เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว รธน. ใหม่ฉบับ ‘มีชัย’ ๒๖๑ มาตรา ขาดแต่บทเฉพาะกาล
ใครจะเรียกว่าฉบับ ‘ยาพิษ’ ‘กุญแจล็อกเจ็ดชั้น’ ‘กดหัวประชาชน’ หรือ ‘ไดโนเสาร์’ เราก็ยังเรียกฉบับ ‘มีชัย’ (ไม่คอนด้อม)
(ตรงนี้อธิบายหน่อย ‘มีชัย คอนด้อม’ นั่นดังในยุคเซเว่นตี้ส์ คือ มีชัย วีระไวทยะ ผู้แนะนำถุงยางอนามัยให้แก่สังคมไทย ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า ‘ปลอก’
ส่วนมีชัยคนนี้ตอนเซเว่นตี้ส์ไม่รู้เคย ‘ปลอก’ หรือเปล่า แต่เขาไม่เกี่ยวกับการคุมกำเนิด จึงต้องมีนขลิขิตต่อท้าย แค่นั้นแหละ)
การ์ตูนเซีย ไทยรัฐงวดวันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม เขียน-วาดถึงร่างรัฐธรรมนูญบับใหม่ไว้ว่า
“วิตถาร ซาดิสต์ ยาพิษร้าย หวังทำลาย พรรคการเมือง เรื่องบัดสี ถ้าตรงไปตรงมา ถือว่าดี แต่พวกนี้ ล้วนตั้งธง ก่อสงคราม
ไหนว่าจะ แน่วแน่ แก้ปัญหา ขอเวลา คืนความสุข สนุกพล่าม หลอกประชา ทุกเช้าเย็น เห็นดีงาม ไหนว่าจะ มุ่งทำตาม คำสัญญา
บทสุดท้าย เพียงทำได้ ไล่กดหัว แค่ฝั่งตัว ได้สุขสันต์ กันถ้วนหน้า เกมบัดซบ หวังดึงยื้อ ซื้อเวลา หวังต้อนฆ่า ให้กระอัก นักการเมือง
เติมซาดิสต์ วิตถาร สามานย์หนัก ไม่เหลือรัก ตามหวัง ทั้งแดงเหลือง อนาคต มืดมน ทนฝืดเคือง เหลือแค่เรื่อง ลุกขึ้นมา ฆ่ากันเอง”
ส่วน ‘แม่ลูกจันทร์’ สำนักเดียวกัน “ชี้ว่าการที่ อจ.มีชัย ใส่กุญแจล็อก ๗ ชั้น ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญยากที่สุดหรือแก้ไม่ได้เลย...กลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องจอดป้ายกลางทาง”
ชูพงศ์ มณีน้อย นักเขียนเก่าแก่วัยรุ่นตอนยุคซิกตี้ส์ สรุปว่า “กลุ่มคนที่ยังก้ำๆ กึ่งๆ จะให้ผ่านดีหรือไม่ผ่านดี ไม่กล้าลงประชามติเห็นชอบ”
จอดจริงไม่จริงยังไม่รู้ หากว่านี่ละ ‘เทร็นด์’ เช่นที่มีการ์ตูนอีกชิ้นวาดรัฐธรรมนูญมีชัยไว้แหลกราญ “คิดแต่จะลิดรอนและเหยียบกดหัวประชาชนให้อ่อนแออยู่ร่ำไป”
หรือมองตามสัจจธรรมที่อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปท่านหนึ่ง “เห็นได้ชัด ว่าอำนาจทุกอย่างได้ถูกวางไว้ที่องค์กรอิสระ ยิ่งการนำการวินิจฉัยประเพณีการปกครองตามมาตรา ๗ เดิม ไปอยู่ในหมวดของศาลรัฐธรรมนูญ จะยิ่งทำให้ประเทศนี้ถูกปกครองโดยคนเพียง ๙ คนเท่านั้น”
นายทิวา การกระสัง สปช. จังหวัดบุรีรัมภ์ชี้ว่า “เพราะการให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญตามร่างฉบับนั้น จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถตรวจสอบได้ทุกองค์กร ก้าวก่ายไปวินิจฉัยได้ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการได้หมด ต่อไปนี้มีอะไรๆ ก็ยื่นศาลรัฐธรรมนูญอย่างเดียว
ซึ่งตนคิดว่า กรธ.มีเจตนารมณ์เดียวกับแนวทางของกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เพราะเห็นได้ชัดว่า ยังต้องการคงอำนาจไว้ โดยตั้งใจให้พรรคการเมือง รัฐบาลรวมไปถึงรัฐสภาอ่อนแอเพื่อเปิดทางให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี”
(http://www.matichon.co.th/news/5959)
จึงทำให้ สปช. ท่านนี้เรียกร่าง รธน.ฉบับมีชัยว่า ‘ไดโนเสาร์’ เช่นเดียวกับที่ Spokedark ของจอห์น วิญญู กับ พ่อหมอ บอกว่า “ดิ้นกระแด่ว กระแด่ว วกไปวนมา”
(https://www.facebook.com/101103126670529/videos/788398911274277/)
บังเอิ๊น บังเอิญอีกแหละ เสียง ‘ยี้’ ต่อร่างฯ มีชัย ไม่เบาไปกว่าที่เคยมีกับร่างฯ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ (ส้มหล่นไม่ไกลต้นละสิ) สองพรรคการเมืองใหญ่ออกอาการ ‘ไม่เอา’ กันแล้ว
ยกตัวอย่างทางฝั่งเพื่อไทย ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรค ทรท. (Prequel พท.) จัดแจงเปลี่ยนฉากบนหน้าเฟชบุ๊คของเขาใหม่ ด้วยข้อความเร้าใจว่า “เตรียมคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ”
ทางด้านประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคหล่อใหญ่ขวัญใจ มีชัย ไม่คอนด้อม (ที่บอกว่าเรื่องปลอมเอกสารหนีทหาร ไม่ผิด) แม้จะแบ่งรับแบ่งสู้ “ยังเร็วเกินไปที่แต่ละฝ่ายจะมาบอกว่า ต้องรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ”
ก็ยังอุตส่าห์แทงกั๊กดักโต๊ดว่า “การบอกว่า นายกฯเป็นคนนอกได้ แต่ให้พรรคการเมืองเสนอชื่อ คำถามคือ สมมติว่าอยากได้นายกฯในภาวะวิกฤตที่บอกว่าไม่ให้มีฝักมีฝ่าย แต่เสนอโดยพรรคการเมืองจะเป็นไปได้หรือ นี่คือการคิดไม่ครบและไม่ยึดที่หลัก”
(http://www.matichon.co.th/news/6431)
มิใยที่ทั่นรองของชาว ปชป. จะแบ่งรับมากกว่าแบ่งสู้เรื่อง “พรรคการเมืองใหญ่หันมาคุยกัน”
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ตอบผู้สื่อข่าวว่า “คิดว่าเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ที่พรรคการเมืองต้องพูดคุยกัน เพื่อหาข้อยุติ เพราะหากเราไม่คุยกัน ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะไม่ยุติ”
(http://www.matichon.co.th/news/5370)
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แบะท่าไว้เชิง “ทุกคนควรยินดีคุยกันด้วยเหตุและผล แต่ก็ติดประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง ดังนั้น คสช.ต้องเปิดพื้นที่ให้มีการแสดงออกและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบค่อยเป็นค่อยไป”
พูดเหมือนรู้ใจ คสช. เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาช่วยเสริม “ยืนยันว่าขณะนี้ คสช.ไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ
แม้หลายพรรคการเมืองจะเห็นตรงกันอยากให้อนุญาตให้มีการประชุม โดยเห็นว่าจะต้องรอดูสถานการณ์ความเหมาะสมก่อน เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญยังร่างไม่แล้วเสร็จ”
(http://www.krobkruakao.com/ยันห้ามพรรคประชุมถกร่าง รธน. html)
เช่นนี้น่าจะปิดฉากทางร่วมสองพรรคไปก่อนได้ เพราะตามที่มีคนสรุปเนื้อๆ เจตนาของร่าง รธน. มีชัยไว้ว่า
หนึ่ง นายกฯไม่ต้องมาจากเลือกตั้ง (เห็นหน้าทะเล้นของคนไม่ชอบแบรนด์เนมส์ลอยมาแต่ไกล)
สอง เหนือเมฆยังมีศาลรัฐธรรมนูญ (เปิดทางให้ ตลก. เล่นการเมืองโดยไม่ต้องหาเสียง)
สาม วุฒิสภาต้องสรรหา ไขว้ไปไขว้มา (ประมาณว่า ‘ครอสเพลย์’ สนุกสนานในหมู่สภาลูกสภาเต้า)
สี่ คุมกำเนิดรัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาด (แก้ปัญหาต้องไปตั้งรัฐบาลในร้านราบ หรือย้อนกลับไประบบ ‘งูเห่า’)
เอ๊ะ งั้นที่มีคนบอกว่า เอามีชัยเข้ามาปิดจ๊อบ ร่างอย่างดีเพื่อ คสช. อยู่ยาวจริง
จะผ่านประชามติหรือไม่ผ่านไม่ใช่เป้าหมาย ขอเพียงทำแท้งพรรคการเมืองที่ชอบได้เสียงข้างมากเท่านั้นพอ
นี่ไง เข้าไคล้ no condom เพราะเขาตั้งใจทำแท้ง