ที่มา ประชาไท
Tue, 2015-06-23 20:43
23 มิ.ย.2558 เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและองค์กรภาคประชาชนอีสาน 16 องค์กร ออกแถลงการณ์เรียกร้องเจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับ 7 นักศึกษากลุ่มดาวดิน หลัง 7 นักศึกษาปฏิเสธที่จะไปรายงานกับถูกเจ้าหน้าที่ตามหมายเรียกเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทั่งถูกออกหมายจับในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ คสช.ที่ 7/2557
ในแถลงการณ์กล่าวว่า ไม่มีรัฐบาลใดที่เข้ามาแก้ไขปัญหาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนและชุมชนท้องถิ่นอีสานเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่กลุ่มดาวดินได้ใช้ความรู้ทางด้านกฎหมายเข้าไปติดตามปัญหาผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และสื่อสารเรื่องราวผลกระทบที่เกิดกับชาวบ้านให้สาธารณะได้รับรู้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาของคนในสังคมร่วมกัน
แถลงการณ์ระบุว่า “เนื่องจากว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวเป็นพลังที่บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองสีใดฝ่ายใด และเป็นไปตามหลักการสิทธิมนุษยชนสากล ที่มนุษย์ย่อมมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมือง โดยปราศจากความรุนแรง ตลอดจนเป็นการเคลื่อนไหวที่ยืนหยัดเคียงข้างต่อปัญหาของชุมชนอย่างแท้จริง ด้วยหลักการ สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม ประชาธิปไตย การมีส่วนร่วม และสันติวิธี ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องอดทนต่อการแก้ไขปัญหา โดยไม่ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มนักศึกษาดาวดินทั้ง 7 คน เพราะการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก”
......................................
แถลงการณ์
เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับ "กลุ่มนักศึกษาดาวดิน"
จากกรณีที่นักศึกษากลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม หรือ ดาวดิน ได้ร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อรำลึกเหตุการณ์ ครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จังหวัดขอนแก่น จนเกิดเหตุการณ์จับกุมตัวและตั้งข้อกล่าวหา ต่อนักศึกษากลุ่มดาวดินจำนวน 7 คน ซึ่งภายหลังได้มีการปล่อยตัวและออกหมายเรียกให้ไปรายงานตัวที่ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อครบกำหนดในวันที่ 19 มิถุนายน 2558 นักศึกษาทั้ง 7 คนไม่เข้าไปรายงานตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ คสช.ที่ 7/2557 ตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น
เราในนามเครือข่าย กลุ่ม/องค์กร ที่ร่วมลงชื่อแนบท้ายในแถลงการณ์ฉบับนี้ มีความเห็นว่า ทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ ปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ได้รับการแก้ไข อาทิ ปัญหาการจัดการพื้นที่ป่าไม้และที่ดิน ปัญหาเหมืองแร่ ปัญหาการเปิดให้สัมปทานปิโตรเลียม รวมทั้งโครงการผันน้ำโขง เลย ชี มูล และโครงการอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลกำลังมีแผนที่จะดำเนินการ ทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบกับประชาชนและชุมชนท้องถิ่นอีสานเป็นบริเวณกว้าง "กลุ่มนักศึกษาดาวดิน" ได้ใช้ความรู้ทางด้านกฎหมายที่ร่ำเรียนมา โดยการเข้าไปติดตามปัญหาผลกระทบด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้สื่อสารเรื่องราวของชาวบ้านที่เกิดขึ้น ให้สังคมสาธารณะได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาของคนในสังคมร่วมกัน
เนื่องจากว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาดังกล่าวเป็นพลังที่บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองสีใดฝ่ายใด และเป็นไปตามหลักการสิทธิมนุษยชนสากล ที่มนุษย์ย่อมมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมือง โดยปราศจากความรุนแรง ตลอดจนเป็นการเคลื่อนไหวที่ยืนหยัดเคียงข้างต่อปัญหาของชุมชนอย่างแท้จริง ด้วยหลักการ สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม ประชาธิปไตย การมีส่วนร่วม และสันติวิธี ดังนั้น เจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องอดทนต่อการแก้ไขปัญหา โดยไม่ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มนักศึกษาดาวดินทั้ง 7 คน เพราะการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก...
ooo
https://www.youtube.com/watch?v=0pEJgCcQw2g
ooo
“ผมอยากจะบอกว่า สิ่งที่พวกคุณทำมีความสำคัญอย่างยิ่ง” นิธิ วีดีโอคอล ขอบคุณ 7 ดาวดิน
Wed, 2015-06-24 00:44
ที่มา ประชาไท
เปิดคลิปวีดีโอคอล นิธิ เอียวศรีวงศ์ พูดคุยกับ 7 นักศึกษาดาวดิน และชาวบ้านนาหนองบง เผยความรู้สึก ขอบคุณ ดาวดินที่ทำให้สังคมตระหนักว่า เราปล่อยให้เผด็จการ รังแกคนเล็กๆต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไม่ได้
"สิ่งที่คุณทำมีความสำคัญอย่างยิ่ง" สารจากนิธิ ถึง ดาวดิน
ผมอยากจะบอกคุณว่าอย่างนี้นะครับ สิ่งที่คุณทำมีความสำคัญอย่างยิ่ง การที่คุณลุกขึ้นมาบอกสังคมว่า เผด็จการทหารไม่แก้ปัญหา ตัวของมันเองนั้นแหละที่เป็นปัญหา แค่นี้ก็เป็นความกล้าหาญที่คนรุ่นผมจะต้องแสดงความนับถืออย่างสูง แต่ที่เหนือกว่าการออกมาบอกว่าการรัฐประหารของเผด็จการทหารนั้นไม่แก้ปัญหา และตัวมันเองยังเป็นปัญหา อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากคือ เผด็จการทหารทำให้อำนาจต่อรองของประชาชนเล็กๆ จำนวนมากในสังคม หายไปหมดเลย แม้แต่ในระบอบประชาธิปไตยปกติพวกเขาก็มีอำนาจต่อรองน้อยอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ภายใต้เผด็จการทหาร อำนาจต่อรองที่มีอยู่น้อยนิด กลับหมดไปเลย
ประเด็นเรื่องคนเล็กๆ ถูกรังแก ไม่ค่อยมีคนสนใจ จนกระทั่งพวกคุณชี้ให้เห็นถนัดมากขึ้นว่า คนเล็กๆ ภายใต้เผด็จการทหารคือคนที่รับเคราะห์กรรมมากที่สุด และตรงนี้ผมก็ต้องขอขอบพระคุณ พวกคุณทุกๆ คนที่ทำให้สังคมตระหนักว่า เราปล่อยให้เผด็จการทหาร รังแกคนเล็กๆ เหล่านี้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดไม่ได้ ขอบพระคุณมาก
คุณคงเป็นก้อนหินก้อนแรก ถ้าพูดตามสำนวนสมัย 14 ตุลา และผมเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นแค่ก้อนเดียวจบแน่ๆ คงมีก้อนอื่นๆ ตามไปอีก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมเชื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงไปยิ่งกว่าสมัย 14 ตุลา ด้วยซ้ำไป อย่างน้อยสังคมไทยไม่สามารถจะอยู่ภายใต้เผด็จการไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
เราจะทำให้การรัฐประหารครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายได้อย่างไร ?
มันขึ้นอยู่กับว่าการรัฐประหารครั้งนี้จะสิ้นสุดอย่างไร ถ้าสิ้นสุดแบบประนีประนอมกัน การรัฐประหารก็อาจจะเกิดขึ้นอีก แต่ถ้ามันเป็นการสิ้นสุดแบบชนิดที่ฝ่ายที่ทำรัฐประหาร ไม่สามารถที่จะรักษาอำนาจไว้อีกเลย เราจะสามารถแก้ไขบ้านเมืองเราให้ปลอดพ้นจากการรัฐประหารได้ ผมคิดว่าไม่ควรจะมีการประนีประนอมชนิดที่หยวนๆ กันไป ใครทำผิดก็หยวนๆ กันไป ผมคิดว่าอย่างนี้ไม่ได้ มันก็จะเกิดการรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีที่สิ้นสุด ผมคิดว่าพวกเขาได้ช่วยตัวเขาในการทำให้ตัวเขา เปื่อยขึ้น เปื่อยขึ้น ทุกวัน คนจำนวนมากที่สนับสนุนรัฐประหารยังมีโอกาสที่จะมองเห็นข้อไม่ดีของการรัฐประหารมากขึ้นทุกวัน เราต้องแสวงหามิตรให้มากกว่าศัตรู