน้าที่จะต้องปะทะกันอีกเป็นเวลาเนิ่นนาน

มันจริงยิ่งกว่าความหวังในชัยชนะเลือกตั้งอย่างกระท่อนกระแท่นในต้นปี ๒๕๖๑ หรือเมื่อไหร่ไม่รู้แน่ เป็นไหนๆ