ฝีแตกใน ปชป. จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร คอยดูสัญญานจากเกาะสมุย
เมื่อวานหัวหน้าพรรคปิ๊สิด (ที่นายพิชัย รัตตกุล บอกตัดขาด) รับเชิญลุงกำนันไปร่วมงานสมุยเฟสติวัล
ชักรูปกันโอบเกาะไหล่ หัวร่อ ยิ้มร่า พีอาร์ส่งซิก มีแต่ฝี ไม่มีหนอง
รุ่งขึ้นผู้ว่า กทม. ที่แก๊งค์ไอติมของม้าร์คติดต่อไม่ได้ สายไม่ว่าง เพิ่งกลับจากปอร์ตุเกสไม่รอช้า เร่งรีบลงไปสมุยโดยไว นอกจากได้โพสต์ท่าชูสองนิ้วคู่กันหน้ากล้องแล้ว น่าจะมีความนัยเจรจา
สองสามวันที่ผ่านมาพรรคแมลงสาบกระเส่าหนัก หลังจากผู้ใหญ่อย่างนายพิชัยออกมาไขข้อข้องใจเรื่องปีนเกลียวระหว่างหม่อมเอ๋อกับหล่อดี (แต่พูด)
“เคยมีประสบการณ์กับนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. หลายต่อหลายครั้ง โดยตนได้ให้คำแนะนำหรือคำบอกกล่าวไป แต่นายอภิสิทธิก็ไม่เคยปฏิบัติหรือเชื่อฟังคำแนะนำของตนเลย...
ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคปชป.มากว่า ๒ เดือนแล้ว เหตุเพราะปชป.ไม่เหมือนเก่าอย่างที่ตนได้รับการฝึกสอนมา...
ในพรรคขณะนี้แยกออกเป็นหลายกลุ่มหลายก้อน ถ้าปชป.ไม่รวมเอาทั้งคนเก่าและคนใหม่มาผนึกกำลังกันจะไม่มีโอกาสชนะเลือกตั้งเลย”
(http://www.matichon.co.th/news/10559)
นายพิชัยยืนยันด้วยว่า ปัญหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร “คุณชายก็คงจะไม่ยอมเชื่อหัวหน้าพรรคแล้ว คือไม่ได้โกรธกันนะ แต่คงร่วมงานกันไม่ได้”
เรื่องราวเป็นมาอย่างไร ลองไปฟังผู้จัดการออนไลน์ไล่เรียงดู รายนี้เขาหูดี ได้ยินเสียง
“ซุบซิบกระหึ่มพรรคที่ ‘หม่อมหมู’ ตีมึนไม่ยอมส่ง ‘น้ำเลี้ยง’ เข้าต้นสังกัด รวมทั้ง ‘แผนสมคบคิด’ กับ ‘ลุงกำนัน’ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กำลังก่อหวอดเขี่ย ‘พี่มาร์ค’ จากเก้าอี้หัวหน้าพรรค”
(http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx…)
ฝ่ายม้าร์คใช้ปฏิบัติการณ์ ‘blitzkrieg’ โดยแท็คทีมสองวอ เริ่มที่นายวิลาส จันทร์พิทักษ์ กับนายวัชระ เพชรทอง รุมฟัดผู้ว่าฯ เรื่องกลิ่นโชยคอรัปชั่นในศาลาเทศบาล จากนั้นแก๊งค์ม้าร์คพยายามจะเปิดประชุมซักฟอก แต่ คสช. บอกพรรคการเมืองยังประชุมไม่ได้ ผิดกติกรู แม้ต่อสายหมายแลกเบอร์โทร หม่อมก็ไม่รับ
สุดท้ายเลยมีรายการตัดสวาทอย่างเป็นทางการ เมื่อนายจุติ ไกรฤกษ์ กับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ตั้งโต๊ะร่วมกันแถลง
“จากนี้ไปการบริหารของ กทม.ถือเป็นการดำเนินการโดยเอกเทศของหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ เพราะพรรคไม่สามารถใช้ระบบและกลไกในการสนับสนุนติดตามตรวจสอบ การทำงานของกทม.ได้ พร้อมกับขอโทษชาวกทม.ด้วย” นายจุติ เลขาฯ พรรคกล่าว
“ส่วนบุคลากรของพรรคที่ไปทำงานร่วมกับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธ์ ก็ต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะมีผลต่อการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในอนาคตหรือไม่”
บุคคลากรที่หมายตาก็คือ นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กับนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ
(http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/683540)
แต่กระนั้นก็ยังไม่มีการปลด ‘ชายหมู’ จากรองหัวหน้าพรรคเพราะไม่สามารถประชุมพรรคได้ แถมประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง นายศุภชัย สมเจริญ ช่วยย้ำ ‘ปลดไม่ได้’
“เนื่องจากยังไม่ได้มาจากการประชุมพรรค ซึ่งฝั่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เอง ก็ไม่รู้การปลดด้วยวาจาหรือการกระทำของทีมงานประชาธิปัตย์แต่อย่างใด”
(http://www.matichon.co.th/news/11308)
แต่จากท่วงท่าและวาทีของทีมผู้บริหารพรรคส่อแววอยากให้หม่อมลาออกเอง ดังที่นายองอาจกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังสุด
“ส่วนการที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ยืนยันจะไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และรองหัวหน้าพรรคนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เราไม่ได้ก้าวล่วง เนื่องจากตามกฎหมายไม่ได้ห้ามว่าผู้ว่าฯ กทม.จะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง”
(http://www.dailynews.co.th/politics/375240)
งานนี้จึงเป็นอาการฝีแห้งแตกปริ ไม่มีหนอง แต่อักเสบที่เนื้อใน รักษายาก นานกว่าจะหาย แม้จะมีการพูดถึงนายหัว ให้กลับมาเป็นหัวหน้าอีกครั้งเพื่อประทัง ประคองไปจนกว่าจะรอดปาก คสช. ก็ไม่ง่าย ในเมื่อตัวแปรยังอุบไต๋ ค่าย กปปส. จะส่งใครเข้าชิงเก้าอี้จากอภิสิทธิ์ เป็นที่สงสัย
หรือแม้แต่กระแสตั้งพรรคใหม่ คุณชายออกหน้า กำนันดันหลัง คสช. ชักใย ยังเป็น option ตั้งบนโต๊ะ ไม่ได้ลงตะกร้าหรือยัดลิ้นชัก ควักขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้
พวกตัวเอ้ๆ คสช. พูดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่าเดี๋ยวก็ไป ‘ถ้า’ พลเมือง (ประชาธิปไตย) ไม่ต้าน ไม่ค้าน ไม่ประจาน ปล่อยพวกเขาทำตามชอบ พอครบยี่สิบปีคงถึงศรีอาริย์