วันศุกร์, มกราคม 15, 2559

ลักษะการทำงานของคนไทย ในสายตาของเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่น




โดย วิรุณรัช
ที่มา เวป Marumura

อาทิตย์นี้มีโอกาสได้กินข้าวเมาท์มอยกับ ทาคูมิ (นามสมมุติ) หนุ่มหล่อชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งถูกส่งจากบริษัทแม่มาทำงานที่ไทยได้ราว 1 ปี และเพื่อนของเขาอีกคนที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นในไทยได้ราว 3 ปี จึงได้มีโอกาสสอบถามว่าคนญี่ปุ่นทำงานกับคนไทยรู้สึกว่าคนไทยมีลักษะการทำงานอย่างไร คำตอบที่ได้มาก็แปลกใจเล็กน้อยค่ะ ฮ่าๆๆ เท่าที่สรุปความได้เป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

1) คนไทยใจดีมีน้ำใจและขี้เกรงใจ ซึ่งในส่วนนี้คนญี่ปุ่นคิดว่าทำงานกับคนไทยแล้วสบายใจดี ไม่ซีเรียสเคร่งเครียดมากเหมือนทำงานกับคนญี่ปุ่น คนไทยยังใจดีชอบแจกขนม ให้ของฝาก ซึ่งคนญี่ปุ่นชื่นชม แต่บางครั้งความเกรงใจของคนไทยทำให้คนไทยไม่กล้ามีปากมีเสียงและไม่กล้าแสดงความคิดเห็นสักเท่าไร ทั้งๆ ที่คนไทยก็มีความคิดดีๆ เช่นกัน

คนไทยมักจะทำงานตามที่บอกให้ทำ ข้อดีก็คือเชื่อฟังคำสั่ง แต่ในทางตรงกันข้ามก็ไม่ค่อยจะคิดเริ่มทำอะไรต่างๆ ด้วยตัวเอง (อันนี้ฟังแล้วแอบเซ็งในฐานะคนไทย) นอกจากนี้บางครั้งพอเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่กล้ารายงานแต่กลับปกปิดเอาไว้ แล้วค่อยมาบอกทีหลังตอนที่กลายเป็นปัญหาใหญ่แล้ว หรือบางทีงานเยอะเกินไปทำเสร็จไม่ทันเวลาก็ไม่กล้าบอกว่าทำไม่ทัน จนเลยเวลาที่จะต้องส่งงานแล้วค่อยมาบอก

2) คนไทยสุภาพอ่อนน้อมแต่ไม่ค่อยสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา คนไทยพูดเพราะ สุภาพอ่อนน้อม แต่บางทีคนญี่ปุ่นมีปัญหาในการสื่อสารกับคนไทยเพราะคนไทยไม่ค่อยบอกสิ่งที่คิดตรงๆ เช่น เวลาอธิบายงานก็ไม่บอกว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ บางทีหากไม่เข้าใจก็จะไม่กล้าถามทำให้ทำงานออกมาแล้วอาจไปในคนละทิศละทางกับที่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะความไม่เข้าใจนั่นเอง

แล้วอีกอย่างหนึ่งที่คนญี่ปุ่นเล่าก็คือ เป็นการยากหากจะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคนไทยหรือกล่าวตักเตือนตรงๆ เพราะคนไทยรับไม่ค่อยได้และเซนซิทีฟมากกว่าคนญี่ปุ่น ในทางกลับกันคนญี่ปุ่นมักจะรายงานความคืบหน้าในงานให้เจ้านายรับทราบโดยไม่ต้องรอให้ถาม ซึ่งคนญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นลูกน้องระดับไหนจะปรึกษาหารือกับเจ้านาย และจะต้องทำรายงานข้อเสนอแนะความคิดเห็นให้เจ้านายเป็นระยะๆ

3) คนไทยมีทัศนคติต่อการทำงานต่างกับคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมองว่าคนไทยทำงานสบายๆ และชอบความสนุกสนาน เฮฮา ในขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นมองว่าคนไทยทำงานไม่กระตือรือร้นเท่าคนญี่ปุ่น และมองว่าความรับผิดชอบในการทำงานนั้นไม่เท่ากับคนญี่ปุ่น หากมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นหรือมีเรื่องที่มีความเร่งด่วน เช่น ส่งสินค้าไม่ทัน หรือมีปัญหาด้านคุณภาพ คนไทยก็จะมีแอคชั่นในการแก้ปัญหาช้ากว่า

นอกจากนี้ในเรื่องการบริการ คนญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้ามากกว่าคนไทยมาก แบบว่าบริการทุ่มเทสุดชีวิตและจิตใจ อีกอย่างคือ หากต้องติดต่อทั้งลูกค้าและซัพพลายเออร์ คนไทยอาจคิดว่าลูกค้าสำคัญกว่าและสามารถเหวี่ยงใส่ซัพพลายเออร์ได้ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นลูกค้าหรือซัพพลายเออร์มีความสำคัญเท่าๆ กันเพราะถือว่าทั้งสองเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ

อีกอย่างที่พ่อหนุ่มทาคูมิคอมเมนท์มาอีกข้อคือ เขาคิดว่าคนไทยลาหยุดบ่อยมากๆ ส่วนใหญ่ลาป่วย เป็นไข้ ท้องเสีย ไม่สบาย ปวดหัว ตัวร้อน ฯลฯ ซึ่งโดยปรกติคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยลา ข้อนี้ดิฉันคิดว่าเพราะคนไทยหลายๆ คนไม่ได้ทำงานที่ใดที่หนึ่งนานเท่าคนญี่ปุ่นด้วย จึงทำให้อารมณ์ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบริษัทมีน้อยกว่าคนญี่ปุ่นที่มองว่างานและชีวิตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและต้องร่วมรับผิดชอบต่อบริษัท

4) คนไทยเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน
คนไทยโดยส่วนใหญ่ในบริษัทมีความสนิทสนมกัน แต่คนญี่ปุ่นพบปัญหาการเมืองภายใน เพราะมีคนไทยหลายๆ คนที่มีความขัดแย้งส่วนตัวกัน ในออฟฟิสยังมีการแบ่งกันเป็นกลุ่มก้อนและทำให้ไม่สามารถร่วมทำงานกันเป็นทีมได้ บางทียังมีการหยิบเอาเรื่องส่วนตัวของเพื่อนร่วมงานมานินทาจนทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งภายในองค์กร

5) คนไทยอาจมองว่าคนญี่ปุ่นละเอียดเรื่องมาก บางทีไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องทำข้อมูลละเอียด ทำให้คนไทยรู้สึกไม่ชอบหรือรำคาญ เช่น เวลาขอข้อมูลการประชุมต่างๆจากคนไทย คนญี่ปุ่นต้องการตัวเลขที่ชัดเจนและละเอียดมากที่สุด บางครั้งเมื่อเกิดภาวะวิกฤตขึ้น เช่น เสื้อแดงประท้วง เสื้อเหลืองปิดสนามบิน น้ำท่วม ฯลฯ คนญี่ปุ่นมีมาตรการให้ทำรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเป็นรายวันเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น แต่คนไทยจะไม่ค่อยชอบเพราะเป็นการเพิ่มความผิดชอบ คนญี่ปุ่นบอกว่าคนไทยมักจะยึดติดกับความเคยชินแบบเดิมๆ เคยทำมาอย่างไรก็จะทำอยู่อย่างนั้น ไม่อยากจะเปลี่ยนแปลง

ที่แอบขำคือ เขาบอกว่าเขาแปลกใจว่าพนักงานคนไทยกินเยอะมาก กินขนมตลอดเวลา บางครั้งยังกินอาหารเช้าบนโต๊ะทำงาน ดิฉันจึงอธิบายให้ฟังว่าอันนี้ขึ้นอยู่กับกฏของแต่ละบริษัท เพราะบางบริษัทก็ห้ามไม่ให้พนักงานกินในออฟฟิสเลย ทาคุมิยังบอกว่าคนไทยคุยกันเสียงดัง เมื่อเทียบกับคนญี่ปุ่น (ออฟฟิสที่ญี่ปุ่นเงียบมากค่ะ เงียบจนได้ยินเสียงหายใจตัวเอง)

สิ่งที่เล่าให้ฟังเป็นเพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัวซึ่งอาจเป็นความจริงอยู่บ้าง ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูแล้วกันนะคะ

เรื่องโดย : วิรุณรัช www.marumura.com
ขอบคุณรูปภาพ : -http://www.japanfs.org/en/news/archives/news_id035027.html

เรื่องที่เกี่ยวข้อง>>
ประชุมสุมหัว
ฝึกฝนใส่ใจเรียนญี่ปุ่นในไทยก็ใช้งานได้
“ล่าม” สื่อกลางประสานใจ
สัมภาษณ์ยังไงให้ได้งานญี่ปุ่น
อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่นไหมคะ
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 10 โรคเดือน 5 五月病
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 9 การรับประทานอาหาร Kaiseki อย่างถูกต้อง
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 8 การใช้ตะเกียบที่ถูกต้อง
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 7 มารยาทในร้านอาหารญี่ปุ่น
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 6 ลำดับที่นั่ง
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 5 การเยี่ยมลูกค้า
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 4 มารยาทในการต้อนรับแขกที่มาเยือน
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 3 การแลกนามบัตร
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 2 การโค้งคำนับ お辞儀 (Ojigi)
เคล็ด (ไม่) ลับทำงานกับญี่ปุ่น ตอนที่ 1 กล่าวคำทักทาย