วันศุกร์, มิถุนายน 26, 2558

ผม (“ปราโมทย์ นาครทรรพ”) ขอถามซ้ำนะ ขอถามซ้ำเป็นครั้งที่สามว่าเชิญพลเอกประยุทธ์หรือไม่ ท่านทูตต้องตอบตรงๆ ตอบโดยไม่ต้องใช้คำพูดก็ได้...




อ่านบทสนทนา“ปราโมทย์ นาครทรรพ”สอนมวยรักษาการทูตสหรัฐฯ ถึงกับอ้ำอึ้ง!

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558
มติชนออนไลน์

ภายหลังจากที่นายดับเบิลยู. แพทริค เมอร์ฟี อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าขอโทษ นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักรัฐศาสตร์และนักวิชาการอิสระ กรณีระบุชื่อตำแหน่งของนายปราโมทย์ ว่า "Anti-Thaksin Activist" หรือ นักเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณ พร้อมกันนี้ ยังได้มอบบัตรเชิญใหม่เพื่อร่วมงานฉลองวันชาติสหรัฐฯ ด้วยนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายปราโมทย์ นาครทรรพ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Pramote Nakornthab" เผยถึงบทสนทนาบางช่วง โดยระบุว่า

ผมเชื่อว่าทูตจะต้องรายงานกลับไปวอชิงตันว่าท่านพูดว่าอย่างไรกับผมบ้าง และผมสันนิษฐานว่า ทางสถานทูตคงติดตามอ่านเฟซบุ๊กของผม ผมจึงยินดีมาก และคอยอ่านรายงานของท่านทูตเช่นเดียวกัน ความลับไม่มีในโลก
ผมจะย่อการสนทนาตอนที่ 2 นี้เป็นหัวข้อสั้นๆ ผมจะบันทึกรายละเอียดเก็บไว้ทีหลัง ดังนี้

การสนทนาตอนที่ ๒ เรื่องการจ่าหน้าบัตรเชิญ

ท่านทูตบอกว่าเสียใจจริงๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้นต้องขอโทษในความผิดพลาด ขอรับรองว่าไม่มีเจตนาเลยเสียใจจริงๆ

ผมตอบว่าผมไม่โกรธ หรือถือโทษเสมียน หรือเจ้าหน้าที่คนใดๆ ในสถานทูตหรอก เพราะผมเข้าใจดีว่าต้องทำงานอย่างไร และการทำงานผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา

แต่ผมโทษความคิด หรือคำสั่ง หรือนโยบายที่มาจากเบื้องบน ที่ทำให้เกิด data base ที่แบ่งแยกคนไทยออกเป็นพวกๆ เช่นผมเป็นพวกนักเคลื่อนไหวแอนตี้ทักษิณเป็นต้น นั้นผมรับไม่ได้ และขอเตือนให้ทราบ

ท่านทูตตอบว่ารับรองว่าไม่มี data base และไม่มีการแบ่งแยกคนไทย เขาถือว่าทุกฝ่ายเป็นมิตรทั้งสิ้น เป็น broad spectrum คือการรวมคนไทยอย่างกว้างขวาง รัฐบาลอเมริกันถือว่าเป็นมิตรกับคนไทยทุกคน ขอให้เชื่อ

ผมตอบว่าขอได้ แต่ให้ไม่ได้ การกระทำที่ผ่านๆ มาของสถานทูตอเมริกัน นึกว่าผมไม่รู้อย่างนั้นหรือ ผมรู้เพราะผมเรียนการเมืองอเมริกันมามากพอที่จะสอนคนอเมริกันได้ ผมรู้มากกว่าที่ผมพูด บางอย่างผมก็ไม่พูด เพราะผมไม่อยากให้คนไทยกับคนอเมริกันเกลียดกัน ผมถือว่าคนไทยโปรอเมริกันมากกว่าใครๆ และผมไม่ต้องการให้สัมพันธภาพอันดีระหว่างสองประเทศที่ยืนยาวมาถึง ๘๐ ปี ต้องเปลี่ยนแปรไป

ผมไม่อยากเห็นทูตอเมริกันถูกปาดหน้าอย่างในเกาหลีใต้ หรือถูกขู่ฆ่าทุกวันอย่างในญี่ปุ่น บางอย่างผมจึงไม่พูดและไม่เผยแพร่ เพราะไม่ต้องการเห็นคนไทยมาเยี่ยวรดธงอเมริกันหรือมาพังรั้วสถานทูต

ท่านทูตก็ยืนยันแล้วยืนยันอีกว่าเป็นอย่างที่พูดแต่เมื่อมันเกิดอย่างนี้ก็ไม่สบายใจมากจึงต้องตามมาขอโทษผมด้วยตนเอง

ผมก็บอกท่านว่าไม่จำเป็นเลยและขอโทษท่านทูตด้วยที่ไม่สามารถต้อนรับได้ที่บ้านหรือแม้แต่โรงแรมใกล้ๆ สถานทูตเมื่อเช้านี้ต้องทำให้ท่านทูตต้องวิ่งตามมาถึงสนามบินไม่ได้ตั้งใจทำให้ลำบากเลย

ท่านทูตตอบว่าไม่เป็นไรเลย เป็นหน้าที่ของท่าน ด้วยความจริงใจจริง และยืนยันว่าความผิดพลาดเฉพาะเรื่องผมนั้นผิดพลาดจริง แต่สถานทูตเป็นมิตรกับคนไทยทุกกลุ่ม ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง กลุ่มนั้นก็เชิญ กลุ่มนี้ก็เชิญ ข้าราชการก็เชิญ คนในรัฐบาลก็เชิญ และอยากเชิญผมด้วยใจจริง เชิญด้วยตนเอง หวังว่าผมจะไปร่วม

ผมบอกว่าผมไปไม่ได้ดอก เพราะผมจะไปที่อื่นอยู่แล้ว (ความจริงผมไม่ได้โกหก) แต่ผมไม่สำคัญหรอก คนอื่นสำคัญกว่า และจะพิสูจน์ความจริงใจของนโยบายอเมริกัน เช่นการเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นต้น เพราะฉะนั้นช่วยตอบผมด้วยว่าสถานทูตเชิญพลเอกประยุทธ์หรือไม่

เขาตอบเลี่ยงๆ อ้ำๆ อึ้งๆ ว่าเชิญเยอะแยะหลายคน รวมทั้งผู้ใหญ่หลายคน

ผมบอกว่าถามเป็นครั้งที่สองนะ คำถามก็ง่ายๆ ตรง ช่วยตอบตรงๆ ว่าเชิญพลเอกประยุทธ์หรือเปล่า

ผมก็ได้คำตอบครั้งที่สองคล้ายๆ คำตอบครั้งที่หนึ่งอีกว่าอย่าให้เขาระบุชื่อว่าเชิญใครบ้างได้ไหม ขอรับรองว่าเชิญมากทั่วถึงจริงๆ

ผมจึงคาดคั้นว่า ผมขอถามซ้ำนะ ขอถามซ้ำเป็นครั้งที่สามว่าเชิญพลเอกประยุทธ์หรือไม่ ท่านทูตต้องตอบตรงๆ ตอบโดยไม่ต้องใช้คำพูดก็ได้ ผมมีวิธีอ่านคำตอบ

ผมเข้าใจว่าผมอ่านคำตอบที่ท่านทูตไม่ยอมเปล่งวาจาว่าไม่ได้เชิญ

ผมจึงบอกท่านทูตว่านั่นไงเห็นไหมล่ะ กระทรวงต่างประเทศคุณและรัฐบาลคุณเป็นเสียยังงี้นี่ดีแต่เป็นพลเอกประยุทธ์นะถ้าเป็นผมผมจะทำยังไงรู้ไหม

ท่านทูตไม่ว่าอะไร ผมเลยบอกว่า ผมน่ะอยากบอกรัฐบาลของผมว่า ถ้าอเมริกันเป็นอย่างนี้ ผมจะเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากวอชิงตัน ความจริงไม่มีเหตุผลอะไรที่ทูตไทยจะแจ้นไปวอชิงตันเลย ในเมื่อทูตอเมริกาก็ยังไม่มี และไม่มา (การทูตไทยก็ตกต่ำมาก ชอบทำตัวให้เขาดูถูกยังงี้ ผมไม่ได้บอกเขานะครับ ผมพูดกับพวกเรา)และถ้าเป็นผมผมจะบอกรัฐบาลอเมริกาว่า ถ้ายูยังมีท่าทีแบบนี้ เอกอัครราชทูตของอเมริกันก็อย่าเพิ่งส่งมา

ขอให้พวกเราจงรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทย เมืองไทยเป็นเมืองสำคัญของโลกก่อนที่อเมริกาจะเกิดตั้งหลายร้อยปีถ้าเทียบชีวิต 239 ปีของอเมริกาก็คือเด็กหัวเท่ากำปั้นดีๆ นี่เอง เราจะต้องช่วยกันสั่งสอนมิให้ยะโสกับผู้ใหญ่ แต่ทำด้วยความรักและเมตตาครับ มิใช่เกลียดชัง เหมือนกับที่ผมพูดกับท่านทูตด้วยความจริงใจและเปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร

ooo


ooo

ประยุทธ์ บ่นน้อยใจ โดนวิจารณ์ไร้ผลงาน เสียใจเกิดในประเทศนี้


https://www.youtube.com/watch?v=LoxbDjJhsng&feature=youtu.be

Published on Jun 23, 2015
มติชนทีวี 23 มิถุนายน 2558 เมื่อเวลา 16.40 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางกลับจ­ากการเข้าร่วมประชุมผู้นำที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ถึงกรณีถูกวิจารณ์ไม่มีผลงาน