แอ็คชั่น-ดราม่าแรกของปีใหม่ ๕๙ เห็นจะเป็น ‘ศึกเอแบ็ค’ ที่กรุ่นมาหลายเดือนจนร้อนเร่าเมื่อใกล้สิ้นปี

แอ็คชั่น-ดราม่าแรกของปีใหม่ ๕๙ เห็นจะเป็น ‘ศึกเอแบ็ค’ ที่กรุ่นมาหลายเดือนจนร้อนเร่าเมื่อใกล้สิ้นปี

วันพุธที่ ๓๐ ธ.ค. ๕๘ มีรายงานข่าวและวิดีโอคลิปออนไลน์ให้เห็นกลุ่มคนของ ดร.สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ว่าที่อธิการบดีคนใหม่ พยายามที่จะตัดโซ่เหล็กเปิดประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก อันเป็นความพยายามจะตัดเหล็กเข้าไปยึดสถานที่ทำงานเป็นครั้งที่สาม แต่ถูกกลุ่มผู้รักษาความปลอดภัยของคณะผู้บริหารชุดเก่าสกัดกั้นด้วยการฉีดหมอกควันดับเพลิงเข้าใส่

ท้ายที่สุดเป็นกำลังตำรวจสถานีหัวหมากที่เข้าควบคุมสถานการณ์ และสถาบันเอแบ็คทั้งสองวิทยาเขต (หัวหมากและบางนา) ได้ปิดก่อนกำหนดสองวัน จนกว่าจะถึงการเจรจาสองฝ่ายที่ รมว.ศึกษาธิการ ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ คัดสรรมา ๘ คน ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๙ นี

(รายละเอียดจาก http://www.bangkokpost.com/…/8…/rector-row-reignites-at-abac กับ http://www.thairath.co.th/content/555653)

ความขัดแย้งที่เริ่มมาแต่เมื่อเดือนกรกฎาคม และลุกลามเป็นความรุนแรง โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามใช้กำลังทหารเกื้อหนุน

โดยที่ Ratchaprasong News เอ่ยถึงกรณีพิพาทนี้บนทวีตเตอร์ไว้ว่า “Sudhiporn used military men to help his ABAC take over backed by St Gabriel network close to Gen Prawit.”

อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งมีมาแต่ปี ๒๕๕๗ เมื่อสภามหาวิทยาลัยอนุมัติโครงการวิศวกรรมการบินที่เสนอโดย ดร.สุทธิพร แต่เจ้าของโครงการไม่สามารถหาเงินกู้โดยชื่อตนเองได้ มหาวิทยาลัยจึงเข้าไปดำเนินการโดยจ่ายค่าตอบแทนแก่ ดร.สุทธิพร ๒๔.๕ ล้านบาท

หากแต่ ดร.สุทธิพร ยังต้องการที่จะกำกับโครงการด้วยตนเอง จึงเกิดการขัดแย้งกับกลุ่มผู้บริหารอันมี ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ เป็นอธิการบดี

ความขัดแย้งไปถึงจุดที่ ดร.สุทธิพร สามารถชักจูงให้สภามหาวิทยาลัยสั่งพักงานภราดาบัญชา และมอบหมายให้ ดร.กมล กิจสวัสดิ์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ตั้งแต่กลางปี ๒๕๕๘

ต่อจากนั้นมีการแต่งตั้งให้ ดร.สิทธิพร ขึ้นเป็นอธิการบดีคนใหม่ ซึ่งคณะผู้บริหารชุดเก่าของภราดาบัญชาโต้แย้งว่าเป็นคำสั่งไม่ถูกต้อง ดังปรากฏในหนังสือของภราดาสุรสิทธิ สุขชัย นายกสภามหาวิทยาลัย ระบุว่า

“๒. นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ทราบดีว่าคำสั่งแต่งตั้งตนเป็นอธิการบดีเป็นโมฆะ แต่ยังนำคำสั่งนั้นไปแอบอ้างทำให้เกิดความวุ่นวายในมหาวิทยาลัย”

(http://www.dailynews.co.th/education/370242)

นอกเหนือจากนั้นยังมีกลุ่มผู้รักเอแบ็คและอัสสัมชัญพากันไปยื่นหนังสือทั้งต่อพล.อ. ดาว์พงษ์ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.

มิหนำซ้ำมีการทำคลิปชุดสั้นๆ ออกมาสี่ชุด เล่าความเป็นมาและกำลังเป็นเผือกร้อนสำหรับทีมงานคืนความสุขประเทศไทยของนายกฯ ลุงตู่ ในต้นปี ๒๕๕๙ นี้

https://www.youtube.com/watch?v=Ry3kQ0AD1c0
https://www.youtube.com/watch?v=vsNAnnts4uk
https://www.youtube.com/watch?v=ltD_7hY8R0k
https://www.youtube.com/watch?v=a3SRozt4xuY

ถึงกระนั้นไม่ค่อย ‘ดูดี’ นักสำหรับฝ่าย layman ในว่าที่อธิการบดีใหม่ ไม่ว่าทหารที่อยู่ข้างหลังเขาจะเป็นใคร

เพราะมีคลิปแถมออกมา แสดงถึงอาการอำนาจบาตรใหญ่ให้เห็นจะจะ แจ้งแจ้ง ซะด้วย

https://www.youtube.com/watch?v=oZltjUCpdHc&feature=youtu.be

จะเรียกได้ว่างานนี้เป็นการพิสูจน์ฝีมือขุนศึกในกระบวนการ ‘อยู่ยาว’ ของเสนาธิการคนสำคัญ ผู้ที่วางแผน ‘ขอคืนพื้นที่’ และ ‘กระชับพื้นที่’ อย่างได้ผลชงัดมาแล้วในปี ๒๕๕๓ แม้จะต้องสูญเสียชีวิต ‘ฟายแดง’ นับร้อย แถมด้วยนายทหารเสือตะวันออกสามสี่คนก็ตาม

ปีใหม่แล้วก็ได้แต่หวังแหละน้า ว่าวลีของมิตรสหายไกลๆ ท่านหนึ่ง ที่มีคนตามไล้ค์ ตามฮา ห้า ห้า กันเยอะ

ที่ว่า “แพะรับบาปไปหมดแล้ว เหลือแต่ลิงหลอกเจ้า” มันจะไม่ materialized ให้เห็น