https://www.youtube.com/watch?v=ebpAK3g1Ma0
"ชาญวิทย์"ชี้หาก"กษัตริย์"มีวิสัยทัศน์ประชาธิปไตย ไทย จะยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่า ญี่ปุ่น.
jom voice
Published on Jun 23, 2015
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เนื่องในโอกาสครบ 83 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 เกี่ยวกับ วิสัยทัศน์ของ พระมหากษัตริย์ไทย ในการวางรากฐานความเป็นประชาธิปไตยในสังคมไทยว่า มีน้อยมาก เพราะชนชั้นสูง และสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องการที่จะมอบอำนาจให้กับประชาชน และดูถูกดูแคลนประชาชนมาโดยตลอดว่าไม่มีความรู้ ไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด และการอ้างว่า รัชกาลที่ 5 เป็นผู้วางรากฐานการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในสังคมไทย ก็เป็นความเท็จ ไม่มีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะนโยบายการปกครองแบบหัวเมืองหรือมณฑลนั้น ก็เป็นไปเพื่อรวมศูนย์อำนาจทั้งหมดไว้ที่ส่วนกลางเท่านั้นเอง ส่วนรัชกาลปัจจุบัน ก็ไม่มีโครงการ หรือพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นเลย เพราะเกรงว่าจะเป็นการลงมายุ่งเกียวกับการเมือง ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องน้ำและความเป็นอยู่ของประชาชนมากกว่า หาก สถาบันกษัตริย์ไทยมีวิสัยทัศน์ในเรื่องประชาธิปไตย ประเทศไทย จะยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าประเทศญี่ปุ่น
https://www.youtube.com/watch?v=3wYeMr7qApI&sns=em
วัฎจักรชั่วร้ายทำลาย"ประชาธิปไตย" 2475-ปัจจุบัน
jom voice
Published on Jun 24, 2015
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia ในโอกาสครบ 83 ปี เปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 (ตอน2) ว่า ประชาธิปไตยไทย ตลอด 83 ปีลุ่ม ๆ ดอน ๆ มาตลอด เพราะฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชนถูกทำให้่อ่อนแอโดย 3สถาบันหลักคือ สถาบันทหาร สถาบันข้าราชการ ซึ่งประกอบด้วย พลเรือน ทหาร และตุลาการ รวมทั้ง สถาบันกษัตริย์ ซึ่งสามสถาบันนี้เข้มแข็งมากขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ประกอบกับ เหตุการณ์สวรรคตของ ร.8 ที่ส่งผลให้การเมืองไทยผกผันและกลายเป็นวัฎจักรชั่วร้ายทำลายประชาธิปไตยให้ลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนถึงปัจจุบัน
ส่วนข้อสงสัยที่ว่า เพราะ อ.ปรีดี พนมยงค์ ประนีประนอมกับฝ่ายเจ้ามากเกินไป จนทำให้สถาบันกษัตริย์กลับเข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง คือความล้มเหลวของการพัฒนาประชาธิปไตยไทยจนถุึงปัจจุบันหรือไม่ ดร.ชาญวิทย์กล่าวว่า เป็นการมโนไปเอง เรื่องนี้ไม่มีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่จะสรุปได้เช่นนั้น