แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ฉบับที่ 3
"ให้ยุติการดำเนินคดีนักศึกษาประชาชนผู้ตรวจสอบการทุจริตอุทยานราชภักดิ์"
สืบเนื่องจากการที่นักศึกษาและประชาชนได้เดินทางด้วยรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารขัดขวาง ควบคุมตัว และดำเนินคดีในข้อหาละเมิดคำสั่ง คสช. โดยล่าสุดได้มีการออกหมายจับนักศึกษาและประชาชนจำนวน 6 คนที่ไม่ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองมีความเห็นและข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลและ คสช. ดังนี้
1. การตรวจสอบการทุจริตในโครงการรัฐเป็นการใช้สิทธิพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะในกรณีอุทยานราชภักดิ์ที่การตรวจสอบมีแนวโน้มจะถูกแทรกแซงและไม่โปร่งใส การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบของพลเมืองยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น ฉะนั้น แทนที่จะขัดขวางและดำเนินคดีกับนักศึกษาและประชาชนเหล่านี้ รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนพวกเขาหากมุ่งมั่นที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชันจริง
2. คำสั่ง คสช. เป็นผลพวงของรัฐประหารที่เป็นการฉีกรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงขาดความชอบธรรมที่จะนำมาบังคับใช้และเอาผิดกับผู้ไม่ปฏิบัติตาม โดยเฉพาะในกรณีผู้โดยสารรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์ที่มิได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่บุคคลหรือสังคมแต่อย่างใด การบังคับใช้คำสั่ง คสช. จึงยิ่งขาดความชอบธรรมเป็นทบทวี
3. รัฐบาลและ คสช. ต้องยุติการฟ้องร้องดำเนินคดีนักศึกษาและประชาชนที่โดยสารรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์โดยไม่มีเงื่อนไขในทันที พร้อมกับเร่งดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์โดยอาศัยองค์กรและกระบวนการที่โปร่งใสและเชื่อถือได้
ทั้งนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากรัฐบาลและ คสช. ไม่ปฏิบัติตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือมีการจับกุมนักศึกษาและประชาชนตามหมายจับ เครือข่ายนักวิชาการฯ จะดำเนินการคัดค้านตามสิทธิพลเมืองอย่างถึงที่สุด
ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง
15 มกราคม 2559
ขอบคุณภาพจากประชาไท
สืบเนื่องจากการที่นักศึกษาและประชาชนได้เดินทางด้วยรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารขัดขวาง ควบคุมตัว และดำเนินคดีในข้อหาละเมิดคำสั่ง คสช. โดยล่าสุดได้มีการออกหมายจับนักศึกษาและประชาชนจำนวน 6 คนที่ไม่ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองมีความเห็นและข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลและ คสช. ดังนี้
1. การตรวจสอบการทุจริตในโครงการรัฐเป็นการใช้สิทธิพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะในกรณีอุทยานราชภักดิ์ที่การตรวจสอบมีแนวโน้มจะถูกแทรกแซงและไม่โปร่งใส การมีส่วนร่วมในการตรวจสอบของพลเมืองยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น ฉะนั้น แทนที่จะขัดขวางและดำเนินคดีกับนักศึกษาและประชาชนเหล่านี้ รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนพวกเขาหากมุ่งมั่นที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชันจริง
2. คำสั่ง คสช. เป็นผลพวงของรัฐประหารที่เป็นการฉีกรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงขาดความชอบธรรมที่จะนำมาบังคับใช้และเอาผิดกับผู้ไม่ปฏิบัติตาม โดยเฉพาะในกรณีผู้โดยสารรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์ที่มิได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่บุคคลหรือสังคมแต่อย่างใด การบังคับใช้คำสั่ง คสช. จึงยิ่งขาดความชอบธรรมเป็นทบทวี
3. รัฐบาลและ คสช. ต้องยุติการฟ้องร้องดำเนินคดีนักศึกษาและประชาชนที่โดยสารรถไฟไปยังอุทยานราชภักดิ์โดยไม่มีเงื่อนไขในทันที พร้อมกับเร่งดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์โดยอาศัยองค์กรและกระบวนการที่โปร่งใสและเชื่อถือได้
ทั้งนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากรัฐบาลและ คสช. ไม่ปฏิบัติตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือมีการจับกุมนักศึกษาและประชาชนตามหมายจับ เครือข่ายนักวิชาการฯ จะดำเนินการคัดค้านตามสิทธิพลเมืองอย่างถึงที่สุด
ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง
15 มกราคม 2559
ขอบคุณภาพจากประชาไท