ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
นักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ตกหัวทิ่มทุกตลาด "แอตต้า" แจงครึ่งปีแรกนักท่องเที่ยวต่างประเทศหายไปเฉียด 1 ล้านคนแล้ว เผยจีนตลาดอันดับ 1 หายไปเกือบ 60% เวียดนามหายไป 81% คาดตลาดกลับมาดีขึ้นได้ในไตรมาส 3 นี้ วอน คสช.ฟอร์มทีมรัฐบาลฟื้นความเชื่อมั่นต่างชาติโดยเร็ว ฟาก ททท. 4 สำนักงานในจีนชี้แนวโน้มเริ่มพลิกฟื้น เตรียมเดินหน้าทำการตลาดเต็มที่
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (1 มกราคม-24 มิถุนายน 2557) ว่า นักท่องเที่ยวปรับตัวลดลงในทุกตลาดรวม 955,648 คน หรือลดลง 42.87% ซึ่งเป็นการปรับลงต่อเนื่องมากตั้งแต่ต้นปี โดยเดือนมกราคมปรับตัวลดลง 24.40% กุมภาพันธ์ลดลง 37.84% มีนาคมลดลง 40.21% เมษายนลดลง 47.85% พฤษภาคมลดลง 48.38% และมิถุนายนลดลง 67.87%
ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวหลัก 10 อันดับแรกของไทยคือ จีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ปรับตัวลดลง 57.11% เหลือเพียงแค่ 326,837 คน รัสเซียลดลง 22.12% อินเดียลดลง 34.11% ญี่ปุ่นลดลง 65.73% เกาหลีลดลง 53.08% เยอรมนีลดลง 38.46% ฝรั่งเศสลดลง 24.29% ไต้หวันลดลง 69.33% อังกฤษลดลง 47.32% และเวียดนามลดลง 81.52% (ดูตาราง)
นายศิษฎิวัชรกล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการทั้งบริษัททัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ประสบปัญหาพอสมควร อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ในภาพรวมน่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 นี้ และน่าจะกลับมาดีในระดับที่น่าพอใจได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากบรรยากาศในภาพรวมเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการยกเลิกเคอร์ฟิวของ คสช.
"ตัวเลขกรุ๊ปทัวร์โดยรวมปีนี้หายไปไม่ต่ำกว่า 35% เนื่องจากภาพรวม 2 ไตรมาสแรกติดลบไปแล้ว 42% ส่วนไตรมาส 3 ก็น่าจะยังต่ำกว่าปีที่แล้ว จะพอคาดหวังได้บ้างก็คงเป็นไตรมาส 4 เพราะแม้ว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวมตอนนี้จะเริ่มดีขึ้น แต่กรุ๊ปทัวร์ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนัก" นายศิษฎิวัชรกล่าว
และว่าแม้บรรยากาศทางการเมืองของไทยจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้วในขณะนี้ แต่กลุ่มผู้ประกอบการในภาคธุรกิจท่องเที่ยวก็อยากให้ทาง คสช.ทำการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจต่อต่างประเทศ
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดอันดับ 1 นั้น นายศิษฎิวัชรกล่าวว่า ขณะนี้ติดลบอยู่ที่ 57.11% แต่เชื่อว่าทั้งปีตลาดจีนน่าจะติดลบอยู่ที่ราว 45% ทั้งนี้จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการพบว่า กรุ๊ปทัวร์จีนจะเริ่มกลับเข้ามาอีกครั้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้
สอดรับกับนายสันติ แสวงเจริญ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกว่างโจว ที่กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนเริ่มชะลอเดินทางเข้ามาไทยตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา และเริ่มหดตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นปีที่ลดลงไปราว 30-40% แต่ถึงขณะนี้ตลาดเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมนี้ซึ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ของคนจีน ซึ่งขณะนี้มีบริษัททัวร์จำนวนมากเข้ามาพูดคุยถึงการทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดร่วมกับทาง ททท.แล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เชื่อว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
"ในพื้นที่รับผิดชอบของ ททท. สำนักงานกว่างโจวนั้น นักท่องเที่ยวราว 70% ยังเป็นกรุ๊ปทัวร์ ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวอิสระหรือเอฟไอทีก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น และคนจีนที่นี่ส่วนใหญ่ยังชอบประเทศไทย"
เช่นเดียวกับนายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเซี่ยงไฮ้ ที่กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนในพื้นที่ของสำนักงาน ททท.เซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่เป็นตลาดที่ปรับตัวได้เร็ว เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสระถึงราว 65% และก็ยังนิยมที่จะมาเที่ยวเมืองไทย และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางซ้ำในสัดส่วนที่สูง
ทำให้ในช่วงที่ประเทศไทยมีปัญหานั้น ตลาดนี้ถือว่ากระทบไม่มากนัก เห็นได้ชัดเจนจากจำนวนตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนที่ยื่นขอวีซ่านั้นไม่ได้ตกลง ขณะที่สายการบินที่บินเข้ากรุงเทพฯก็ยังให้บริการปกติ ขณะเดียวกันก็ยังมีสายการบินใหม่ ๆ ที่เปิดให้บริการบินตรงไปยังภูเก็ตและกระบี่อีกส่วนหนึ่งด้วย
ด้านนางเพลินพิศ หมื่นพล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเฉิงตู กล่าวว่า ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของคนจีนเข้าไทยปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ต้นปี โดยพบว่าปริมาณที่นั่งของเครื่องบินโดยสารมีมากกว่าความต้องการค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามจากการพุดคุยกับเอเย่นต์ทัวร์พบว่าหลังจากที่ คสช.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ทำให้ตัวเลขการจองทัวร์ปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น
"เราพยายามยกระดับนักท่องเที่ยวในโซนนี้ให้เป็นกลุ่มคุณภาพมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ทาง ททท.ก็มีพันธมิตรซึ่งเป็นบริษัททัวร์เป็นจำนวนมากเข้ามาช่วยกันพัฒนาแพ็กเกจแล้ว จึงมั่นใจว่าสถานการณ์ของตลาดจีนเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น" นางเพลินพิศกล่าว
นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิง กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดจีนขณะนี้ปรับตัวดีขึ้นบ้างเล็กน้อย เอเย่นต์ทัวร์จำนวนมากได้สอบถามถึงสถานการณ์ของประเทศไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่บางส่วนยังชะลอแผนการเดินทางอยู่ แต่เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้แน่นอน และจากการสอบถามในส่วนของนักท่องเที่ยวอิสระ (เอฟไอที) ก็พบว่ากลุ่มนี้เข้าใจสถานการณ์ของไทยดี และยังมีแผนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอยู่ ที่สำคัญไทยยังเป็นเดสติเนชั่นในใจอยู่เหมือนเดิม
"ข้อมูลดังกล่าวทำให้ ททท. สำนักงานคุนหมิงยังเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็มีแผนทำทัวร์คาราวานร่วมกับบริษัททัวร์ 10 กว่าแห่งเข้ามาประเทศไทยในช่วงซัมเมอร์นี้ นอกจากนี้ยังมีแผนนำสถานีโทรทัศน์ ศิลปินนักร้องของจีนเข้ามาถ่ายทำสารคดีและเอ็มวีในประเทศไทย รวมถึงจัดโรดโชว์เข้าไปในเมืองรอง ๆ อีกด้วย" นางปิ่นนาถกล่าว