วันเสาร์, มกราคม 30, 2559

29 มกราคม เป็นวันเกิดของธอมัส เพนน์ (Thomas Paine) (1736-1809) ซึ่งถ้าไม่มีเขา คนอเมริกันอาจไม่สามารถปลดแอกจากจักรวรรดิอังกฤษในปี 1776




29 มกราคม เป็นวันเกิดของธอมัส เพนน์ (Thomas Paine) (1736-1809) ซึ่งถ้าไม่มีเขา คนอเมริกันอาจไม่สามารถปลดแอกจากจักรวรรดิอังกฤษในปี 1776 ทั้ง ๆ ที่เพนน์เป็นคนอังกฤษ อพยพมาเพนซิลเวเนียได้แค่ปีกว่า ๆ ก่อนหน้านั้นเอง ตอนเขาตายไม่มีอนุสาวรีย์ ทั้งในวอชิงตันดีซี และในฝั่งอังกฤษ ศพก็ถูกขุดขึ้นมาขนกลับไปอังกฤษ แล้วสูญหายไป หาคนทำอนุสาวรีย์ให้ไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีเขา บรรดากองทัพปลดแอกอเมริกา อาจไม่คิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์อังกฤษที่ปกครองอยู่ก็ได้ แต่อาจยอมซูเอี๋ยกัน
เพนน์เป็นคนชั้นล่างในอังกฤษ ประกอบอาชีพหลายอย่างแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ลูกเมียตายระหว่างคลอด สุดท้ายรับราชการเก็บภาษี ดันไปเขียนใบปลิวแจกสส.ขอขึ้นเงินเดือน เลยโดนไล่ออก Benjamin Franklin เป็นคนสปอนเซอร์ให้เขามาอยู่ที่อเมริกาเมื่ออายุ 38 ปีแล้ว เขาเป็นคนชอบเถียง ไม่เคยเข้าโรงเรียน เรียนรู้ด้วยตนเอง แต่อยู่ที่เพนซิลวาเนีย เขาทำงานหนังสือพิมพ์

อยู่อเมริกันโคโลนีได้เพียงปีกว่าก็เกิดไอเดียเขียน “ใบปลิว” ยาว 48 หน้า "Common Sense" ซึ่งแรกพิมพ์เมื่อวันที่ 10 ม.ค.1776 ขายดีมาก ขายได้กว่าครึ่งล้าน มากพอ ๆ กับไบเบิล แม้นักเขียนจะโนเนม (เขาไม่ใส่ชื่อจริงในการพิมพ์) เพราะเพนน์จงใจเขียนโดยใช้ภาษาง่าย ๆ หลีกเลี่ยงคำศัพท์ละติน ใช้ศัพท์ทางศาสนาเขามาผสมบ้าง เพื่อให้คนเข้าถึงได้ง่าย ใบปลิวของเขาอ่านกันแพร่หลาย และมีพลังปลุกเร้า ความสามารถสำคัญของเพนน์ไม่ใช่ความลึกซึ้งแยบคายแบบนักวิชาการ แต่เป็นการเขียนที่ปลุกเร้าความรู้สึกคน ใบปลิวของเขาอ่านกันตั้งแต่ในโรงเหล้าจนถึงข้างถนน George Washington แม่ทัพฝ่ายปลดแอกซื้อหนังสือมาแจกให้ทหารอ่านทุกคน

หนังสือแบ่งเป็น 4 ภาค ภาคแรกว่ารัฐบาลซึ่งเป็น “necessary evil” ซึ่งเขาเสนอว่าต้องมาจากการเลือกตั้ง เพราะชอบธรรมมากสุด ประชาชนเป็นคนเลือก อันนี้เป็นพื้นฐานประชาธิปไตยอเมริกาเลย ภาคสองว่าด้วยสถาบันกษัตริย์กับการสืบสันตติวงศ์ ความที่เขาเป็นคนอังกฤษ เขาจึงเจียระไนความเลวร้ายของการใช้ระบบสืบสายโลหิตอย่างดุดัน ประโยคหนึ่งที่เขาเขียนคือ “Of more worth is one honest man to society and in the sight of God, than all the crowned ruffians that ever lived.” แปลง่าย ๆ ว่า “พลเมืองที่ซื่อสัตย์หนึ่งคนมีค่ามากกว่ากษัตริย์ที่เคยมีมารวมกันทั้งหมด” ภาคสาม พูดถึงความจำเป็นที่ต้องประกาศอิสรภาพ ไม่ใช่การประนีประนอมยอมเป็นแค่รัฐในอารักขาของอังกฤษต่อไป และภาคสี่ พูดถึงศักยภาพของอเมริกา ทรัพยากรที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้อเมริกาที่ปลดแอกแล้วพึ่งตนเองได้

ตอนนั้นคนในอเมริกันโคโลนีไม่มีความคิดถึงขึ้นแยกตัวจากอังกฤษ ซึ่งเป็นมหาอำนาจใหญ่สุดของโลก รบชนะฝรั่งเศสได้ และไม่คิดล้มล้างสถาบัน แต่พอได้อ่านเขียนของเขาอย่างแพร่หลาย คนเปลี่ยนใจ หลังจากเขาพิมพ์หนังสือนี้เจ็ดเดือน บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐฯ ก็จัดทำ ”คำประกาศอิสรภาพ” (Declaration of Independence) ขอแยกตัวจากอังกฤษอย่างเด็ดขาด แต่ยังมีสงครามต่อเนื่องมาอยู่ ภายหลังเพนน์กลับไปช่วยการปฏิวัติฝรั่งเศส กลับไปอังกฤษ เกือบถูกประหาร ถูกขังคุก เพราะนอกจากวิจารณ์กษัตริย์แล้ว เขายังวิจารณ์พระเจ้าด้วย เรียกว่าเป็น “troublemaker” อย่างแท้จริง เขาตายเงียบ ๆ ในนิวยอร์ก ไม่มีใครทำอนุสาวรีย์ให้ คนอเมริกันมาสำนึกบุญคุณเขาภายหลังเท่านั้นเอง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงเกิดจากการเปลี่ยนความคิดของมหาชน ไม่ใช่แค่ความเสียสละของชนชั้นนำเพียงไม่กี่คน

http://www.biography.com/people/thomas-paine-9431951#common-sense

https://youtu.be/J-LGxOll2zc

Pipob Udomittipong


...

Thomas Paine's Common Sense - 5 Minute History - Brief Summary

https://www.youtube.com/watch?v=J-LGxOll2zc&feature=youtu.be