วันศุกร์, มิถุนายน 26, 2558

พนันเอา...กองเดียว Gen Prayut ต้องเห็นข่าวเหล่านี้




จากที่ พล.ท.สุชาติ ผ่องพุฒิ เจ้ากรมทหารสื่อสาร ในฐานะเลขานุการคณะทำงานเพื่อติดตามการเผยแพร่ข่าวสารต่อสาธารณะ ๕ ด้าน ของ คสช. บอกไว้ว่า

“เจ็นเนอรัลประยุทธ์ ตรวจสอบทุกหน้าและทุกคอลัมน์ ในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ” (ควรรวมทั้งฉบับอีเล็คทรอนิคด้วยนะเนี่ย)

พนันเอาขี้หมากองเดียว Gen Prayut ต้องเห็นข่าวเหล่านี้แล้ว

‘คำให้การของนายกลิน เดวี่ส์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นเอกอัคราชทูตสหรัฐประจำราชอาณาจักรไทย’
http://bangkok.usembassy.gov/062315_testimony_nominee_for_a…




“ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ความแตกแยกทางการเมืองภายในประเทศไทยถลำลึกลงไปอย่างมาก นำไปสู่การแบ่งขั้วไม่เพียงระดับการเมืองเท่านั้นแต่ยังแผ่ขยายไปถึงสังคมไทยโดยรวมอีกด้วย สหรัฐอเมริกาไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดในความขัดแย้งนี้ แต่ขอเน้นย้ำว่า สหรัฐอเมริกายึดมั่นสนับสนุนหลักประชาธิปไตยและมั่นคงในพันธะสัญญาของเราต่อมิตรภาพที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์นี้กับประชาชนชาวไทย

นับตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร สหรัฐอเมริกาเน้นย้ำตลอดมาทั้งในเวทีสาธารณะและการเจรจาส่วนตัวถึงข้อกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการที่การปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยได้หยุดชะงักลง รวมถึงการจำกัดเสรีภาพของพลเมืองที่ตามมา อันได้แก่ เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ สหรัฐฯ ยืนยันว่า ประชาธิปไตยจะสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนชาวไทยเลือกผู้แทนและผู้นำของตนเองได้อย่างอิสระและอย่างเท่าเทียมกัน

สหรัฐอเมริกาได้ระงับความช่วยเหลือบางประการตามที่กฎหมายกำหนด จนกว่าไทยจะมีการบริหารประเทศโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเมื่อไทยมีรัฐบาลดังกล่าวแล้ว ประเทศเราทั้งสองจึงจะสามารถกลับไปสู่การมีความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีได้อย่างเต็มรูปแบบ”




กับนี่ ‘คณะกรรมาธิการสิทธิฯยูเอ็น จี้ไทยแก้ไข ม. ๑๑๒’
https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1669077039979996/?type=1&theater

“คณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (CESCR) ระบุหลังพิจารณารายงานสถานการณ์ในประเทศไทยวานนี้ ที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ว่า

ไทยควรปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ว่าด้วยความผิดกรณีหมิ่นสถาบันกษัตริย์ โดยคณะกรรมาธิการมีความห่วงกังวลถึงผลกระทบทางลบ จากการตีความและบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเกินเลยไป จนส่งผลกระทบต่อสิทธิในชีวิตทางวัฒนธรรมของพลเมือง

โดยคณะกรรมาธิการเห็นว่า ไทยควรแก้ไขกฎหมายมาตรา ๑๑๒ ให้มีความชัดเจนไม่กำกวม และมีบทบัญญัติโทษที่ชัดเจนเหมาะสมกับความผิดที่เกิดขึ้น

ด้านสหพันธ์สากลเพื่อสิทธิมนุษยชน (FIDH) ได้ระบุในแถลงการณ์เช่นกันว่า การบิดเบือนเนื้อหาของกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ทำลายภาพพจน์ของไทยและภาพพจน์ของสถาบันกษัตริย์ ถึงเวลาแล้วที่ไทยควรยอมรับคำแนะนำจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและแก้ไขกฏหมายมาตรานี้เสีย”

อ่านแล้วเข้าใจไม่ยากว่าทั้งมวลนี่ ความจริงล้วนๆ ถ้าหากนักข่าวคนไหน ไทย เทศ จะถามถึงความเห็นใครคนใดในคณะผู้ยึดอำนาจแผ่นดิน (ตั้งแต่ผู้นำ ‘ที่สุด’ เรื่อยไปถึงสมาชิกสภาพ่อลูก) ละก็

เข้าข่าย สร้างสรรค์ ไม่ล่อแหลม ไม่บิดเบือน ทั้งนั้นเนอะ

นั่นตามข่าวคุณวาส พาดหัวบางกอกโพสต์ เมื่อวันก่อน “คสช. จะขอผู้สื่อข่าว อย่าได้ทำให้นายกรัฐมนตรี ‘หัวเสีย’”
(http://www.bangkokpost.com/…/ncpo-to-ask-reporters-not-to-u…)

คือว่าอาทิตย์หน้า (คงจะก่อนสิ้นเดือน) จะมีการเรียกตัวบรรดานักข่าวจำนวนมากทั้งไทยและเทศกว่า ๒๐๐ คนไป ‘ชี้แนะ’ (เนื้อข่าวเขาใช้โวแค็พฯ ว่า ‘urge’) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ห้ามตั้งคำถาม ‘ล่อแหลม’ ต่อทั่นผู้ณรรมและรัฐมนตรีคนอื่นๆ นักข่าวจะต้องซักถามอย่าง ‘สร้างสรรค์’ และอย่าได้ ‘บิดเบือนข้อเท็จจริง’ เวลารายงานเป็นข่าวออกมาเป็นอันขาด

ส่วนที่ในข่าวมีเนื้อไม่ครบ หรือไม่มีตรงข้อที่ คสช. อยากให้มี โดยเฉพาะดันมีไอ้ที่ทั่นผู้ณรรมเอ็นจอยปากมากไปหน่อย เกินกว่าที่จะทำให้ ‘ดูดี’ ต้องหยวนดิ (อันนี้เราว่า)

อ้อ แล้วข้อสำคัญทั่นลุฟเทเน้นเจ็นเนอรัลบอกว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องที่นายสั่งแต่อย่างใด” และคงไม่ใช่จัดการงานนอกสั่งด้วย I guess. หากแต่นี่อยู่ในภาระหน้าที่ของทั่นเจ้ากรมฯ ต้องป้องกันไม่ให้เกิดการ

“เผชิญหน้าระหว่างกองทัพบกกับตำรวจ หรือระหว่างตำรวจกับรัฐมนตรีบางคนและเจ้าหน้าที่อาวุโส” (นี่พยายามแปลอย่าง literally เลยละ)

นอกเหนือจากนั้นข่าวคุณวาสเรื่องนี้เอ่ยถึงความ ‘ขี้ฉุน’ ของทั่นเจ็นเนอรัล กับที่เมื่อทั่นโยนเปลือกกล้วยใส่นักข่าวด้วย

ซึ่งทั่นเจ้ากรมฯ ยันว่าตัวทั่นเองแหละที่จัดการติงเตือนโดยตรงกับพวกสื่อที่ตีพิมพ์เรื่องหรือลงภาพไม่เหมาะสม

และอีกครั้ง ‘เจ้านายไม่ได้สั่ง’

เจ้ากรมฯ ย้ำเติมว่า ทั่นนายกฯ ยืนยันเสมอไม่ให้ปิดสถานีโทรทัศน์หรือสื่อสิ่งพิมพ์ที่ ‘กระทำความผิด’ แต่ว่าการปิดสถานี ‘พี้ชทีวี’ นั้น กสทช. ต่างหากที่เป็นคนทำ

เข้าข่าย ‘เจ้านายไม่ได้สั่ง’ และไม่ใช่ ‘จัดการงานนอกสั่ง’ ด้วยมั้ง