วันเสาร์, มกราคม 16, 2559

กำลังใจให้ยิ่งลักษณ์...




กำลังใจให้ยิ่งลักษณ์...
ขึ้นศาลเรื่องจำนำข้าววันนี้

1.ทำดี ย่อมได้ดี มีคนเห็น
ชาวนาพ้น จากลำเค็ญ เป็นสดใส
กระดูกสันหลัง จะแข็งแกร่ง ทุกแห่งไป
ด้วยน้ำใจ อันงดงาม ด้วยศรัทธา

2.เป็นกำลังใจ ให้คน ที่ทำดี
คนจน ทั่วปฐพี พร้อมเดินหน้า
เคียงคู่ค้ำ เป็นกำแพง ให้พึ่งพา
มิเกรงกลัว เมื่อภัยมา ท้าอธรรม

3.มอบดอกไม้ พวงมาลัย ไว้แทบตัก
ให้คนชื่อ"ยิ่งลักษณ์"อย่าระส่ำ
ผลทำดี ย่อมส่งผล การกระทำ
ให้ผ่านพ้น วิบากกรรม อย่างแน่นอน....

กวีศรีราษฎร
อดิศร เพียงเกษ
15 มกราคม 2559
6.47 น.
...

ทำไมเห็นใจ “ยิ่งลักษณ์” - บีบีซีไทย

https://www.youtube.com/watch?v=IssnVHc8dPY

BBC Thai

Published on Jan 15, 2016

วันนี้ (15 ม.ค.) น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแ­หน่งทางการเมือง เพื่อรับฟังการไต่สวนพยานโจทก์ในคดีที่อัย­การสูงสุด ฟ้อง น.ส. ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ในคดีที่กล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้า­ที่ราชการ กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงก­ารรับจำนำข้าว โดยมีประชาชนราว 100 คนเดินทางไปให้กำลังใจ

ในเวลาเดียวกันมีผู้แสดงความเห็นทางหน้าเฟ­ซบุ๊กตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินคดีนี้ว่าม­ีเป้าหมายทางการเมือง มากกว่าประเด็นทุจริต อย่างไรก็ตาม หลายความเห็นมีมุมมองตรงกันข้ามและเชื่อว่­าอดีตนายกรัฐมนตรีนั้นฉวยประโยชน์จากการนำ­เสนอนโยบายเอาใจเกษตรกร ขณะที่บางความเห็น ชี้ว่าความผิดจากการดำเนินนโยบายควรเป็นเร­ื่องของความรับผิดทางการเมือง ตามกลไกรัฐสภา และปล่อยให้ประชาชนได้ลงโทษนักการเมืองผ่า­นการเลือกตั้ง แฟนเพจบีบีซีไทยบางท่านตั้งคำถามว่า “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ “ชอบอ้างชาวนา เงินที่ขาดทุนมากกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท ถึงชาวนาประมาณครึ่งเดียว ที่เหลือตกไปที่ พ่อค่าข้าว โรงสี โกดัง ..... แบบนี้เขาเรียกว่า หากินกับชาวนาหรือเปล่า?” บางท่านยังเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรได้รับผลที่ทำไป และเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดช­อบในตำแหน่งหน้าที่ ขณะที่บางท่านเห็นว่า “ความผิดของคดีที่เกี่ยวกับการเมืองมีคดีไ­หนบ้างที่จะมีการยอมรับผิด....ไม่มีเด็ดขา­ดไห้ตายยังไงก็ไม่ยอมรับ” เป็นต้น

สมัครเป็นสมาชิกบีบีซีไทยยูทูปได้ที่ http://bbc.in/1MRpwBl
ติดตามเฟซบุ๊กบีบีซีไทยได้ที่ https://www.facebook.com/BBCThai

ooo





ที่มา BBC Thai

เริ่มการไต่สวนคดีจำนำข้าว

บรรยากาศการไต่สวนที่ห้องพิจารณาคดี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันนี้ คณะตุลาการ 9 คนออกนั่งบัลลังก์ และเริ่มการไต่สวนพยานโจกท์ในเวลา 10.00 น. พยานโจทก์ 2 ปากแรกให้การ ด้านยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนพยานจำเลยจะเริ่มไต่สวนในเดือน เมษายน

สำหรับบรรยากาศภายนอกห้องพิจารณาคดี ประชาชนที่มารอให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรียังคงรออยู่รอบบริเวณศาล

ช่วงเช้ามีการเบิกพยานโจทก์ 2 ปาก โดยมีนายนพดล ทิพยวาน บรรณาธิการช่าวการเมืองของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ขึ้นให้การเป็นพยานปากแรก และทนายจำเลยเป็นผู้ซักค้าน โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ที่ซักค้านเกี่ยวกับความถูกต้องแม่นยำของการรายงานข่าวการเมืองที่อยู่ภายใต้การดูแลของนายนพดล โดยเฉพาะกรณีนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการระบายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือจีทูจีในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และซักถามถึงหลักการในการรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่จะต้องมีการสรุปความ ย่นย่อ หรือตัดทอนคำสัมภาษณ์เนื่องจากข้อจำกัดของช่วงเวลาในการออกอากาศ รายงานข่าวการเมืองของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เกี่ยวกับการรับจำนำข้าวถูกใช้เป็นหลักฐานของอัยการในการพิจารณาสั่งฟ้องคดีต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย สำหรับการซักค้านพยานโจทก์ปากแรกใช้เวลาราว 30 นาที

จากนั้นมีการเบิกตัว มีการเบิกตัวนายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ขึ้นให้การเป็นพยานโจทก์ปากที่สอง ประเด็นที่พยานจำเลยซักค้าน ส่วนใหญ่เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างการรับจำนำข้าวกับการประกันราคาข้าว และงานวิจัยโครงการรับจำนำข้าวที่นายนิพนธ์เป็นหัวหน้าโครงการ รวมถึงความเชื่อมโยงของนายนิพนธ์กับ ปปช.และรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ในช่วงเช้า พยานจำเลยสามารถซักค้านได้เพียง 36 คำถาม จากทั้งหมดราว 160 คำถาม เนื่องจากมีคำถามเป็นจำนวน มากนายนิพนธ์จึงขอให้ทนายจำเลยรวบรวมคำถามที่ใกล้เคียงกันถามในครั้งเดียว เพื่อเป็นการลดเวลาในการไต่สวนคดี ซึ่งคณะตุลาการเห็นด้วยและเสนอให้ทนายฝ่ายจำเลยรวบรวมคำถามและตัดคำถามที่ซ้ำซ้อนออกไป ก่อนจะสั่งพักการไต่สวนในช่วงเช้า

ตามกำหนดการช่วงบ่าย การซักพยานจะเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 16.00 น.

คดีนี้จะมีการไต่สวนทั้งสิ้น 21 นัด โดยพยานที่จะให้การในศาลมีทั้งสิ้น 56 ปาก แบ่งเป็นพยานโจทก์ 14 ปาก และพยานจำเลย 42 ปาก คาดว่าน่าจะมีการตัดสินคดีภายในปลายปีนี้

...

ภาพจากมิตรสหายท่านหนึ่ง